บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2010

เป็นทุกข์เพราะสิว...พิจารณาบทสวดนี้ค่ะ

บีมจำบทสวดนี้ได้ขึ้นใจ แต่ว่า ได้ยินคำว่า "วะตะ" เป็น "อนันตะ" ก็เลยหาความหมายของบทสวดไม่ได้เสียที "อนิจจา วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน อุปปะชิตะวา นิรุชฌันติ เตสัง วูปะสะโม สุโข ฯ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีการเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป การระงับสังขารนั้นได้ เป็นเหตุให้มีสุข" ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://in4cus.multiply.com/journal/item/7 บีมจำได้ตอนที่ได้ฟังบทสวดก่อนจะฌาปนกิจคุณยายเมื่อร้อยกว่าวันก่อนค่ะ ขอบอกว่า "มันกินใจมาก" เพราะบีมแปลในขณะที่พระท่านสวดและบรรยากาศด้วยค่ะ .... สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง....มีเกิดก็มีดับ... ทั้งที่บีมเองเรียนภาษาบาลีมาตั้งน้านนานแล้วค่ะ ตอนประถมแค่นั้นเอง พอจะมีพื้น แต่ไม่มากเลย แต่คงเป็นเพราะใจเรามีสมาธิ และสงบ มันเลยเข้าถึงแม้จะไม่เข้าใจบทสวดเต็ม ๆ ก็เถอะ คุณยายของบีม เป็นตัวอย่างของสัจธรรมที่บีมเห็นชัดและทำให้ปลงได้ค่ะ คุณยายเป็นคนสวยมาก ๆ รักสวยรักงาม ชอบซื้อของสวย ๆ งาม ๆ ชอบทำบุญ จิตใจดีมาก ๆ คือสวยทั้งนอกและใน พอคุณยายป่วยเป็นต้นมา สังขารก็ทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ จากที่เคยสวย ก็เป็นไม่ส

เรื่องของคนขี้แพ้ โดย วนิษา เรซ

วันนี้ได้รับ FW เมลมาค่ะ เพื่อนหลายคนอาจจะเคยอ่านแล้ว แต่บีมเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และกลัวว่าในอนาคตจะหาเมลนี้ไม่เจอ เลยอยากจะเอามาแปะไว้ที่บล็อกเป็นคลังความรู้ของตัวเอง เพราะส่วนใหญ่บล็อกอยู่แล้วจะอยู่เลย ไม่เหมือนอีเมลที่บางทีโดนแฮ็คและเข้าไม่ได้ซะงั้น มาเริ่มอ่านกันเลยนะคะ... เมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หนูดีเพิ่งรู้ตัวค่ะว่า เป็นคนขี้แพ้อย่างหนัก เพราะที่ผ่านมามีคุ ณหมอหลายรายพยายามบอกหนูดีแล้ วว่าหนูดีเป็น “ภูมิแพ้” แต่หนูดีก็ไม่เคยตั้งใจฟัง ให้ยาอะไรมาหนูดีก็ไม่เคยยอมกิ นแค่รับยามาพอให้คุณหมอสบายใจ พอถึงบ้านก็วางไว้อย่างนั้ นจนอาการหายไปเองเรียกว่าอยู่ ใน ภาวะ “ปฏิเสธความจริง” และดื้อเงียบแบบสุดขีด เพราะใครเลยจะนึกว่า คนที่ใช้ชีวิตปกติได้ เดินทางไปไหนมาไหนได้ ป่วยก็ไม่บ่อย เกสรดอกไม้ก็ไม่เคยแพ้จะเป็น“ คนขี้แพ้”กับเขาได้ด้วยแต่ก็เป็ นไปแล้วค่ะ และแพ้ในสิ่งที่ไม่น่าแพ้ได้ คือ อาหารโปรดที่ชอบกิน รวมถึงโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ของตัวเองด้วย เมื่อต้องมาศึกษาข้อมูลเพื่อดู แลตัวเอง ก็เลยตกใจว่า หนูดีใช้ชีวิตมาได้ตั้ง 30 ปีเข้านี่แล้ว โดยกินอาหารที่ตัวเองแพ้มาเป็ นส่วนใ

ยินดีกับเพื่อนอีกรายค่ะ ^^

เมื่อวานได้รับอีเมลค่ะ บีมขออนุญาตไม่เอ่ยนามเพื่อนคนนี้นะคะ เพราะเค้าไม่ประสงค์จะออกนามค่ะ ^^ แต่เรื่องราวทำให้บีมยิ้มออก และเค้าก็คงจะยิ้มออกมากมายกว่าบีม เพราะเพื่อนคนนี้มีปัญหาสิวเรื้อรังเช่นกันค่ะ นานหลายปีด้วย... เธอเมลมาบอกว่า ได้ไปหาหมอจีนมาค่ะ บีมแอบขำนิดนึง...คือ คุณหมอบอกว่า ไม่เห็นมีสิวเลย แล้วเธอวงเล็บบอกว่า (ก็โบ๊ะหนาไป 3 ชั้น) อิอิ...ก็แหม..คุณหมอเป็นผู้ชายคงจะไม่ทันสังเกตแน่เลยเนาะ ^^ คิดแล้วน่ารักดีค่ะ คุณหมอจับชีพจรแล้วบอกว่า เลือดลมไม่ดีนะ ไม่ค่อยได้ออกกำลังใช่มั้ย เธอบอกว่า ใช่เลย... คุณหมอบอกเธอว่า ให้กลับไปดูแลสุขภาพ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ออกกำลังค่ะ และไม่ฝังเข็มให้นะคะตอนแรก แต่เธอว่ามาถึงที่แล้ว ขอหน่อยเถอะ ^^ ในที่สุดก็ได้ฝังเข็มค่ะ เธอบอกว่า ตอนฝังนั้น ในท้องน้อย และแถว ๆ นั้นรู้สึกเหมือนมีลมผ่านค่ะ หลังจากนั้น 30 นาที เกิดอาการอยากเข้าห้องน้ำทันทีค่ะ พอกลับบ้านมา ก็ดูแลตัวเองตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ คือ ดื่มน้ำ 2 แก้วตอนตื่นนอน (ถ้าดื่มเยอะไป หัวใจจะวายเฉียบพลันนะคะ เพราะหัวใจสูบฉีดไม่ทัน เธอบอกมาในอีเมล ซึ่งคุณหมอบอกมาอีกทีค่ะ) แต่ทั้งวันก็ดื่มได้ 1 ลิตรตามปกติค่ะ ออกกำ

หยิน - หยาง: ปรับตัวให้สอดคล้องกับหลักธรรมชาติเพื่อปรับสมดุลร่างกาย ตอนที่ 1

รูปภาพ
วันนี้สัญญาว่าจะอัพบล็อกก็ต้องมาอัพบล็อกให้ได้ค่ะ แม้จะค่ำแล้วก็ตาม ^^ เพราะเรื่องนี้มันน่าเขียนนัก ... ตัวบีมชอบปรัชญาตะวันออกตั้งแต่สมัยเรียน ตอนนั้นเรียนปรัชญาอินเดีย ขงจื้อ เต๋า แล้วรู้สึกหลงรัก เต๋า มาก ๆ และจำไม่ได้แล้วว่า ไปหลงรัก หยิน หยาง ที่ไหน... รู้แต่ว่า หยิน หยาง อธิบายได้ทุกสิ่งบนโลก รวมถึงสุขภาพ... การดูแลสุขภาพแนวธรรมชาติบำบัด ถ้าหากมีความเ้ข้าใจเรื่องธรรมชาติอย่างแท้จริง มันจะอินและรู้สึกสนุกค่ะ จริงๆ แล้วถ้ามีเวลามากกว่านี้ บีมจะเขียนเรื่องนาฬิกาีชีีวิตฉบับอธิบายด้วย หยิน หยาง ที่บีมได้อ่านจากนิตยสารหมอชาวบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อนค่ะ ดีมาก ๆ ทำให้เข้าใจอะไร ๆ ได้มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสมดุลร่างกายค่ะ และทำให้เข้าใจเลยว่า ทำไมคนเราสมัยนี้ถึงป่วยกัน และทำไมการปรับตารางเวลาและวิถีีีชีวิตให้สอดคล้องกับหลักการธรรมชาติจึงทำให้หายป่วยได้อย่างมหัศจรรย์ เอาล่ะค่ะ ไม่พูดพล่ามเนาะ เพราะจริงๆ แล้วตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเราไม่ควรทำงานหนักแล้วล่ะค่ะ บีมเองพอได้อ่านบทความดังกล่าว ก็ทำให้รู้สึกว่า อยากจะทำให้ชีวิตปรับไปตามธรรมชาติดั้งเดิมของเค้าค่ะ ไม่อยากฝืน คำว่าฝืนหมายถึงอย่างนี้นะค

ย่างเข้าเดือน 6 ...หน้าก็หายมันแล้ว เย้ @-@

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะว่า ....การปรับสมดุลภายในมันฉายออกมาที่ภายนอกจริง ๆ ตอนนี้หน้าบีมหายมันแล้วค่ะดีใจมาก ๆ อาจจะเป็นผลจากหลายๆ อย่าง ดูแลตัวเองถูกวิธีด้วย อาหาร อากาศ น้ำ แสงแดด ออกกำลัง (เดี๋ยวนี้ชอบโยคะค่ะ พึ่งฝึกๆ)อารมณ์ (เอาธรรมะเป็นที่ตั้ง) นอนให้ถูก ยาต้มจากน้าหมอ และเครื่องสำอางค์ที่ไม่ระคายเคืองผิวหน้า คิดว่าอย่างนั้นนะคะ ^^ จะบอกว่า ตอนนี้ฝึกโยคะแล้ว ชอบมาก ๆ เล่นตอนเช้า ๆ ค่ะ ตอนยังไม่ได้ทานอะไร (แต่แอบจิบชาสมุนไพรไปด้วย) และเล่นที่ที่ได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ด้วยค่ะ ทำท่าสุริยะนมัสการได้แล้ว ท่าศพ และอีกท่า จำไม่ได้ว่าอะไรค่ะ และมีท่าเฉพาะสำหรับแก้ปวดหลัง ปวดเอว ค่ะ ชอบมากกก... เพราะเวลาเราปวดที่ไหน แสดงว่าลมหรือชี่เค้าเดินไม่สะดวก ถ้าเราเล่นโยคะ ยืดตัว เราจะช่วยให้ชี่นั้นเดินสะดวกขึ้น พอลมเดินสะดวก มันเลยไม่ปวดแล้วค่ะ และมันแอบเหนื่อยและเหงื่อออกด้วย ชอบนะคะ ไม่ต้องลงทุนอะไรมากเลย ก็ได้สุขภาพดี ๆแล้ว เล่นโยคะแล้วใจสงบด้วยค่ะ ท้าทายด้วย เพราะว่าลุ้นว่ารอบนี้เราจะแตะถึงปลายเท้ามั้ย เราจะยืดตัวได้ถึงไหน... สรุปว่าให้ใจไปเลยค่ะโยคะเนี่ย ^^

หลังฝนซา..มีฟ้าใส (หลังอดอาหารล้างพิษ หน้าก็ใส...อิอิ)

เขียนเรื่องคนอื่นมานานละ วันนี้มาอัพเดทของตัวเองมั่งดีกว่า หลังจากที่บีมทานอาหารปกติร่วมเข้าไปด้วย ก็ไม่ได้ล้างพิษร่างกายมาได้สัก 2 สัปดาห์กว่า ๆ แล้วค่ะ หลังปีใหม่ก็ล้าง แต่ไม่เต็มสตีม... สองวันที่แล้วรู้สึกว่าอยากจะล้างพิษ เพราะรู้สึกว่านานแล้วที่ไม่ได้ทำ เวลาที่เราตัดสินใจจะทำอะไร แล้วชัดเจน...มันก็จะมีความตั้งใจและได้ผลอย่างนั้นนะคะ คำสำคัญคือ "ตัดสินใจ" ตอนแรกคิดว่า จะทำอดอาหารล้างพิษโดยทานแค่ผักผลไม้สดแค่ 1 วัน เพราะคิดว่าคงทำนานไม่ได้กว่านั้นแล้ว แต่จำที่บีมบอกได้มั้ยคะว่า อดวันแรกนะ ร่างกายขับพิษ หน้าจะดูแย่ ๆหน่อยค่ะ ทำให้บีมตัดสินใจทำต่ออีกวันนึง รวมแล้วรอบนี้สองวันที่ไม่ได้กินข้าวค่ะ แต่ไม่โหย ไม่หิว ไม่เป็นไรเลย กลับรู้สึกสบายตัวดีมาก ๆ บีมใ้ช้วิธีกินทั้งวันค่ะ กินมันเข้าไปทั้งวัน แต่สิ่งที่เอาเข้าปากคือ ผลไม้สด ก็เท่านั้นเอง และก็มียาต้มบีมนั่นแหละ มีชาสมุนไพร มีน้ำเปล่า ก็วนเวียนอยู่เท่านี้เองค่ะ เมื่อวานก็ออกจากการอดในตอนเย็น ของที่เริ่มทานก็คือ น้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง ใครที่จะออกจากอดอาหาร อย่าทานอะไรหนักๆ เป็นมื้อแรกนะคะ เพราะร่างกายจะปรับตัวไม่ทันเอาค่ะ เค้าพัก

แชร์ข้อมูลการล้างผักผลไม้ให้สะอาดปลอดสารพิษ

ได้ข้อมูลมาจากคุณมิลค์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วค่ะ พอดีคุณมิลค์มีคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการล้างผักผลไม้ให้สะอาดค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วผักผลไม้ที่ทานเปลือกได้ ให้ทานด้วยค่ะ เพราะสารอาหารสำคัญในผักผลไม้นั้นส่วนใหญ่จอยู่ที่เมล็ด แกนใน และเปลือกค่ะ มีมากกว่าตรงเนื้อเสียอีก คุณมิลค์เจอข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเช่นกันค่ะ แชร์ว่า ผงฟูหรือเบกกิ้งโซดานั้น จะมีโซเดียมหรือสารที่ล้างสารพิษน้อยกว่าโซเดียม 100% ซึ่งโซเดียมนี้หาซื้อได้ในร้านขายสารเคมีค่ะ (บีมคิดว่า ร้านที่ขายอุปกรณ์ทางการทดลองหรือสารทดลองน่าจะมีด้วยนะคะ ลองถามดู) นอกจากจะล้างสารพิษในผักผลไม้ได้มากกว่าแล้ว ยังสามารถล้างพิษตกค้างที่ผิวจากครีมทาผิวหรือยาสระผมได้ด้วย คือ ให้เอาโซเดียมผสมน้ำแล้วเอาทั้งตัวเรานี่ล่ะค่ะแช่ลงไป ส่วนแอปเปิ้ล ใครจะกินทั้งเปลือก นอกจากล้างแล้ว ยังควรเอามีดขูดไขที่เคลือบผิวออกด้วยนะคะ บีมทดลองทำดูแล้ว ไขออกมาเพียบเลย (แต่ก่อนกินทั้งเปลือกทั้งที่ล้างแค่น้ำเปล่า สุดยอดแ่ห่งความประมาท) รสชาติดีขึ้นมากมายค่ะ เพราะเป็นรสของเปลือกแอปเปิ้ลสดโดยตรงเลย ไม่มีีไขเคลือบ (ไขนี้อันตรายต่อร่างกายค่ะ) เป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีประโยชน์มา

เริ่มปฏิบัติการ "ยาหม้อโสภณ"

รูปภาพ
คนเริ่มมาค่ะ แต่ว่ายังมาไม่หมด เลยมีเวลาแอบมาอัพเดทนิดหน่อย ^^ คันไม้คันมือ อยากเขียน... จำที่บีมเล่าให้ฟังว่าโทรไปคุยกับน้าหมอได้มั้ยคะ? น้าหมอให้บีมกินยาต้มด้วย ... บีมก็เลยสั่งมา ได้รับเมื่อวานนี้ตอนบ่าย ๆ กล่องใหญ่พอดูค่ะ น้าหมอน่ารักมากมาย ก็จะมีเขียนอธิบายเรื่องธาตุของเรา และวิธีแก้ปัญหาสุขภาพที่เรามี เอาล่ะค่ะ....คนเริ่มมาละ พล่ามเยอะไม่ได้... เอาเป็นว่า เขียนเรื่องยาหม้อก่อน... ยาตัวนี้ชื่อ "โสภณ" ค่ะ เป็นยาปรับธาตุและบำรุงร่างกายให้ผิวพรรณดีโดยเฉพาะ บีมชอบมาก ๆ ยาดูขลังมากเลยค่ะ เพราะจะเป็นไม้ เป็นรากไม้อะไรหมดเลย... และก่อนต้มก็ต้องจุดธูป 11 ดอกไหว้เจ้าของยา ไหว้รุกขเทวดาของยานี้... ซึ่งบีมก็ทำไปแล้ว...เค้าให้เราขอว่าจะให้หายจากโรคอะไรบ้าง (บีมก็ขอไปค่ะ) เหลือแต่ตักบาตรที่ยังไม่ได้ทำ พอทำแล้วเดี๋ยวต้องอุทิศบุญไปให้เค้าค่ะ พอบีมจุดธูปเสร็จเรียบร้อย ก็มาที่ห้องครัวเลย.... เค้าให้เทยาลงหมดทีเดียวค่ะ แต่จะต้มแล้วเก็บในตู้เย็นหรือเอาค้างไว้ในหม้อแล้วต้มอุ่นเฉพาะตอนจะดื่มก็ได้ค่ะ บีมก็ทำทั้งสองอย่างเพราะขวดใส่ยาไม่พอ... ใช้น้ำไปทั้งหมดประมาณเกือบ 20 ลิตรค่ะ เพราะหม้อแรกเต

อัพเดทรูปประจำวันที่ 14 ม.ค. 53

รูปภาพ
วันนี้ผิวหน้าดีขึ้นมาก กลับไปสู่จุดก่อนแพ้มะขามเปียกแล้วค่ะ ดีใจ ๆ อ้วนขึ้นด้วย เห็นมั้ยเอ่ย ^^ เหลือจัดการรอย...แต่เราก็บ่ยั่นค่ะ เพราะมี Stem Cell ไม่กลัวอยู่แล้ว ^^ อ๋อ ... มีเรื่องจะแชร์ล่ะค่ะว่ารู้สึกว่ากินยาสตรีหมอเส็งเข้าไป (ไม่ได้ขายและไม่ได้คอมเน้อ) มันช่วยได้มากมาย ๆ ไม่รู้คนอื่นเคยกินรึเปล่านะคะ ตอนแรกไม่ได้คิดจะกินให้มันช่วยเรื่องผิวค่ะ แต่ให้ช่วยเรื่องรอบเดือนนิดหน่อย เรื่องผิวเป็นผลพลอยได้อย่างแรง ไม่แน่ใจว่าไปผสานกับพลังผัก พลังกลูต้าอะไรรึเปล่า วันดีคืนดี ผิวก็ดีขึ้นแบบไม่รู้ตัว... บีมก็พึ่งสังเกตเห็นผิวตัวเองดีขึ้น 2-3 วันนี่เองล่ะค่ะ เห็นว่าเข้าสู่สภาพโอเชแล้วเลยถ่ายรูปมาให้ดูกัน และก็ตัดผมไปนิดหน่อย เมื่อวานพี่ซื้อน้ำยายืดมาทำให้ค่ะ เก่งมากกก เล็มผมเสียเกินเยียวยาออกไป 3 นิ้วมั้งคะ เหลือสั้นเท่านี้แหละ แต่รู้สึกดีกว่ามีผมเสีย ๆ นะ ^^ ก็เลยเป็นโอกาสถ่ายรูปมาให้ดูซะเลยค่ะ ^^ ยังไม่เคยจะได้โบ๊ะแป้งเลยค่ะ ถ้าไม่ได้เดินทางไกลไปไหน... รูปนี้ก็ไม่ได้โบ๊ะไรเลย... ทาบำรุงตามปกติไป กันแดด (เพราะมีรอยสิว มันจะได้ไม่กระตุ้นให้รอยสีเข้มไปกว่านี้) และก็ทาแป้งค่ะ จบๆ ผิวมันสว่างขึ้

หายใจอย่างไรช่วยเรื่องสิว?

จำได้ว่าติดเอาไว้ว่าจะเขียนเรื่องเทคนิคการหายใจค่ะ ก็ไ่ม่ได้เขียนซักกะที วันนี้ตั้งใจว่าจะลงมือเขียนแต่เช้า เพราะช่วงเช้ายังไม่ค่อยยุ่งจะได้เขียนเสร็จ จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่เทคนิคอะไรเลยค่ะ เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ง่ายมากมาย แต่เรามักมองข้าม เพราะปกติร่างกายก็ทำอัตโนมัติอยู่แล้ว (ไม่ั้ังั้นก็คงไปนอนนิ่งในโลงแล้วแหละ ^^) เราก็เลยไม่ใส่ใจ... ถ้าเราคิดที่ดูแลตัวเองตามแนว Holistic ล่ะก็ "ลมหายใจ" คือความสำคัญลำดับแรกๆ หรือลำดับหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้ ตอนนี้เราหายใจแบบมีคุณภาพหรือยังคะ? ถ้ายัง...ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมเราจึงมีแต่โรครุมเร้า... เพราะอะไร? เพราะการหายใจนั้นสามารถควบคุมการทำงานของต่อมไร้ท่อได้ค่ะ ต่อมไร้ท่อมีมากมายในร่างกายเรา ต่อมไร้ท่อ เป็น ต่อมที่ทำงานโดยที่ไม่ต้องมีเส้นมีสายเชื่อมต่อกับใครอื่น แต่สามารถที่จะทำงานได้โดยรับสัญญาณจาก "ฮอร์โมน" และต่อมไร้ท่อหลายต่อมก็ผลิตฮอร์โมนเพื่อสื่อสารกลับไปยังต่อมอื่นหรืออวัยวะอื่นค่ะ รังไข่ และ อัณฑะ อันเป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนเพศ ก็เ็ป็นต่อมไร้ท่อเช่นกัน อยากจะควบคุมฮอร์โมนให้สมดุล ให้เป็นปกติสุข ต้องหัดหายใจให้เป็น เอาล่ะ.

ไขข้อข้องใจ "Probiotics" และการทานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

พอดีว่าบีมไปเจอข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Probiotics ค่ะ และเห็นว่าน่าจะช่วยตอบคำถามของใครหลายคนที่สนใจนมหมักบัวหิมะหรือมีคำถามว่าถ้าไม่สะดวกกิน แล้วจะกินโยเกิร์ตแทนได้มั้ย ลองอ่านให้จบนะคะ คิดว่าำคงจะช่วยตอบคำถามได้ดีทีเดียว :-) อ้อ...แต่การจะเลือกยี่ห้อไหน ลองดูนะคะว่าเรามีอาการแพ้นมวัวมั้ย เพราะบางที เอานมวัวมาหมักโยเกิร์ต ในบางคนก็แพ้แล้วสิวผดขึ้นเช่นน้องพลอยกับบีมค่ะ ^^ ต้องทดลองทานดู ถ้าแพ้มันจะขึ้นภายใน 1-2 วันแรกค่ะ สิวผดน่ะ ทานโยเกิร์ตให้ได้ประโยชน์ ต้องทานโยเกิร์ต ที่มีเชื้อ Probiotic โดย ปกติในร่างกายคนเรามีจุลินทรีย์อาศัยอยู่เป็นล้านล้านตัว ซึ่งมีทั้งจุลชีพที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และจุลชีพที่เป็นโทษต่อร่างกาย ซึ่งในเด็กเล็กๆ จะมีจุลชีพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจำนวนมาก จะเห็นได้ว่า.. เด็กเล็กๆ จะไม่ค่อยป่วยด้วยโรคแปลกๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่ยิ่งอายุมากเท่าไหร่จุลชีพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายก็จะ ปริมาณน้อยลง เพื่อรักษาสมดุลของจุลชีพของร่างกาย จึงนำจุลชีพที่มีประโยชน์มารับประทาน แต่เนื่องจากในกระเพาะคนเรามีความเป็นกรดสูง ค่า pH ในกระเพาะอาหารคนต่ำถึงประมาณ 2 ทำให้จุลินทรีย์ส่วนใหญ่ไม่

อัพเดทรูปเสียที..(1 สัปดาห์กว่า ๆ หลังเกิดอาการแพ้มะขามเีปียกและเรื่องเวิ่นเว้อทั่วไป)

รูปภาพ
"รูปในวันสบาย กับ อดีตมุมดอกไม้ที่เคยงดงาม อิอิ :-) เค้าอ้วนขึ้นบ้างแล้วนะตัวเอง" ^^ เดี๋ยวนี้ติดคำว่าเวิ่นเว้อค่ะ มันคงเป็นคำที่อธิบายอารมณ์บีมได้ดี เพราะเป็นคนที่ทำงาน Multi-task ไม่ได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ช่วงนี้มี 3 บล็อก ก็เลยเวิ่นเว้อไปบ้าง ก็ต้องไปนั่งข้างนอก ทำนู่นทำนี่อย่างอื่นบ้าง เพื่อให้สมองสงบ ๆบ้างค่ะ อิอิ เอาล่ะ บีมคิดว่า ถึงเวลาที่จะอัพรูปให้เพื่อน ๆ ดูสักทีนะคะ ขอบอกว่า รูปที่กำลังจะอัพ จะไม่เหมือนรูปในร้านขายของ Pretty9 ค่ะ เพราะรูปนั้น เป็นรูปประมาณ ธ.ค. และเป็นช่วงก่อนไปยุ่งกับหน้ามากและแพ้มะขามเปียก ในที่สุด ซึ่งตั้งแต่ ต.ค. 52 ถึงธ.ค. 52ใช้สุพรรณพักตร์มาตลอดค่ะ มีแอบนอกใจไปใช้ฟีโอน่า้บ้าง แต่ก็หมดแล้วหมดเลย และใช้แค่กลุ่มดีท็อกซ์เอง คือ เจลพอก กับ สบู่ ซึ่งสบู่ตึงหน้าค่ะ เลยเลิกละ จริง ๆ แล้วรู้ึสึกว่า บีมคงไปกวนหน้ามากไปหน่อยช่วงปลาย ๆ ธันวาค่ะ (ตอนนี้รู้แล้วว่า หน้าเสียเพราะยาทาสิวที่เคยสะสม ดังนั้น จะไม่ไปกวนมันแล้วค่ะ ปล่อยไปตามธรรมชาติ บำรุงให้ดีที่สุดก็พอละ แหม ทามาสิบกว่าปี รักษาแบบนี้ 6 เดือน ได้ขนาดนี้ บีมว่ามาไกลกว่าที่เคยคิดแล้วค่ะ :-)) คือ รู้สึ

พิษของโลหะหนักที่ทุกคนมองข้าม!

เกิดความคิดเมื่อเช้านี้เอง ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากหลาย ๆ อย่าง ทั้งจากเคสพี่เจนนี่ที่คุณหมอให้ทำคีเลชั่น เ็ป็นการล้างพิษโลหะหนัก ในหนังสือของเภสัชกรวิโรจน์ สุ่มใหญ่ ที่เค้าเองก็โดนตรวจหาระดับโลหะหนักในร่างกาย ผลออกมาว่ามีปริมาณสูง ทั้งที่ตัวเค้าเองไม่ได้ทำงานโรงงานซะหน่อย ทำงานด้านวิชาการ น่าจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสโลหะหนักเลย โลหะหนัก พูดง่าย ๆ คือพวก ตะกั่ว ปรอท แคดเมียมค่ะ ถ้าใครอยากอ่านละเอียด ๆ ลองดูที่นี่ http://board.dserver.org/w/wwwt10/00000047.html นอกจากอาจารย์ที่เขียนกระทู้นี้จะให้นิยามของ "โลหะหนัก" แล้ว ยังบอกด้วยว่า มันมีพิษอย่างไรต่อร่างกาย อยากแนะนำให้อ่านกันดูค่ะ จะได้ตระหนักถึง วิธีการที่เรารับสารเหล่านี้เข้ามา (เข้ามาง่ายมากมายกว่าที่เราคิดซะอีก) พิษต่อร่างกาย ที่ทำให้ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเซลล์ สิ่งที่บีมคิดขึ้นมาก็คือ เอ...เป็นไปได้มั้ยว่าเราได้รับโลหะหนักจากสิ่งต่อไปนี้ น้ำก๋วยเตี๋ยวจากหม้อเชื่อมด้วยตะกั่ว การสูดเอาควันรถที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์เข้าไป การสัมผัสกับหลอดไฟที่แตก (สารปรอท) การทานปลาที่เีลี้ยงในแหล่งน้ำใกล้โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยสารดัง

มาล้างคราบขาวที่องุ่นกันเถอะ ^^

รูปภาพ
บีมได้รับ forward mail นี้มา 2 รอบค่ะ จากคุณมิลค์รอบนึงและจากเพื่อน ๆ ที่ Jit Jai D Group อีกรอบนึงค่ะ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพวกเราชาวรักสุขภาพกัน ตัวหนังสือ กับรูปก็น่ารักดีค่ะ เลยขออนุญาตเอามาโพสต์ให้อ่านกันอีกรอบก็แล้วกันนะคะ ขอบคุณสำหรับแหล่งข้อมูลค่ะ :)

น้ำดื่มสะอาดพอหรือยัง?

พึ่งทานข้าวเสร็จไปสักพักค่ะ นึกขึ้นได้ว่า... ที่บ้านบีม ถ้าบีมไม่ได้ปรุงอาหารเอง อาหารทุกชาม ทุกจานที่มีน้ำซุป คนปรุงจะใช้น้ำประปาค่ะ ตัวบีม ไม่เคยคิดจะดื่มน้ำประปาเลย เพราะรู้ว่า แม้มันจะใส แต่มันก็มีสารประเภทโลหะหนักปนอยู่ได้ รวมทั้งมีคลอรีนที่เมื่อโดนความร้อนจะเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็ง แต่ก็นะคะ...บีมไม่ใช่คนถือตะหลิวทำกับข้าว จะไปเจ้ากี้เจ้าการเค้าก็ลำบากอยู่... ก็เลยปิ๊งขึ้นมาในหัวนะคะว่า... ที่เราเป็นโรคต่างๆ เป็นสิว เป็นนู่นนี่ เกิดมาจากน้ำที่เราบริโภคด้วย เพราะเป็นอีกสิ่งที่ร่างกายต้องรับเข้าไปทุกวัน เราเลือกน้ำดื่มกันดีพอรึยังคะ บางทีการเลือกทานอาหารของเรา perfect มาก ฤทธิ์เย็น ไม่มัน ไม่ผัด ไม่ทอด แต่ผิวยังไม่แข็งแรง ลองดูน้ำดื่มสิคะ ว่ามันโอเครึยัง? น้ำที่บีมแนะนำก็จะมี น้ำกรอง (เครื่องกรองคุณภาพนะคะ) น้ำดื่มที่สะอาด กรรมวิธีสะอาดและถูกสุขอนามัย นอกจากนี้ บีมเห็นฝรั่งที่ดูแลสุขภาพ เลือกดื่มน้ำกลั่นมั้งคะ คือรู้สึกว่าเค้าจะมีขายกันเลยมั้งคะ ไม่ใช่น้ำกลั่นเติมรถนะคะ และบีมจำได้ว่า เคยมีคนสอนว่าน้ำกลั่นดื่มไม่ได้ เพราะจะไปดึงแร่ธาตุออกมา จริงเท็จอย่างไร ยังไม่ได้หาข้อมูลค่ะ แต่ว่

อัพเดทเคสที่ทำสำเร็จแล้ว

วันนี้มีเรื่องดี ๆ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ เป็นเคสของ 2 หนุ่มคนละวัยกัน แต่ทำสำเร็จแล้วด้วยวิธีการธรรมชาติบำบัด คนแรกนะคะ เป็นพี่ชายที่น่ารัก พี่สุรินทร์คนเดิมค่ะ แต่วันนี้พี่เค้าอัพเดทเข้ามาว่า เอาชนะสิวได้อย่างถาวร พี่เค้าบอกว่า่ เค้าน่ะ ชอบทุเรียนมาก ๆ ซึ่งมีฤทธิ์ร้อน ทานทุเรียนทุกรูปแบบทั้งสดและไม่สด แต่ก่อนนี้ตอนที่ยังเป็นสิวอยู่ และยังไม่หายดี เวลาทานทุเรียนแล้ว สิวจะขึ้นค่ะ แต่มันก็หายไปนะคะ แต่ตอนนี้ กินทุเรียนเยอะมาก ๆๆๆ แต่ว่า มีทริคว่า ก่อนหรือหลังกินทุเรียน จะต้องกินของฤทธิ์เย็น อาจจะเป็นผลไม้สด หรือ น้ำสมุนไพรค่ะ เช่น แก้วมังกร มังคุด น้ำย่านาง ใบบัวบก เป็นต้น เค้าบอกว่า ล่าสุดนี้ สิวไม่ขึ้นแล้ว เลยส่งเมลมาอัพเดทกันค่ะ ก็ยินดีไปด้วย 1 เคส อีกเคสนึง เป็นเคสของน้องผู้ชาย ไม่แน่ใจว่าน้องจะให้เอ่ยนามมั้ยนะคะ งั้นเอาไว้ไปถามก่อน แล้วค่อยมาเอ่ยนามทีหลังละกันเนาะ เคสนี้อายุ 16 ปีค่ะ ประวัติเป็นสิวคือ เป็นสิวฮอร์โมนประปรายค่ะ แต่ขึ้นเยอะมากตอนช่วงกินของ ผัด มัน ทอด ฯลฯ พอดีเค้า search ใน google ก็ทดลองทำแนวธรรมชาติบำบัด เค้าหักห้ามใจไม่กินของ ผัด มัน ทอด ค่ะ และกินผลไม้เยอะ ๆ ตอนนี้สิว

ปัญหาสิว VS ปัญหาอ้วน

วันนี้จั่วหัวแปลก ๆ แต่ก็คิดไม่ออกว่าจะจั่วว่าอะไรดี ^^ แต่ตั้งใจจะเขียนสิ่งที่พึ่งเก็ตได้ไม่กี่วันที่ผ่านมา (ว่าจะเขียนเมื่อวานแล้ว ลืมค่ะ...) คือ ตอนส่องกระจกทาหน้า ... อยู่ดี ๆ ก็นึกไปถึงเพื่อนคนนึงที่ผิวดี ๆ แต่อ้วนง่ายมาก ในใจเราก็คิดว่า...เออนะ ไม่มีใคร perfect หรอก คนคนหนึ่ง ยากที่จะพอใจในตัวเอง นอกจากนี้ ยังมีน้องแถวบ้านนี่ล่ะค่ะ เด็กที่นี่ผิวดีมากมาย สิวไม่ได้ถามหาหรอกค่ะ จริง ๆ แต่เค้าบอกว่า เนี่ยนะ ถ้าผอมหุ่นดีอย่างพี่บีม ก็ไม่เอาอะไรแล้ว... บีมก็เลยบอกว่า อ๋อ...ถ้าพี่หน้าใสได้อย่างเรา พี่ก็ไม่เอาอะไรแล้วเหมือนกัน... สรุปว่าไม่มีใครพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่เลยเนาะ อิอิ บีมเลยกลับมาคิดว่า...อืม...เวลาที่คนเรามันมีแนวโน้มจะเ็ป็นอะไรสักอย่าง มันมักจะเป็นแบบนั้นตลอดจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างถึงราก เช่นคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก กินอะไรก็อ้วนละ (เพื่อนคนนั้นของบีมล่ะค่ะ หน้าสวยมาก แต่บ่นประจำเลยว่า กินอะไรนิดหน่อยก็อ้วน คือเค้าอิจฉาที่บีมกินอะไรมากมายก็ไม่เห็นจะอ้วนสักที) บีมเลยคิดกลับมาที่สิว อย่างของบีม ถ้ากินอาหารไม่ดี อาหารขยะ เค้าก็จะขึ้นนะคะ แต่มันเหมือนกับเรารู้สาเหต

ไดอารี่ประจำวันที่ 3 ม.ค. 53

เผลอแป๊บเดียวนะคะ วันนี้ก็เลยปีใหม่มา 2 วันละ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ เป็นยังไงกันบ้างคะ หวังว่าปีใหม่ที่ผ่านมาคงจะเป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงหนึ่งของทุกคนนะคะ จริง ๆ บีมมีหลายเรื่องจะเขียนมากมาย แต่เดี๋ยวดูก่อนว่าความจำของบีมจะพาให้เขียนไปถึงเรื่องไหนได้บ้าง ^^ เรื่องแรก ก็คงจะอัพเดทกันก่อนว่า สภาพผิวหน้าบีมตอนนี้เป็นอย่างไรหลังจากเจอเจ้ามะขามเปียกตัวดี (พวกชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยนแท้ ๆ ^^) มีหลายคนสงสัยว่า หน้าดีขึ้นแล้วทำไมไปใช้มะขามเปียก ค่ะ หน้าดีขึ้นแล้ว แต่ี่ที่ไปใช้มะขามเปียก ด้วยเหตุผลที่ว่า บีมกำลังทดลองบนข้อสมมติฐานที่ว่า ถ้าดูแลร่างกายดีแล้ว แต่ยังมีสิวเม็ดเล็ก ๆ ขึ้น มันจะเป็นที่โครงสร้างผิวของเราเองที่เคยเสียไปรึเปล่า ทำให้การเรียงตัวของเซลล์ผิวผิดปกติและก็ผิดปกติอยู่อย่างนั้น ประกอบกับข้อมูลจากหนังสือชีวจิต (บีมเคยเล่ารึยังเอ่ย) คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งเค้าผิวแพ้ง่ายมาก แพ้ทุกอย่าง แชมพู สบู่ อะไรที่เราใช้ ๆ กัน เค้าใช้ไม่ได้เลย มันจะคัน ผื่นขึ้นหมด จนต้องมาคั้นแชมพูจากผลอะไรน้า ทำแล้วเก็บไว้สระผมเอง ส่วนหน้าที่มีสิวเต็มก็ใช้น้ำมะขามเปียกล้างทุกวัน จนตอนนี้หายหมดเลย บีมก็เลยนะ ...ขนาดคน