หยิน - หยาง: ปรับตัวให้สอดคล้องกับหลักธรรมชาติเพื่อปรับสมดุลร่างกาย ตอนที่ 1

วันนี้สัญญาว่าจะอัพบล็อกก็ต้องมาอัพบล็อกให้ได้ค่ะ แม้จะค่ำแล้วก็ตาม ^^

เพราะเรื่องนี้มันน่าเขียนนัก ...

ตัวบีมชอบปรัชญาตะวันออกตั้งแต่สมัยเรียน

ตอนนั้นเรียนปรัชญาอินเดีย ขงจื้อ เต๋า แล้วรู้สึกหลงรัก เต๋า มาก ๆ

และจำไม่ได้แล้วว่า ไปหลงรัก หยิน หยาง ที่ไหน...

รู้แต่ว่า หยิน หยาง อธิบายได้ทุกสิ่งบนโลก

รวมถึงสุขภาพ...

การดูแลสุขภาพแนวธรรมชาติบำบัด ถ้าหากมีความเ้ข้าใจเรื่องธรรมชาติอย่างแท้จริง มันจะอินและรู้สึกสนุกค่ะ

จริงๆ แล้วถ้ามีเวลามากกว่านี้ บีมจะเขียนเรื่องนาฬิกาีชีีวิตฉบับอธิบายด้วย หยิน หยาง ที่บีมได้อ่านจากนิตยสารหมอชาวบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อนค่ะ ดีมาก ๆ ทำให้เข้าใจอะไร ๆ ได้มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสมดุลร่างกายค่ะ และทำให้เข้าใจเลยว่า ทำไมคนเราสมัยนี้ถึงป่วยกัน และทำไมการปรับตารางเวลาและวิถีีีชีวิตให้สอดคล้องกับหลักการธรรมชาติจึงทำให้หายป่วยได้อย่างมหัศจรรย์

เอาล่ะค่ะ ไม่พูดพล่ามเนาะ เพราะจริงๆ แล้วตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเราไม่ควรทำงานหนักแล้วล่ะค่ะ บีมเองพอได้อ่านบทความดังกล่าว ก็ทำให้รู้สึกว่า อยากจะทำให้ชีวิตปรับไปตามธรรมชาติดั้งเดิมของเค้าค่ะ ไม่อยากฝืน

คำว่าฝืนหมายถึงอย่างนี้นะคะ...

ตามหลักการแพทย์แผนจีน บีมคิดว่าเค้าอธิบายสิ่งต่างๆ ตามหลักหยินหยางค่ะ

จากรูปนี้ ตามความเข้าใจของสมองน้อยๆ ของบีมก็คือ ดังนี้ค่ะ

สีขาว แทนพลังหยาง สีดำแทนพลังหยิน
หยาง คือ การขยายออก ถ่ายเทออก การเคลื่อนไหว ความแข็ง
หยิน คือ การหุบเข้า หดเข้า เบาลง ต่ำลง ความอ่อน

จุดสีดำในวงขาว และจุดขาวในวงดำ แสดงถึงความสัมพันธ์กันระหว่างพลังทั้งสอง ซึ่งแยกจากกันไม่ได้

ทั้งสองสิ่งเป็นสิ่งเดียวกัน แต่เผยแสดงในลักษณะที่แตกต่างกัน

เมื่อถึงจุดปลายของหยาง ก็จะมีหยิน
เมื่อถึงจุดปลายของหยิน ก็จะมีหยาง

ทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นกันและกันตลอดเวลา...

เกี่ยวยังไงกับร่างกาย?

ด้วยสมองอันน้อยนิดอธิบายได้อย่างนี้ค่ะ

ตามบทความในนิตยสารและจาก http://www.tao-garden.net/index.php?option=com_content&task=view&id=51&Itemid=9

บีมเข้าใจว่า ณ จุดก่อกำเนิดพลังหยาง คือ ช่วง 5 ทุ่มถึง ตี 1 นั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่หยินสูงสุด คือ สงบ นิ่ง หดเข้า

ใครที่มีการใ้ช้พลังงานมากในช่วงนี้ ถือว่า ฝืนธรรมชาติและกฎแห่งหยิน-หยาง ที่เป็นจริงไม่เคยเปลี่ยนแปลง

เพราะ่ช่วงนี้ ตามธรรมชาติต้อง นิ่ง สงบ ให้มากที่สุด พลังหยางจึงจะก่อเกิด

พลังหยางมีประโยชน์อะไร?

พลังหยาง คือ พลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ

ใครที่พลังหยางพร่อง ช่วงกลางวันจะชอบง่วงนอน ไม่มีพลัง สมองช้า คิดอะไรไม่ออก

ดังนั้น เป็นเหตุผลว่า ทำไมต้องเข้านอนให้หลับก่อนจะถึงเวลาดังกล่าว...จึงจะมีพลังในช่วงกลางวันค่ะ ทำอะไรก็สำเร็จและไปด้วยดี สดชื่นทั้งวัน คิดบวก ฯลฯ

ในช่วงห้าทุ่มถึงตีหนึ่งนั้น เป็นช่วงที่ "พลังชีวิต" หรือ "ชี่" นั้น พลังวิ่งในเส้นลมปราณถุงน้ำดีสูงสุด

"ถุงน้ำดีในทัศนะแพทย์จีนเกี่ยวข้องกับกลไกการเจริญเติบโต การกินอาหารในช่วงเวลานี้ถือเป็นข้อห้าม เพราะจะทำลายพลังการทำงานของถุงน้ำดีในการขับสารพิษของเีสียออกจากร่างกาย

ช่วงเวลา 23.00 - 01.00 น. เป็นช่วงกำเนิดพลังหยาง (ที่สุดของหยิน) ในช่วงก่อนเที่ยงคืนได้เริ่มก่อกำเนิดหยาง แม้ว่าจะเป็นพลังเริ่มต้นที่น้อย เหมือนลูกหนูตัวน้อย ๆ ที่เก็บซ่อนเอาศักยภาพของพลังที่มหาศาลอยู่ภายใน

คนเราจะง่วงนอนมากก่อนถึงเวลา 23.00 น. พอเลยเวลา 23.00 น. เมื่อพลังหยางเริ่มเกิดมักจะหายง่วงนอน การนอนดึกนาน ๆ จะทำให้เกิดผลเสียตามมา คือ โรคนอนไม่หลับ

ทฤษฎีแพทย์จีน อธิบายการนอนไม่หลับว่า เกิดจากความไม่สัมพันธ์เชื่อมโยงกันของหัวใจและไต ยามปกติ หัวใจ คือ ธาตุไฟ จะต้องลงล่างเพื่ออุ่นไต ไต คือ ธาตุน้ำ ต้องไปหล่อเลี้ยงควบคุมไฟของหัวใจ คนที่สุขภาพดี จึงต้องมีความเย็นของส่วนบนและความร้อนของส่วนล่างของร่างกาย แต่ถ้าเกิดภาวะเสียสมดุลของหัวใจและไต จะทำให้ความร้อนขึ้นสู่ส่วนบน รบกวนสมองทำให้นอนหลับไม่สนิท ฝัน และเกิดภาวะขาส่วนล่างเย็น

"อวัยวะภายในทั้งปวงชี้ขาดอยู่ที่ถุงน้ำดี"

การนอนหลับเป็นการเสริมสร้างการเกิดของพลังแรกเริ่มของวันใหม่

การเชื่อมความสัมพันธ์ของหัวใจและไตให้สมดุลที่ดีที่สุดคือ การนอนหลับ

การนอนหลับที่ดีจะทำให้พลังถุงน้ำดีแข็งแกร่ง ทำงานได้ดี มีการตัดสินใจที่ดี (ถุงน้ำดีควบคุมการตัดสินใจ)

การนอนหลับเพิ่มพูนการทำงานของถุงน้ำดี จึงควรเข้านอนในช่วงเวลานี้
บทความโดย นพ.ภาสกิจ (วิทวัส) วัฒนาวิบูล เปรียบเทียบการแพทย์แผนตะวันตก - แผนจีน ปรับสมดุลตามนาฬิกาชีวิต (ตอนที่ 2) วิธีปฏิบัติตัวไร้โรค 12 คาบเวลา หน้า 45-56

นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งค่ะ ว่าการปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับหลักธรรมชาติ มีประโยชน์อย่างไร ช่วยปรับสมดุลอย่างไร

และในบทความยังบอกอีกว่า หากเราปฏิบัติตัวฝืนธรรมชาติแม้ในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง ก็จะทำให้ทั้งระบบเสียสมดุลได้แล้วค่ะ

จึงคลายข้อสงสัยเลยว่า ทำไมการเ้ข้านอนเร็วจึงทำให้ "สิวดีขึ้นได้"

โพสต์นี้บีมขอฝากเ่ท่านี้ก่อนนะคะ

คอยติดตามกันต่อไปนะคะ ^^ บีมจะหาเวลามาเขียนค่ะ

ขอบคุณนิตยสารหมอชาวบ้านมาก ๆ และเว็บ http://www.tao-garden.net (แหล่งความรู้ใหม่ค่ะ พึ่งไปเจอวันนี้เอง ^^)

เข้านอนเร็ว ๆ นะคะ ^^

ขอให้สุขภาพดีค่ะ

ความคิดเห็น