เริ่มปฏิบัติการ "ยาหม้อโสภณ"

คนเริ่มมาค่ะ แต่ว่ายังมาไม่หมด เลยมีเวลาแอบมาอัพเดทนิดหน่อย ^^

คันไม้คันมือ อยากเขียน...

จำที่บีมเล่าให้ฟังว่าโทรไปคุยกับน้าหมอได้มั้ยคะ?

น้าหมอให้บีมกินยาต้มด้วย ... บีมก็เลยสั่งมา

ได้รับเมื่อวานนี้ตอนบ่าย ๆ กล่องใหญ่พอดูค่ะ

น้าหมอน่ารักมากมาย ก็จะมีเขียนอธิบายเรื่องธาตุของเรา และวิธีแก้ปัญหาสุขภาพที่เรามี

เอาล่ะค่ะ....คนเริ่มมาละ พล่ามเยอะไม่ได้...

เอาเป็นว่า เขียนเรื่องยาหม้อก่อน...

ยาตัวนี้ชื่อ "โสภณ" ค่ะ เป็นยาปรับธาตุและบำรุงร่างกายให้ผิวพรรณดีโดยเฉพาะ

บีมชอบมาก ๆ ยาดูขลังมากเลยค่ะ เพราะจะเป็นไม้ เป็นรากไม้อะไรหมดเลย...

และก่อนต้มก็ต้องจุดธูป 11 ดอกไหว้เจ้าของยา ไหว้รุกขเทวดาของยานี้...

ซึ่งบีมก็ทำไปแล้ว...เค้าให้เราขอว่าจะให้หายจากโรคอะไรบ้าง (บีมก็ขอไปค่ะ)

เหลือแต่ตักบาตรที่ยังไม่ได้ทำ พอทำแล้วเดี๋ยวต้องอุทิศบุญไปให้เค้าค่ะ

พอบีมจุดธูปเสร็จเรียบร้อย ก็มาที่ห้องครัวเลย....

เค้าให้เทยาลงหมดทีเดียวค่ะ แต่จะต้มแล้วเก็บในตู้เย็นหรือเอาค้างไว้ในหม้อแล้วต้มอุ่นเฉพาะตอนจะดื่มก็ได้ค่ะ บีมก็ทำทั้งสองอย่างเพราะขวดใส่ยาไม่พอ...

ใช้น้ำไปทั้งหมดประมาณเกือบ 20 ลิตรค่ะ เพราะหม้อแรกเติมไป 9 ลิตร พอกรองยารอบแรกออก หม้อสองต้องเติมอีกประมาณ 8 ลิตรค่ะ

ก็ต้องเคี่ยวให้เหลือ 2/3 หม้อของแต่ละรอบค่ะ


นี่ตอนใส่น้ำเต็มค่ะ เค้าบอกว่าให้เติมน้ำเปล่าขวดละ 1.5 ลิตรไป 6 ขวดค่ะ แต่บีมไม่มีขวด 1.5 ลิตร มีแต่ขวด 950 มล. ก็เลยมาหาร ๆดู ต้องเติม 9 ขวดค่ะ แล้วต้องเคี่ยวให้เหลือ 2/3 ของหม้อค่ะ
บีมชอบมาก สมุนไพรดูขลังมาก ๆ ค่ะ


นี่คือตัวปรับสมดุลธาตุของบีมค่ะ มีลักษณะคล้ายเกลือค่ะ น้าหมอบอกว่าต้องเอามาจากอินเดีย เป็นตัวเดียวกับที่โยคีหรือนักพรตของอินเดียทานกันเพื่อรักษาสมดุลธาตุค่ะ ในไทยไม่มี

ซึ่งการที่น้าหมอจะจัดยาให้มา สั่งแล้วยังไม่ได้ทันทีนะคะ
เพราะน้าหมอบอกว่า ไม่ได้ขายของค่ะ

น้าหมอหลังจากได้รับอีเมลแจ้งวันเดือนปีเกิด ความสูง น้ำหนักเข้าไปอีกรอบแล้ว
จะจัดสูตรยาเฉพาะให้ค่ะ

บีมจึงคิดว่า ไม่ควรแบ่งคนอื่นกิน
เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะไปขัดกับธาตุเค้ามั้ย
ผลอาจออกมาตรงข้ามค่ะ

เอาล่ะ...มาถึงเรื่องต้มต่อ

หม้อแรกเสร็จ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ เลยทีเดียวค่ะ

แล้วกรองออกมา รอเค้าเย็นลงแล้วเก็บใส่กระติกหรือขวดน้ำค่ะ ได้หลายขวดมาก

ส่วนนี้เอาเข้าตู้เย็น พอจะดื่มก็อุ่นค่ะ หรือผสมน้ำร้อนลงไป

แล้วก็ทำหม้อสองเหมือนกันแต่ใส่น้ำลงไปน้อยกว่าค่ะ เพราะยาเริ่มจางลงแล้วค่ะ

ตอนแรกกลุ้มใจเรื่องภาชนะเก็บยาต้มและพื้นที่ในตู้เย็น

แต่ในที่สุดเราก็ทำได้

โดยการแก้ปัญหาว่า เหลือสมุนไพรและน้ำต้มไว้ส่วนหนึ่งในหม้อ แล้วต้มอุ่นทุกวันเวลาจะดื่มค่ะ (วิธีนี้ทำได้เช่นกัน) พอในหม้อหมดแล้ว ค่อยดื่มที่เก็บในตู้เย็นค่ะ

กว่าจะเสร็จทั้งหมดก็ประมาณ 4 ชั่วโมง

รวมเวลาเวิ่นเว้อ (เวลาเคี่ยว เวลากรอง เวลากรอกใส่ขวด)

จริง ๆ แล้วในเอกสารน้าหมอแนะนำว่า ถ้าอยากอ้วนทานก่อนอาหารเช้าเย็น ถ้าอยากผอมทานก่อนนอนครั้งเดียว

แต่บีม อยากลองค่ะ ก็เลยทานเลย 1 แก้ว

พอทานได้สักพักก็อยากเข้าห้องน้ำค่ะ หลังจากที่อึดอัดท้องมาสักพัก ก็ออกหมด แต่ไม่ได้แบบเวลาดื่มดีเกลือนะคะ ออกมาแบบสุขภาพดีค่ะ

และก็ตื่นเช้ามาได้โดยสวัสดิภาพ และรู้สึกหายใจโล่งดีค่ะ สบายดี

ส่วนผลที่ให้กับผิวจะอัพเดทกันเรื่อย ๆนะคะ

รู้แต่ว่า ตั้งแต่ดื่มยาหมอเส็งมา (ผลไม้ น้ำปั่นอะไร บีมยังดื่มอยู่นะคะ การดื่มน้ำ ทุกอย่างเหมือนเดิม เพียงแต่กินข้าวเหนียวได้ กินกับข้าวร่วมกับคนอื่นได้ กินขนมหวานได้แล้วโดยที่สิวไม่อักเสบ สิวไม่แย่แล้วค่ะ แต่ถ้ากินมากไป มันก็จะมีเล็ก ๆ น้อย ๆไม่เรียบ ๆแค่นั้นค่ะ) ผิวเนียนขึ้นนะคะ รู้สึกมันแจ่มขึ้นด้วย มีเนื้อมีหนัง

พอมาทานยาต้มตัวนี้ ตอนนี้คิดว่ายังไม่รู้ว่าเป็นผลจากอะไร...

แต่ว่ารู้สึกว่าสดชื่นทั้งวันค่ะ

และตั้งแต่วันนี้ไปก็ไม่ได้กินหมอเส็งแล้วค่ะ

เพราะจะได้รู้ว่ายาต้มช่วยเรายังไงบ้าง

....อ้อ มีอย่างหนึ่งที่สังเกตได้ค่ะ

ยาสตรีหมอเส็งเหมือนจะดีมากนะคะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ประจำเดือนไม่มาตามวัน

วันนั้นแม่ซื้อมาขวดเดียวค่ะ 180 บาท ขวดใหญ่

กินกัน 3 คน แม่ พี่ และบีม (เลื่อนทุกคน อิอิ)

พี่มาก่อน แม่อัดคืนเดียว 1 แก้ว (ของเค้า) เช้ามามาเลยค่ะ อะไรจะขนาดนั้น

บีมมาทีหลังสุด อิอิ

แต่ว่า บีมสังเกตว่า รู้สึกบีมจะมีอาการภูมิแพ้แบบตาบวมตอนเช้านะคะ

หลังตื่นมาสักพักพอพลังงานเริ่มเดิน บีมจะเริ่มตาบวม ๆ คันตา จาม

แต่พอปัสสาวะออก ดื่มน้ำ ทำธุระอะไรแบบที่เคยทำเสร็จ

มันก็หายไปเองค่ะอาการที่ว่า

เลยคิดว่า หรือยาสตรีหมอเส็งไปเพิ่มธาตุน้ำในตัว

เพราะธาตุน้ำมีโอกาสเป็นภูมิแพ้และลักษณะของธาตุน้ำคือความมีเนื้อมีหนังค่ะ

เห็นแก้มบีมมั้ยคะ...

บีมว่าอาจจะใช่...มันคงเพิ่มธาตุน้ำกับลมมั้ง

ก็เดา ๆ ดูนะคะ เพราะยังไม่ได้ศึกษาแบบลงลึกค่ะ

เพราะพอเอาน้ำออก มันก็หาย

ถึงบอกว่า เราควบคุมโรคภัยได้ล่ะค่ะ ถ้าเรารู้เคล็ดลับของธรรมชาติของร่างกาย...

และอีกอย่างที่ได้เรียนรู้เพิ่มจากการรู้จักธาุตุเจ้าเรือนและการใช้ยาสมุนไพรแก้

ซึ่งบีมได้อ่านตำรานิด ๆ หน่อย ๆ ค่ะ

แต่บีมเห็นความน่าอัศจรรย์รวมทั้งความรู้สึกว่า "ตัวเราช่างสามัญ"

ร่างกายของเราก็เป็นเพียงแค่องค์ประกอบดิน น้ำ ลม ไฟ

มีสมดุล มีพร่อง มีเกิน

และรากไม้ที่เราอาจจะเห็นว่าไม่มีค่า (สำหรับหลายคน)

กลับทำให้ร่างกายเราสมดุลได้อย่างมหัศจรรย์

ทำให้รู้ว่า เราน่ะ ตัวเล็กนิดเดียวเองค่ะ และเป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่ง

ไม่ใช่ว่า สรรพสิ่งเป็นส่วนหนึ่งของเรา...

แล้วเราจะพบกับเคล็ดลับหรือ Secret แห่งความผาสุกทั้งกาย ใจและจิตวิญญาณค่ะ

ขอให้สุขภาพดีถ้วนหน้าค่ะ


ความคิดเห็น