Dr.Jacob กับความรู้สู่การดูแลลูกด้วยธรรมชาติบำบัด
Dr.Jacob Vadakkanchery แพทย์ด้านธรรมชาติบำบัดและผู้อำนวยการแห่ง Nature Life International |
บีมกับพี่แม็คประทับใจในวิธีการสอนและการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ของท่านมาก รู้สึกว่า ท่านทำให้เรื่องธรรมชาติบำบัดเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายมาก ๆ และทำให้เราสองคนตกผลึกความรู้ไปอีกขั้น และทำให้เรามั่นใจในการดำเนินชีวิตที่เข้าใกล้ธรรมชาติบำบัดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่าการเดินไปในเส้นทางที่เราทำอยู่นี้ ต้องทำให้เราและคนที่เรารักทุกคนบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพที่ดีอย่างแน่นอน เพราะมีท่านเป็นตัวอย่างที่เราสัมผัสได้จริงอยู่ที่นี่แล้ว (บีมธรรมชาติมากวันนั้น สระผมเสร็จก็ไปที่โรงเรียนเลยทีเดียว ไม่ต้องจัดแต่งอะไรละ ^^)
บีมขอสรุปเป็นประเด็น ๆ ตามที่บีมเข้าใจ และเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายสำหรับทุกคนดังต่อไปนี้ค่ะ
- มนุษย์เราเกิดมาจากเซลล์ที่มาอยู่รวมกันหลักพันล้านเซลล์ หากเราค่อย ๆ ดึงเซลล์ของเราออกไปทีละเซลล์ ๆ จนครบพันล้านเซลล์ เราก็จะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย นั่นหมายถึงว่า การที่จะดูแลสุขภาพของเราให้ดี เราจะต้องดูแลเซลล์ของเราให้มีความสุข ให้ในสิ่งที่เซลล์ต้องการ ก็เท่านั้นเอง
- แล้วเซลล์ของเราต้องการอะไร? เซลล์ของเราต้องการอาหารที่ดี อากาศที่ดีและมากพอ (ออกซิเจน/ลมปราณ/ชี่/พลังชีวิต) การพักผ่อนที่มีคุณภาพและเพียงพอ น้ำที่สะอาด จิตที่คิดบวกและส่งพลังงานบวก
- หากเราได้ให้ในสิ่งที่เซลล์ของเราต้องการ เราก็จะมีสุขภาพที่ดีอย่างแน่นอน
- เราไม่ใช่เจ้าของร่างกายนี้ เราเป็นเพียงผู้รับใช้หรือผู้ช่วยเหลือให้ร่างกายได้รับในสิ่งที่เขาต้องการตามธรรมชาติ
- เซลล์ไม่ได้ต้องการยารักษาโรคใด ๆ ไม่ได้ต้องการวัคซีนใด ๆ เพราะ เซลล์มีพลังตามธรรมชาติที่จะซ่อมแซม ฟื้นฟู เยียวยาตัวเองได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว
- เซลล์ของเรารู้ดีว่าจะย่อยอาหารอย่างไร ขับถ่ายอย่างไร นอนอย่างไร กิจกรรมของเซลล์ที่ดำเนินไป คือ พลังชีวิตที่ขับเคลื่อนไป (Life Force) ตามธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากการบังคับควบคุมของเราเลยแม้แต่น้อย
- ดังนั้น เรามีหน้าที่ "ซัพพอร์ต" ให้เซลล์ได้รับสิ่งที่ต้องการเท่านั้น!
- ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้อง "เงี่ยหูฟัง" เซลล์ของเรา ว่าขณะนี้เขาต้องการอะไรกันแน่ แล้วตอบสนองไปตามนั้น
- เวลาที่เรากินอาหารที่ไม่ดี อาหารเสีย อาหารมีพิษปนเปื้อน ร่างกายจะเริ่มดูดซึมของที่ไม่ดีเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร และหากเราไม่สามารถขับถ่ายได้ดีเป็นปกติ ดื่มน้ำน้อย หรือเกิดการสะสมไปนาน ๆ ก็จะทำให้เกิดมูก เมือก ที่พยายามผลักพิษเหล่านั้นออกทางจมูก ปาก ลำคอ เป็นอาการคล้ายหวัด ภูมิแพ้ ซึ่งคนส่วนมาก จะพยายามกินยาเพื่อกดอาการไม่ให้น้ำมูกไหลหรือจาม กดอาการไข้ ฯลฯ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็คือ มูกและเมือกเหล่านี้จะสะสมอยู่ในปอด ระบบทางเดินหายใจ และไซนัส ทำให้มีอาการเหมือนภูมิแพ้และมีอาการแพ้ง่ายขึ้น
- เวลาที่เด็ก ๆ ของเราไปฉีดวัคซีน ร่างกายจะไม่สบาย เป็นไข้ งอแง เพราะในวัคซีนจะประกอบไปด้วยพิษมากมาย ดูข้อมูลส่วนผสมในวัคซีนได้ที่ https://www.cdc.gov/vaccines/vac-gen/additives.htm และคุณหมอได้พิสูจน์กับเด็ก ๆ ของท่านแล้วว่า วัคซีนไม่จำเป็นต่อการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับเด็ก ๆ (อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่คุณหมอแสดงความเห็นและนักธรรมชาติบำบัดที่บีมเคยพบมา ได้ให้ข้อมูลมาอย่างเดียวกัน สำหรับบีมแล้ว เป็นสิ่งที่บีมจะหาคำตอบต่อไปค่ะ เกี่ยวกับเรื่องของวัคซีน)
- ยาแก้ปวดทั้งของเด็กและผู้ใหญ่นั้น เป็นพิษสูงมาก ทำให้ตับและไตมีปัญหาอย่างรุนแรง คุณหมอยกตัวอย่างว่า หากเรานำยาพาราฯ มาบดให้ละเอียด แล้วคลุกกับข้าวสวยสุกเอาไว้ ทิ้งไว้ในครัว ผ่านไป 1 คืน แล้วกลับมาดู ก็จะพบว่า มีหนูตายอยู่รอบ ๆ ถ้วยข้าวที่ผสมยาพาราฯ นั้นแน่นอน ซึ่งพาราฯ สามารถฆ่าหนูได้ ฆ่าแมวได้ ฆ่าเด็ก ๆ ได้ และฆ่าคนได้ ในโดสที่สูงขึ้น ๆ (คุณหมอมีข้อมูลอ้างอิง)
- และมียาแก้ปวดตระกูลพาราฯ สำหรับเด็ก ที่ถูกแบนไปแล้วทั่วโลก เพราะ ทำให้เด็กตับไหม้ (burnt liver) หลังจากกินยานั้นเข้าไป และมีเด็กเสียชีวิตจากการกินยาดังกล่าวอีกด้วย (คุณหมอมีข้อมูลอ้างอิง)
- ยาสีฟันที่จำหน่ายทั่วไป ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่มีความเป็นพิษต่อเด็ก ๆ
- การที่จะทำให้เด็ก ๆ ของเรามีสุขภาพที่ดีนั้น ดูแลอย่างง่าย ๆ ได้ คือ ให้พวกเขากินผัก ผลไม้ น้ำมะพร้าว น้ำเปล่า (ไม่ร้อน ไม่อุ่น ไม่เย็นไป เป็นน้ำอุณหภูมิตามธรรมชาติ) ไม่ต้องกินเนื้อสัตว์ เพราะเขาจะได้รับโปรตีนจากพืชผักผลไม้ที่หลากหลายอยู่แล้ว และการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ
- นมสัตว์ไม่ใช่สิ่งเหมาะสมกับคนหรือเด็ก ๆ ของเรา และเด็ก ๆ ควรเลิกกินนมได้เมื่ออายุประมาณ 2 ขวบ (ตัวเลขนี้ไม่ชัวร์นะคะ แต่จำได้ว่า จะต้องเลิกถ้าฟันเด็กขึ้นหมดแล้ว) ให้มากินอาหารแทน เพราะธรรมชาติสร้างให้มาแบบนั้น ให้มีระบบย่อยที่สมบูรณ์ มีฟันที่ขบเคี้ยวได้และแข็งแรง ก็ต้องดูแลให้เป็นไปตามธรรมชาติ
- พลังงานชีวิตหรือ Life Force นั้น เป็นพลังแห่งการเยียวยาอย่างแท้จริง และเฉพาะพืชผักเท่านั้นที่มีพลังเหล่านี้ สังเกตได้ว่า หากเราโยนมะเขือเทศออกไปทั้งผลที่นอกหน้าต่าง แล้วเราปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น ไม่นานจะพบว่ามันสามารถงอกเป็นต้นใหม่ขึ้นมาได้ นั่นล่ะ คือ พลังชีวิตในพืชผักสด ที่ทำให้มันงอกขึ้นใหม่ได้ และแทนที่เราจะโยนออกไปนอกหน้าต่าง เราโยนเข้าในปากเรา ให้พลังนั้นมาฟื้นฟูเยียวยาเซลล์ของเราจะดีกว่าไหม? (คุณหมอถาม)
- การเลือกผักผลไม้นั้น ควรเลือกที่อยู่ในระยะทางใกล้กับเราให้มากที่สุด เพราะ พืชผักผลไม้จากต่างถิ่น เดินทางจากแดนไกล เราไม่ทราบได้แน่ชัดว่ามันผสมอะไรมาบ้าง
- มีคำถามว่า หากเรากินเนื้อสัตว์ และไข่ ที่ออร์แกนิค จะแตกต่างอย่างไรกับการกินมังสวิรัติที่เป็นออร์แกนิค? คำตอบจากคุณหมอคือ การกินเนื้อสัตว์ นม ไข่ ที่เป็นออร์แกนิค เราจะได้รับสารอาหารแค่ 3 ตัว คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แต่ในขณะที่การกินผักผลไม้ เนื้อมะพร้าว น้ำมะพร้าว เป็นหลักนั้น จะได้รับ 3 ตัวข้างต้น + อีก 10 อย่าง (บีมจำได้ไม่หมดค่ะ แต่จะเป็นพวกเอ็นไซม์ที่จะมีเฉพาะในผักผลไม้สดเท่านั้น มีพลังชีวิต มีไฟโตนิวเทรียนส์ เป็นต้น)
- ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง ไม่ต้องแช่เย็น ไม่ต้องใส่น้ำแข็ง ไม่ต้องต้ม น้ำน้ันมีพลังชีวิตสูงสุด
- มีผู้ปกครองถามว่า ถ้าเด็กได้รับการวินิจฉัยว่าแพ้อาหาร 15 อย่าง ควรจะต้องดูแลรักษาอย่างไร? คุณหมอตอบว่า ให้กินเฉพาะผลไม้ น้ำมะพร้าว น้ำเปล่า เป็นเวลา 15 วัน แล้วจะดีขึ้นเอง
อย่างไรก็ตาม นี่คือ การบอกเล่าสู่กันฟังเพื่อเปิดประตูสู่โลกของธรรมชาติบำบัดอีกหนึ่งบาน ไม่ใช่บทความที่จะนำไปอ้างอิงเชิงการแพทย์ได้ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับธรรมชาติบำบัดของศูนย์แห่งนี้ บีมแนะนำให้ติดต่อกับทางศูนย์เพื่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ http://www.naturelifeinternational.com/index.aspx#contact
ติดตามข่าวสารอัพเดทต่าง ๆ ได้ที่
www.facebook.com/beams.secret
www.facebook.com/MindDetoxforAdultAcne
ความคิดเห็น