อาหาร 8 อย่างที่ช่วยในการรักษาสิว



รายการต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่บีมได้ทดลองด้วยตัวเอง เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสิวที่ลดลงกับตัวที่กินเข้าไปค่อนข้างชัดเจนหลายๆ ครั้ง แฟนเพจและผู้อ่านหนังสือ ได้ทดลองนำไปทำดู ก็ปรากฎว่าได้ผลเช่นเดียวกันค่ะ ด้านบนจะลิสต์เอาไว้ และถัดไปจะเป็นการเขียนวิธีการเตรียมค่ะ

  1. ขมิ้นชัน + ขิง (ลดสิวอักเสบ ป้องกันสิวอักเสบ ลดสิวอุดตันที่หน้าผาก เลือดลมหมุนเวียนดี)
  2. สะเดา (ลดสิวอักเสบเม็ดแดง ๆ บวม ๆ ใหญ่ ๆ หรือสิวอักเสบบริเวณแก้มอย่างรวดเร็วและรอยแดง ช่วยฆ่าเชื้อหลาย ๆ อย่างที่ไม่ดีในลำไส้ ใช้แทนการกินยารักษาสิว)
  3. ย่านาง / บัวบก / แตงกวา / แตงโม (ลดสิวอักเสบระดับกลาง และรอยแดงระดับกลาง ช่วยลดความร้อนในลำไส้ บางคนอาจขับถ่ายได้มากขึ้น)
  4. เกลือหิมาลัย (ลดสิวที่เกิดจากลำไส้ ลดภาวะผิวขาดน้ำ ดีท็อกซ์ระดับเซลล์ เพิ่มพลังระดับเซลล์ ช่วยในการดีท็อกซ์ลำไส้ ทำให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน เพราะร่างกายก็เป็นธาตุดิน แต่ทุกวันนี้ดินไม่ค่อยมีสารอาหารยกเว้นฟาร์มที่สมบูรณ์ เซลล์จะทำงานได้ดีมากถ้าได้รับแร่ธาตุที่เพียงพอ ซึ่งจำเป็นต้องกินเกลือนี้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 แก้ว และเวลาที่ป่วย การกินเกลือนี้จะทำให้ร่างกายแข็งแรงมีพลังเร็วขึ้น)
  5. ตรีผลา (ปรับสมดุล 3 โดชาตามแนวอายุรเวท ลดสิวอุดตันและอักเสบที่เกิดจากภาวะไขมันพอกตับ และไขมันที่เกาะผนังลำไส้ หากกินระยะยาว จะป้องกันสิวได้ โดยทำควบคู่กับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ปูพื้นฐานให้ในหนังสือ RESET)
  6. บีทรูท + แครอท (บีทรูทเป็นสุดยอดพืชที่ช่วยล้างเลือด ล้างตับ ส่วนแครอทมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก ตัวนี้จะช่วยให้ผิวแข็งแรง สร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เดิมได้เร็ว ลดและป้องกันสิวอุดตันและอักเสบจากพิษสะสมในเลือดและตับได้ในระยะยาว)
  7. น้ำมันงาม้อน (เป็นพืชที่มีโอเมก้า 3 สูงมาก ทดแทนการกินไขมันจากปลาได้เลย ช่วยต้านการอักเสบในหลอดเลือด และเซลล์ได้ดี ทำให้เลือดไหลคล่อง ลดความหนืด เซลล์ได้รับสารอาหารมากขึ้น และไขมันที่ดีในน้ำมันงาม้อนนี้ยังช่วยบำรุงสมอง และเป็นส่วนประกอบของเซลล์ผิวในส่วนที่ทำให้ผิวเก็บน้ำได้ดี และยืดหยุ่น ช่วยลดสิวอักเสบทุกบริเวณ ลดรอยแดง ลดสิวอุดตันที่หน้าผาก และช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ)
  8. น้ำปั่นใบเซเลอรี่ (Celery) (ช่วยเพิ่มใยอาหารในลำไส้ เพิ่มโปรไบโอติคส์ให้ลำไส้ ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และดีท็อกซ์ลำไส้ได้ดีมาก ๆ และสีเขียวยังช่วยเพิ่มคลอโรฟิลล์และเม็ดเลือดให้ร่างกายดอีกด้วย)

ขมิ้นชัน + ขิง

ประโยชน์ของสูตรนี้ คือ
  • ขมิ้นชันช่วยลดและต้านการอักเสบ ลดปิตตะ (ธาตุไฟ) 
  • ขิงช่วยลดการคั่งของน้ำเหลือง ปรับเลือดลมให้เดินดีขึ้น โดยไม่เพิ่มความร้อนให้ร่างกายมากเกินไปเหมือนสมุนไพรฤทธิ์ร้อนอื่น ๆ 
  • ช่วยรักษาและป้องกันการปะทุสิวอักเสบและสิวเม็ดบวม ๆ ใหญ่ (คัพพะ) 
  • ช่วยลดสิวอุดตันที่หน้าผาก
ข้อควรระวัง
  • หากไม่ล้างลำไส้และปรับอาหารไปด้วยระหว่างกินสูตรนี้ อาจทำให้มีสิวอักเสบและอุดตันเพิ่มขึ้นได้จากการขับของเสียที่ตกค้างออกจากเซลล์ตับ ผนังลำไส้ และเซลล์ต่าง ๆ ดังนั้น ควรล้างลำไส้ก่อนกินสูตรนี้อย่างน้อย 7 วัน และไม่กินของต้องห้าม 8 อย่างเพิ่มให้ร่างกาย ทำร่วมกับการออกกำลังกาย + นั่งสมาธิปรับคลื่นจิตให้สงบ จะทำให้ผลของการรักษาสิวนั้นได้ผลเร็วขึ้น
วิธีการเตรียม
มีวิธีเตรียมที่เคยโพสต์คลิปสั้น ๆ และภาพประกอบเอาไว้ในเพจ ดูได้ที่นี่ค่ะ https://www.facebook.com/Siwsecret.Academy/posts/1450422351663360
และคลิปแบบต้มน้ำขิงแล้วเอามาผสมขมิ้นชันค่ะ https://www.facebook.com/Siwsecret.Academy/videos/1448895748482687/

วิธีการทำนะคะ (น้ำขิงผสมขมิ้นชันในคลิป)
1. เอาขิงสดล้างให้สะอาดทั้งเปลือก ฝานเป็นแว่นๆ ปริมาณเอาตามชอบ ว่าเข้มข้นมากหรือน้อย
2. ใส่ขิงลงในหม้อ ตั้งแต่ก่อนน้ำเดือด หลังจากเดือดประมาณ 10 นาที ให้พอมีกลิ่น ปิดไฟ
3. นำผงขมิ้นชันมาผสมในแก้วที่จะกิน ความเข้มข้นตามชอบ

*** น้ำขิงต้มแล้ว เก็บในตู้เย็นได้ 1-2 วัน และตอนที่จะกิน ก็เอามาอุ่น เทใส่แก้ว แล้วใส่ผงขมิ้นชัน แล้วคน ***

สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้ขิงผงที่ไม่ผสมน้ำตาลเลย จะเลือกเป็นออร์แกนิคหรือไม่ก็ได้ อยู่ที่ความสบายใจในการกินเป็นหลัก กับขมิ้นชันผง ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่ TOPS (ของบีมซื้อที่ TOPS ค่ะ) หรือร้านสุขภาพต่าง ๆ โดยต้องคัดสรรที่คุณภาพ ไม่ชื้น ไม่ขึ้นรา

โดยชงขิงผงก่อน 1 แก้วด้วยน้ำอุ่นหรือร้อน (ของบีมมักจะเติมน้ำร้อนลงไปก่อนเพื่อให้ขิงละลายหมด จากนั้นจะเติมน้ำอุณหภูมิปกติลงไปเพื่อทำให้อุ่น และพร้อมดื่มได้เลย) จากนั้นก็ใส่ผงขมิ้นชันลงไปตามที่ต้องการ ปกติบีมจะใส่เพียง 1 ช้อนโต๊ะ คน ๆ ให้เข้ากัน แล้วดื่มได้ทุกเวลาที่ต้องการ ในเวลาท้องว่างหลังตื่นนอน ก่อนนอน ก่อนหรือหลังอาหารภายใน 15 นาที ก็จะช่วยในการย่อยอาหารได้ด้วย ทำให้ของเสียตกค้างในระบบย่อยลดลง (ดื่มอุ่น ๆ นะคะ)

หรือถ้าสายกินสด ๆ ก็ยิ่งดีค่ะ ให้นำขมิ้นชันกับขิงมาต้มรวมกันได้เลย ใส่ขิงและขมิ้นชันที่ล้างสะอาดแล้วฝานเป็นแว่น ๆ ขนาดพอประมาณ ไม่บางและหนาเกินไป ใส่ลงหม้อตั้งแต่น้ำยังไม่เดือด จนกระทั่งเดือดแล้วเบาไฟอ่อน ๆ ไปอีก 20-30 นาที จนมีกลิ่นของขิงและขมิ้นชันและน้ำมีสีเข้มขึ้น ก็ปิดไฟ ยกลงให้หายร้อน แล้วเทใส่กระบอกเก็บความร้อน นำไปดื่มได้ตลอดวัน

ยิ่งคนที่ทำงานในห้องแอร์ ยิ่งควรจิบดื่มไปตลอดวันค่ะ จะช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้เหมาะกับการทำงานตามปกติ และช่วยไล่ความเย็น ชื้น จากแอร์เย็น ๆ ด้วย ซึ่งความเย็นชื้นก็เป็นสาเหตุให้ร่างกายเสียสมดุลและทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน

สะเดา

เป็นสูตรของอายุรเวทที่ใช้รักษาสิวคัพพะและปิตตะ และซีสต์ในร่างกายประเภทต่างๆ (บีมนำมาจากหนังสือ Beauty Pure & Simple ของคุณ Kristen Ma) 

ประโยชน์ของสะเดา
  • ลดความร้อน (ปิตตะ) ได้เหมือนเอากองทรายดับไฟ คือ ดับได้เร็ว แรง ทันที
  • ลดคัพพะ คือ การคั่งของน้ำ น้ำมัน น้ำเหลือง 
  • จึงทำให้สิวปิตตะ (อักเสบ) สิวคัพพะ (บวมน้ำ บวมเลือด) ลดลงได้ค่อนข้างรวดเร็ว
วิธีการเตรียมและกิน
  1. ใช้สะเดาสด วิธีการเตรียมและกิน เขียนให้แล้วที่เพจนะคะ https://goo.gl/3GuuZl
  2. ใช้สะเดาแคปซูล วิธีนี้บีมยังไม่เคย แต่ลูกค้าและแฟนเพจที่ไม่สะดวกทำน้ำสะเดาหรือหาสะเดาไม่ได้จริง ๆ ได้ซื้อมาทาน เป็นยี่ห้อ Himalaya จากอินเดีย ที่หาซื้อได้ในเว็บทั่วไปที่นำเข้ามาจำหน่ายนะคะ บีมไม่ได้จำหน่ายค่ะ สำหรับวิธีการกิน ให้กินถอนพิษร้อน เฉพาะช่วงที่รู้สึกร้อนเกิน ซึ่งจะแสดงออกง่าย ๆ คือ มีสิวอักเสบมาก รอยแดงมาก คันสิวมาก หน้าและผิวมีไอร้อนออกมา กระหายน้ำมาก ดื่มน้ำอย่างไรก็ไม่หาย มีร้อนใน มีกลิ่นตัว กลิ่นปากรุนแรง มีเสมหะออกสีเขียวข้น มีตกขาวสีเขียว เป็นต้น พออาการเหล่านี้หายไป ให้หยุดได้เลยทันที 
ข้อควรระวัง
สะเดามีฤทธิ์เย็นมาก ดับร้อนได้เร็วมาก ดังนั้น ไม่ควรใช้มากเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายเสียสมดุลไปทางเย็นเกิน (ภาวะเย็นเกินเป็นอย่างไร ดูได้ที่ https://www.facebook.com/morkeawfansclub/posts/308047812636621) ดังนั้น ควรใช้แก้อาการเฉพาะหน้า เมื่อมีภาวะร้อนเกินตามด้านบนเท่านั้น หรือต้องการให้สิวเม็ดใหญ่ ๆ บวม ๆ แดง ๆ ยุบลงอย่างรวดเร็ว

ย่านาง / บัวบก / แตงกวา / แตงโม / เขากุย

ประโยชน์ของอาหารกลุ่มนี้
กลุ่มนี้ บีมถือว่าเป็น "อาหาร" ที่มีฤทธิ์เย็น หาได้ง่าย และมีสรรพคุณในการปรับสมดุลร้อนเกินได้ดี เห็นผลชัดเจน ซึ่งการทานสดจะให้ผลดีที่สุด เร็วที่สุด 

สำหรับย่านาง ปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลายรูปแบบให้ใช้ง่าย อาจจะเป็นน้ำสกัดสีใสผสมใบเตย หรือแบบแคปซูล ก็สามารถใช้ได้ทั้งหมด โดยให้ดูว่าผลิตที่ไหน เพราะกระบวนการผลิตและความรู้ ประสบการณ์ในการคัดสรรส่วนสำคัญของพืชมาใช้และเทคนิคการสกัดสารสำคัญมีผลมากต่อคุณภาพและการทำงานของสมุนไพรต่อร่างกาย และต้องระมัดระวังเรื่องเชื้อรา หากผลิตไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย การเลือกผู้ผลิตจึงสำคัญมาก ที่ต้องรู้จริงและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยหากต้องการทานสมุนไพรแบบแปรรูปค่ะ และบัวบกก็เช่นกัน แต่บัวบกจะมีเฉพาะแคปซูล ไม่มีน้ำสกัดค่ะ

สำหรับแตงกวา แตงโม แนะนำให้กินแบบที่ปลอดสารค่ะ ออร์แกนิคแท้ก็ยิ่งดี หรือปลูกเองก็ยิ่งดี โดยแนะนำให้เอามาปั่น จะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้นและนำไปใช้งานได้มากขึ้น จะลดความร้อนได้เร็วและยังได้รับสารอาหารเข้มข้นกว่าการเคี้ยวทานด้วยค่ะ

สำหรับเขากุย จะจัดเป็นยาสมุนไพร ที่ไม่มีสารอันตรายใด ๆ เหมือนสมุนไพรตัวหนึ่ง ทำงานแบบเดียวกับย่านาง ใช้ลดพิษร้อน ความร้อน ไข้ ซึ่งจะเป็นการลดความร้อนระดับกลาง ๆ หากเป็นมากต้องแก้ด้วยสะเดา 

คำแนะนำในการกิน
การกินอาหารและสมุนไพรกลุ่มนี้ สามารถกินได้แบบสบาย ๆ เพราะมีฤทธิ์เย็นที่ไม่มากเท่าสะเดา ซึ่งสามารถกินได้ตลอดวัน เพื่อปรับสมดุลร้อนเกินเล็ก ๆ ให้เป็นปกติ เพราะในยามที่เราทำงาน ความเครียดที่ไม่รู้ตัว การใช้ความคิดมาก ๆ การดื่มน้ำน้อยระหว่างวัน ทำให้มีภาวะร้อนเกินเกิดขึ้น อาจคันสิว หรือมีสิวอักเสบบวมขึ้น การกินสิ่งเหล่านี้สลับกันไปมาทุก ๆ วัน (อย่ากินตัวเดิมซ้ำ ๆ ค่ะ ร่างกายจะเบื่อและไม่อยากรับ) จะทำให้ร่างกายปรับตัวให้เย็นลงได้ดีขึ้น เซลล์ทำงานเป็นปกติ ในคนที่ร้อนเกินจนขับถ่ายไม่ค่อยออก อุจจาระแข็ง การทานสมุนไพรและอาหารปรับให้ตัวเย็นลง ในหลายคนก็ทำให้ขับถ่ายคล่องขึ้นค่ะ

ความคิดเห็น