วิธีกำจัด "สิวปิตตะ" ให้อยู่หมัดด้วยวิชาอายุรเวท
ตัวอย่างของสิวปิตตะ ขอบคุณรูปภาพที่ได้รับบริจาคเพื่อเป็นวิทยาทานแก่เพื่อน ๆ จากแฟนเพจสิวซีเคร็ตค่ะ |
สิวปิตตะ คืออะไร?
ในทางอายุรเวท ปิตตะหมายถึงธาตุไฟสิวปิตตะจึงหมายถึง สิวที่เกิดจากไฟที่มากเกินไปนั่นเอง
ไฟที่มากเกินไป จะทำให้ร่างกายร้อน และ อักเสบ
จึงทำให้สิวปิตตะเป็นสิวที่แสดงออกในลักษณะเป็นสีแดง อักเสบ ปวด บวม ร้อน และอาจจะมีหนองที่หัวสิวร่วมด้วย
สิวปิตตะ อาจจะขึ้นทั่วหน้า หรือ แค่บริเวณส่วนกลางของหน้าที่ควบคุมโดยไฟของร่างกาย โดยไล่จากใต้ตาลงมา จมูก แก้มส่วนบน จนถึงแนวขอบปากบนก็ได้
สาเหตุของสิวปิตตะ
สิวปิตตะ เกิดจากการที่ร่างกายของเราสะสมความร้อนมากเกินไป ซึ่งที่มาของความร้อนเกินได้แก่- พิษที่รับจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ควันรถ ควันบุหรี่ ละอองพิษในโรงงาน ละอองพิษในสำนักงาน
- การทานอาหารฤทธิ์ร้อนเป็นประจำทุกวัน โดยไม่ทานอาหารหลากหลายและไม่ทานอาหารฤทธิ์เย็นเพื่อปรับสมดุลเลย รายการอาหารฤทธิ์ร้อนเย็นค้นหาในกูเกิ้ลด้วยคำว่า หมอเขียว อาหารฤทธิ์ร้อน อาหารฤทธิ์เย็น เป็นต้น
- การเป็นคนที่มักขี้โมโห หงุดหงิดง่าย อารมณ์แรง
- การกินและฉีดยา และรับฮอร์โมนเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ตับสะสมพิษจากเคมีจากตัวยาและฮอร์โมนส่วนเกิน รวมถึงยารักษาสิวทุกประเภทด้วยที่แก้แค่ปลายเหตุเท่านั้น ยิ่งกินยิ่งทำให้ร่างกายสะสมปิตตะ เมื่อหยุดกิน จึงยิ่งเป็นสิวปิตตะเพิ่มขึ้นนั่นเอง
- การกินอาหารที่ใส่สารปรุงแต่งมาก กินอาหารผ่านกระบวนการมาก ไม่ค่อยกินอาหารจากธรรมชาติ ชอบกินรสจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรสเผ็ดและรสเปรี้ยว ชอบกินอาหารสำเร็จรูป และอาหารผ่านไมโครเวฟบ่อย ๆ
- การนอนหลัง 4-5 ทุ่มเป็นประจำทุกวัน รวมไปถึงการนอนไม่มีคุณภาพ นอนหลับไม่สนิท จะทำให้ปิตตะในตับพุ่งสูง ตับไม่ได้พัก และทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้พิษตกค้างในเลือดและน้ำเหลือง และระบบอวัยวะมากมาย
- ไม่ล้างลำไส้ มีอุจจาระตกค้างแต่ไม่รู้ตัว ปล่อยให้ตัวเองท้องผูกยาวนานสะสม
- กินอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันทรานส์สูงเป็นประจำ ซึ่งมักจะอยู่ในรูปแบบของเบเกอรี่ อาหาร Fast Food มักจะเป็นรูปแบบของอาหารตะวันตกชนิดที่อุดมไปด้วยแป้งและไขมันเป็นหลัก เน้นให้พลังงาน แต่ไม่ค่อยให้สารอาหารที่เซลล์ต้องการ คือ วิตามิน เกลือแร่ ไฟโตนิวเทรียนส์ และทำให้ร่างกายยิ่งร้อนเกิน
- กินเนื้อสัตว์มากเป็นประจำ
วิธีบำบัดสิวปิตตะ
แบ่งเป็นสิวอักเสบเม็ดแข็งไม่มีหนอง และสิวอักเสบมีหนองสิวทั้งสองแบบนี้จะใช้หลักแก้ระบบภายในเหมือนกัน แต่แก้ที่ตัวสิวแตกต่างกัน
การลดไฟปิตตะที่ระบบภายใน ทำได้โดย
- การดื่มน้ำเพิ่มขึ้น เพราะน้ำไปดับไฟ แต่ไม่ได้ให้ดื่มน้ำเย็น ให้ดื่มน้ำอุณหภูมิปกติที่สะอาดปลอดสารปนเปื้อน (บางคนดื่มน้ำกรองหรือน้ำประปาซึ่งมีคลอรีนและอาจมีสารปนเปื้อนเล็ดลอดได้ ดมได้จากกลิ่นของน้ำค่ะ)
- ผสมคลอโรฟิลล์ หรือน้ำย่านางสกัดเย็น ลงไปในน้ำที่ดื่ม กำหนดปริมาณให้ได้วันละ 2.5 ลิตร ค่อย ๆ จิบดื่มไปตลอดวัน จนกว่ารู้สึกว่าเย็นเกินไป ให้ปรับดื่มน้ำขิงแทน จนรู้สึกเป็นปกติ ไม่หนาวสั่น หากเป็นโรคเลือดจางหรือความดันต่ำ ให้ดื่มน้ำใบเตยหรือบัวบกแทนน้ำย่านาง เพราะระดับความเย็นน้อยกว่า น้ำว่านหางจระเข้ที่ไม่ผสมน้ำตาล ก็สามารถช่วยได้ บ้านเรามีสมุนไพรพวกนี้อยู่แล้ว หาเจ้าประจำที่ทำไม่เติมน้ำตาล ทำสด ถ้าไม่แช่เย็นด้วยได้จะดีมาก แต่ถ้าเลือดขนาดนั้นไม่ได้จริงๆ ก็ซื้อแบบแช่เย็น แล้วเอามาตั้งทิ้งไว้สักหน่อย แล้วค่อยดื่มค่ะ
- ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง เพราะมักเติมน้ำตาลและสารปรุงแต่งอื่นๆ เพิ่ม
- ปรับการทานอาหาร มาทานกลุ่มอาหารฤทธิ์เย็น เช่น ข้าวกล้องเป็นข้าวขาว ทานผักผลไม้ฤทธิ์เย็น ถ้าเป็นผลไม้ หรือผักที่ย่อยง่าย เอามาปั่นได้ แต่ถ้าผักไหนที่แข็ง ๆ ต้องเอามาลวกก่อนค่ะ แล้วค่อยกิน ไม่งั้นท้องอืด เป็นสิววาตะเพิ่มได้ เน้นผักผลไม้ที่ฉ่ำน้ำและไม่ผ่านกระบวนการ เช่น แตงทั้งหลาย แตงโม แตงกวา ว่านหางจระเข้ เป็นต้น
- ทานสมุนไพรลดปิตตะ ได้แก่ มะขามป้อม และขมิ้นชัน ได้ในทุกรูปแบบสดก็ได้ แบบผง แคปซูล ชา ก็ได้ (ซื้อของมีคุณภาพ ของไม่มีคุณภาพจะชื้น ระวังเชื้อราและสารหนูค่ะ) มะขามป้อมช่วยลดปิตตะและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ส่วนรากขมิ้นชันมีสรรพคุณต้านการอักเสบ ต้านไวรัส และแบคทีเรีย (กินแทนยาแก้อักเสบและยาปฏิชีวนะเลยค่ะ)
- ล้างตับเดือนละครั้ง
- เล่นโยคะแบบปราณนายามะ (แบบฉบับที่ครูนิน โยคะ เจ้าของหนังสือและเพจ Yoga Story สอน จากข้อมูลเพื่อนเรียนโยคะ เมืองไทยมีผู้เชี่ยวชาญโยคะด้านนี้น้อยมาก) เพื่อลดอารมณ์ร้อนลง และฝึกหายใจลึก ๆ ยาว ๆ ช้า ๆ เพื่อฝึกผ่อนคลายอารมณ์ดังกล่าว
งดอาหาร 10 อย่างนี้โดยเด็ดขาด
(คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ค่ะ และเซฟไปใช้ได้เลยค่ะ)
สำหรับผิวหน้า
สิวอักเสบไม่มีหนอง จากหนังสือ Beauty Pure and Simple แนะนำว่าจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์หรือสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการปลอบประโลมผิวให้สงบจากความร้อน ให้เย็นลง เบาสบาย ส่วนผสมควรเป็นธรรมชาติและปราศจากส่วนผสมที่ทำให้ผิวยิ่งร้อน แห้ง แดง อักเสบ เช่น ยารักษาสิวขนานต่าง ๆ หรือสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนพอกบนสิวเพิ่มเติม และแอลกอฮอล์ปกติแล้ว ถ้าบีมเป็นสิวประเภทนี้หรือแนะนำผู้คน บีมจะเน้นหลักการดังนี้
- ใช้ตัวล้างหน้าที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของ AHA, BHA หรือกรดใด ๆ เลย แม้แต่กรดธรรมชาติ เช่น เจลล้างหน้ามะเฟือง ก็จะไม่แนะนำ หรือสบู่สับปะรด อะไรก็ทำให้ผิวผลัด จะไม่แนะนำเลย
- เน้นการให้ความเย็นและความชุ่มชื้นกับผิวเป็นหลัก เช่นใช้น้ำแข็ง น้ำเย็นล้างหน้า และใช้ผลิตภัณฑ์ประเภททำให้ผิวอิ่มน้ำ เช่น น้ำแร่ธรรมชาติ (สำหรับผิวหน้า คนละสูตรกับตัวกินนะคะ)
- งดการทายารักษาสิวทุกประเภทโดยเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้สิวปิตตะแย่ลง เพราะตัวยามีฤทธิ์ร้อน จะยิ่งเพิ่มความร้อนให้ผิว
สำหรับสิวอักเสบแบบมีหนอง ให้ใช้น้ำเปล่าสะอาดที่ต้มสุกแล้วปล่อยให้อุ่นพอประมาณ ผสมเกลือหิมาลัย และแต้มไปที่หัวสิวเฉพาะจุดที่มีหนอง หรือสามารถเจาะหัวสิวด้วยปลายเข็มฉีดยาให้เป็นรูเล็ก ๆ ได้ แล้วแต้มสารละลายเกลือหิมาลัยในน้ำสุกอุ่น สิวจะแห้งเร็ว เพราะเกลือช่วยฆ่าเชื้อ แต่จะมีรอยดำเกิดตามมา ไม่ต้องกังวล เพราะมันจะผลัดออกไปเอง ไม่เป็นรอยดำค้างอยู่แต่อย่างใด แนะนำให้ใช้คัตเติ้ลบัดชุบน้ำเกลือเช็ดนะคะ แต้มได้ตลอดวัน เท่าที่ต้องการ
ห้ามเจาะ บีบ เค้น สิวอักเสบมีหนอง ถ้าหัวสิวยังไม่เป่งจนพร้อมหลุดออกมาง่าย ๆ เพราะสิวที่มีหนองจะทำให้เป็นรอยหลุม แผลเป็นได้มากกว่า หากไปเค้นอย่างไม่ถูกวิธี
ตัวอย่างของสิวปิตตะแบบต่าง ๆ
(คลิกที่แต่ละรูปเพื่อดูภาพขยายใหญ่ได้เลยนะคะ)
ความคิดเห็น