5 ขั้นตอนในชีวิตที่เปลี่ยนผิว "กร้านดำ" เป็น ‪#‎ผิวใสมีออร่า‬ ด้วย ‪#‎วิธีธรรมชาติ‬ ในแบบฉบับ ‪#‎บีมสิวซีเคร็ต‬



5 ขั้นตอนในชีวิตที่เปลี่ยนผิว "กร้านดำ" เป็น ‪#‎ผิวใสมีออร่า‬ ด้วย ‪#‎วิธีธรรมชาติ‬ ในแบบฉบับ ‪#‎บีมสิวซีเคร็ต‬
มีหลายคนถามค่ะว่า บีมเคยบอกว่า ไม่กิน ‪#‎กลูต้า‬ ไม่กิน ‪#‎วิตามินซีและคอลลาเจน‬แล้วผิวมันใสได้อย่างไร บีมจะมาสรุปให้ฟังแบบหมดเปลือกค่ะ ถึงประสบการณ์ตรง ที่ตัวเองก็ไม่ได้คาดคิด ไม่ได้คาดหวังว่า ผิวและออร่าจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ เพราะไม่ได้ปรารถนาจะมีผิวขาวใสเหมือนใคร ชอบสีผิวน้ำผึ้งของตัวเองอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นผลพลอยได้จากวิธีที่บีมดูแลตัวเองมา 6 ปีนี้ มันบ่งบอกว่า ช่วยเรื่องความงามแบบ Inside-out ได้ทั้งหมด!
มาดูกันค่ะว่า 5 ขั้นตอนของบีมนี้มีอะไรบ้าง?
1. สิ่งที่บีมค้นพบว่า เป็นกุญแจแรกสุด สู่การมีผิวใส (พร้อมสิวหาย) คือ ‪#‎การล้างลำไส้‬ จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ค่ะ แต่ตั้งแต่บีมเริ่มล้างลำไส้ ครั้งแรกแบบเอาจริงเอาจัง เพราะศึกษาข้อมูลด้านธรรมชาติบำบัดมาสักระยะ แล้วเริ่มสังเกตแบบจริงจัง บีมเริ่มด้วยวิธีการทานแคปซูลล้างลำไส้ เมื่อปลายปี 2552 ก็เห็นว่า สิวหาย และการล้างลำไส้ผสมกับการดื่มน้ำผักผลไม้ปั่น และอาหารที่เรียกว่า แทบจะกินผักแทนข้าว (ไม่ค่อยกินข้าวเลย ตอนนั้นไม่ดีนะคะ สุดโต่งไป แต่เอามาเล่าให้ฟังเท่านั้นค่ะ) ก็พบว่า "อาหารสัมพันธ์กับคุณภาพผิวมาก ๆ" (โภชนบำบัด) หน้าไม่มันเลยตอนเช้า สิวไม่ค่อยมี แต่...การทำเช่นนั้นเนี่ย ร่างกายมันขาดสารอาหารค่ะ ระยะยาวสิวจะไม่หาย เพราะร่างกายเสียสมดุลและได้รับอาหารไม่พอที่จะไปทำงานและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หรือล้างพิษต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
2. ตับสะอาด ใช่ค่ะ ฟังไม่ผิด นอกจากลำไส้สะอาดแล้ว ต้องทำให้ตับสะอาดด้วย และตับนี่แหละ ที่มีผลต่อสุขภาพผิวโดยตรงเลย สิ่งที่ทำให้บีมเรียนรู้ข้อนี้เกิดจากการสังเกตหลาย ๆ ครั้งตลอด 6 ปีที่ผ่านมาค่ะ และได้ความรู้เพิ่มเติมมาเรื่อย ๆ ด้วย ครั้งแรกสุด ที่พบว่าตับสะอาดแล้วผิวจะใส สิวจะหาย ก็ตอนที่สวนลำไส้ด้วยกาแฟครั้งแรก (แบบรู้จริงและเข้าใจ) ประมาณเดือนเมษายน ปี 2553 หลังจากสวนเช้าเย็นต่อกัน 3 วัน ก็พบว่า หน้าใสมาก สิวยุบ แต่...หลังจากนั้นประมาณ 7 วัน พบว่า มีอาการร้อนในแบบรุนแรงมาก ๆ ไม่สบายเนื้อตัว ปวดนั่นนี่เยอะไปหมดค่ะ แต่บีมรู้ว่า นี่คือ อาการซ่านพิษหรือ ‪#‎HealingCrisis‬ (ระยะเยียวยา) ซึ่งเป็นปกติมาก ๆ ช่วงนั้นหน้าจากขาว ๆ ใส ๆ สิวยุบไป จะเริ่มดำคล้ำ สิวขึ้น แล้ว...เมื่อเราดูแลตัวเองให้ดี ดื่มน้ำมาก ๆ นอนเร็ว ออกกำลัง นั่งสมาธิ ทำจิตสงบ ๆ (ตอนนั้นบีม slow life ได้ค่ะ เพราะอยู่บ้านเฉย ๆ ลูกไม่มี ไม่ได้ทำงานประจำที่ไหน คือ เขียนบล็อก ขายของ รับทรัพย์อยู่บ้านอย่างเดียว ธุรกิจยังไม่ใหญ่ ก็สบายใจค่ะ ตอนนั้น) แต่...หลังจากนั้น บีมก็ไม่ค่อยสะดวกในการสวนอีกเท่าไหร่ จึงเสาะหาวิธีอื่น ก็มาเจอวิธีที่ 3
3. ทานอาหารเสริม ช่วงที่ 3 นี้ บีมทำงานหนักมาก ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ก็อัดอาหารเสริมเยอะมากเลย แต่ไม่ชอบกินหลายตัว ตอนนั้นบีมขายคอลลาเจนกับผงเสาวรส ก็กินเยอะค่ะ ก็เลยเรียนรู้ว่า คอลลาเจนและวิตามินซีมันช่วยให้ผิวใสจริง ๆ แต่บีมไม่แนะนำให้ทุกคนทำแบบนี้ เพราะอะไร? คือ อาหารเสริมคอลลาเจนและวิตามินซี ถ้าอยากจะทาน ก็ทานค่ะ เลือกอันที่โอเคก็แล้วกัน คือ หลายที่เขาจะใส่ผงแป้ง และใส่สารสังเคราะห์อะไรเยอะแยะ ซึ่งมันไม่ดีต่อร่างกายอยู่แล้วค่ะ แต่ส่วนตัวบีม ก็มั่นใจในของที่ตัวเองกิน ก็เลยกินเต็มที่ และบีมก็ได้ทานอาหารเสริมของ Jeunesse คือ Reserve, VidaCell และ A4 ก็ได้เรียนรู้ว่า การที่เซลล์เราได้รับอาหารเต็มที่และมีคุณภาพแบบเต็มเหนี่ยว มันทำให้ผิวเปลี่ยนได้จริง ๆ ในส่วนของ Reserve เขาจะทำให้ผิวมีออร่าและภูมิคุ้มกันแข็งแรง ในส่วนของ VidaCell เขาเข้าไปแล้วร่างกายดึงเขาไปสังเคราะห์กลูต้าไธโอนได้เอง กินแล้วผิวขาวขึ้นเป็นผลพลอยได้ A4 กินแล้วเสริมสมดุลฮอร์โมนเพศ ทำให้ผิวเนียนขึ้น รูขุมขนละเอียดขึ้น แต่...สำหรับใครหลายคน มันก็มีราคาสูง ไม่ได้หากินได้ตลอดไป บีมก็เลยมาคิดว่า แล้วบีมจะแนะนำคนที่ไม่มีเงินให้เขามีสุขภาพผิวดีได้อย่างไร? มันก็นำมาสู่ขั้นตอนที่ 4 ค่ะ
4. มันก็กลับไป Back to Basics คือ โภชนบำบัด คือ บีมลองคิดในมุมของคนที่เงินไม่ได้เยอะ เป็นคนส่วนใหญ่ของประชากร จะทำยังไงให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้แบบง่าย ๆ และเขาทำได้ทุกวัน เพราะการรักษาสิวแนวทางบีมมันต้องต่อเนื่อง บีมก็เลยนึกถึง ‪#‎น้ำมะเขือเทศดอยคำ‬ ที่เคยเห็นรีวิวกันหนักมากช่วงก่อน ๆ นู้น แต่บีมเป็นคนไม่ชอบตามกระแส ต้องรอกระแสไปก่อน ถึงจะเข้าไปดูว่ามันเป็นยังไง ประกอบกับน้องคนนึงที่บีมเป็นที่ปรึกษาเขามาตลอด ตั้งแต่สิวเต็มหน้า จนตอนหลังประมาณ 1 ปี เขาหายเกลี้ยงเลย เขาก็มาเล่าให้ฟัง และเขาพูดถึงน้ำมะเขือเทศดอยคำ บีมก็เลยคิดว่า...ลองดูซิ เผื่อจะใช้ได้ บีมกินร่วมกับน้ำเต้าหู้บรรจุขวดค่ะ พวกนมถั่วเหลือง เพราะเรียนรู้เพิ่มเติมว่า ถ้าจะไม่ให้ผอม ต้องกินโปรตีนเยอะ ๆ เพราะทั้งร่างกายเราเป็นโปรตีนกับน้ำเยอะมาก (หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าไปกินแป้งกับไขมันจะเพิ่มน้ำหนัก นั่นน่ะ ตัวเพิ่มพิษ ตัวเพิ่มสิวเลย ต้องเลือกกินแป้งเชิงซ้อนค่ะ ถึงจะไม่เป็นไรและเพิ่มมวลร่างกายให้สมส่วนได้) ก็กินน้ำมะเขือเทศกับน้ำเต้าหู้นี้เยอะมาก ๆ ทุกวัน มันช่วยได้นะคะ ช่วยทั้งเรื่องผิวใสและเรื่องสิวด้วย (ถ้าจะให้ผิวเนียนขึ้น ต้องกินน้ำมันงาม้อนเพิ่มด้วยค่ะ เล็บจะเงาขึ้นด้วย)
ช่วงทดลองทานสูตรน้ำมะเขือเทศกับน้ำเต้าหู้ บีมไม่ทานอาหารเสริมใด ๆ ค่ะ ก็พบว่า ได้ผลดีค่ะ แต่ให้ทานสัก 3 ครั้งต่อวันค่ะ ตอนท้องว่าง มะเขือเทศเขาสามารถทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้นได้จริง และโปรตีนจากนมถั่วเหลือง ก็จะทำให้ผิวสังเคราะห์โปรตีนได้ ทำให้ผิวยืดหยุ่นได้ค่ะ
5. สิ่งสำคัญที่สุดทำให้บีมมีหน้าตาผิวพรรณและออร่าที่เปลี่ยนแปลงไป คือ การยกระดับ ‪#‎จิตใจ‬ และ ‪#‎จิตวิญญาณ‬ สูงขึ้น ผ่านการศึกษา ‪#‎ธรรมะ‬ ‪#‎นั่งสมาธิ‬ ‪#‎สวดมนต์‬‪#‎ปฏิบัติธรรม‬ ‪#‎รักษาศีล‬ ซึ่งช่วง 6 ปีที่ผ่านมา บีมพบเจอเรื่องราวที่ถือว่าหนักหน่วง เป็นทุกข์ใหญ่หลวงอยู่หลายครั้ง และทุกครั้งที่หมดพลัง บีมจะหันเข้าหาธรรมะแบบจริงจัง และทุกครั้งที่จะหลุดบ่วงปัญหานั้น เราจะต้องยกระดับจิตให้สูงขึ้นกว่าจิตที่ทำให้เกิดสถานการณ์นั้น ๆ ค่ะ บีมได้ฝึกฝนจิตมาเรื่อย ๆ จนช่วงพีคสุด ๆ คือ ได้รับจากการปฏิบัติธรรมที่ ‪#‎วัดอัมพวัน‬ ทำให้บีมได้แนวทางที่ฝึกจิตได้ถูกต้อง นำกลับมาทำเองต่อ แล้วมันก็ถึงจุดที่บีมได้เข้าใจแท้จริงว่า ใด ๆ ในโลกนี้ล้วนอนิจจัง การไม่ยึดติด คือ ความสุขแท้ และทำให้จิตเราเบาและมีสติมากขึ้น จิตเบาและสตินี้จะทำให้การกระทบของกรรมเก่าหรือพลังอารมณ์ที่ฝังในจิตที่ข้ามภาพชาติมา ไม่สามารถกระทบเราได้ เมื่อไม่ได้รับการกระทบจากพลังกรรมเก่า และไม่สร้างกรรมใหม่ และไม่รับกรรมของคนอื่นมาเป็นของเรา ใจจะสบายขึ้นค่ะ ซึ่งระบบฮอร์โมนจะทำงานดีขึ้น เซลล์จะแข็งแรงขึ้น มันจะส่งผลให้หน้าตา ผิวพรรณเราเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติเอง
สรุปเลยค่ะ ว่า 6 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนผ่านผิวของบีม ก็คือ การดูแล ‪#‎สมดุลร่างกาย‬และการยกระดับจิตใจ ทั้งหมดเป็นพื้นฐานที่บีมแนะนำไว้ใน ‪#‎Ebook‬ ‪#‎ผิวใสสไตล์พีรญา‬ เป็นหลักเลย นั่นคือ พื้นฐาน ที่ถ้าใครไม่ทำ ก็ยากที่จะมีผิวที่ดีแบบยั่งยืนได้ อย่าข้ามขั้นค่ะ บางคนก็รู้ตัวว่ากินอาหารเสริมมาก แต่ก็ไม่เห็นจะช่วยอะไรเลย ก็เพราะร่างกายอัดแน่นไปด้วยพิษหมดแล้วค่ะ ถ้าไม่ล้าง ไม่ปรับสมดุล กินอะไร เซลล์มันก็ไม่รับ แถมยังเอาที่เรากินไปจัดการกับพิษที่ลอยละล่องอยู่ทั่วเลือด น้ำเหลือง เซลล์ร่างกาย เซลล์ตับก่อน ไม่ได้ไปฟื้นฟูบำรุงอะไรเลยค่ะ ก็เปลืองเท่านั้นเอง
แล้วเมื่อเรามีพื้นฐานสุขภาพที่ดี ร่างกายสะอาดแล้ว กินตามสูตรที่บีมบอก น้ำมะเขือเทศ น้ำเต้าหู้ น้ำมันงาม้อน งาดำ น้ำผึ้งป่า แล้วกินคลีน ๆ เป็นปกติของชีวิต แล้วเดี๋ยวใครหลายคนจะบอกว่า แล้วถ้าต้องไปกินกับเพื่อน ๆ หรือฉลองอะไรแบบนั้น ต้องทำยังไง จากประสบการณ์ของบีมนะคะ บีมพบว่า เดี๋ยวนี้ เมนูที่เราเลือกกินได้แบบคลีนหรือใกล้เคียงคลีน เวลาไปร้านไม่ว่าจะร้านอะไร มีเพิ่มขึ้นมากค่ะ อยู่ที่เราแล้วล่ะค่ะ
เพื่อนที่ดี ต้องเคารพในความเป็นเราค่ะ...
ถ้าเขาไม่ส่งเสริมให้เพื่อนสุขภาพดี...จะยังควรคบอยู่ไหม
ลองคิดดู?

ความคิดเห็น