สาเหตุของสิวในมุมมองของบีม สิวซีเคร็ต
จากประสบการณ์ของบีมในการรักษาสิวของตัวเองและได้รับฟังเรื่องราวและช่วยแก้ปัญหาสิวให้ผู้อื่นตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา (เริ่มในปี พ.ศ. 2552) บีมพบว่า ปัญหาของสิวของคนในยุคนี้ในทุกระดับอายุ 80% ล้วนเป็นสาเหตุจากระบบภายในที่เสื่อมโทรม ซึ่งสาเหตุจากเรื่องความสกปรกนั้นแทบไม่มีให้เห็นอีกต่อไปค่ะ ที่เหลืออีก 20% คือ สาเหตุเรื่องของปัจจัยภายนอกเช่น การแพ้ครีม การแพ้น้ำ การใช้ครีมที่มีสารอันตรายเป็นส่วนผสม การดูแลผิวไม่ถูกวิธี เช่น ไม่ล้างหน้าให้ถูกวิธีเมื่อมีการใช้ BB หรือ CC Cream ก็ทำให้เป็นสิวอุดตันเรื้อรัง การให้ผิวสัมผัสกับเวชสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีเป็นระยะเวลานาน ๆ เป็นต้น
ในที่นี้บีมขอกล่าวถึงสาเหตุของสิวชนิดที่เรียกว่า มีสาเหตุซับซ้อนและต้องใช้วินัยและความตั้งใจมาก ๆ ในการรักษาสูงสุดค่ะ คือ สิวเรื้อรัง (Chronic Acne) และ สิวในวัยผู้ใหญ่ (Adult Acne)
สาเหตุข้อนี้ก็ค่อนข้างเกี่ยวข้องกับสาเหตุข้อแรกค่ะ พิษที่ว่านั้นจะมาในหลาย ๆ รูปแบบ ในอาหาร น้ำ อากาศ ฯลฯ เข้ามาทางจมูก ผิวหนัง ปาก ซึ่งในปัจจุบันนี้ อาหารที่เรากินเข้าไปมากมายทำให้เราได้รับพิษมากพอ ๆ กับคนที่ทำงานอยู่โรงงานอุตสาหกรรมได้เลยค่ะ
การมีภาวะท้องผูกเรื้อรัง
จากที่บีมได้สังเกตผู้เป็นสิวแล้วมาใช้แนวทางนี้ในการรักษา รวมทั้งตัวบีมเอง สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเป็นสิวคือปล่อยให้มีของเสียสะสมในลำไส้นานเกินไป ไม่เคยล้างลำไส้เลยค่ะ บีมเป็นคนไม่มีอาการท้องผูกเลย ถ่ายได้ตลอดทุกเช้า แต่เมื่อก่อนก็เป็นสิวค่ะ แม้จะขับถ่ายได้ดี
สาเหตุการเกิดสิวเรื้อรังหรือสิวผู้ใหญ่
สิวประเภทนี้เป็นสิวที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพโดยตรง ซึ่งจะสังเกตว่าไม่ว่าจะทาครีมรักษาสิวชนิดที่เรียกว่าเทพขนาดไหน (ยกเว้นตัวที่มีสเตียรอยด์) ก็ไม่อาจยุบลงได้
เพราะมันต้องแก้ที่ภายในร่างกายของเราเองค่ะ อันจะมีสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
- การอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation) ตามอวัยวะต่าง ๆ
- การได้รับพิษมากเกินไปจนพิษสะสมเรื้อรัง
- การมีภาวะท้องผูกเรื้อรัง
- การมีภาวะความเครียดเรื้อรัง
การอักเสบเรื้อรัง
แนวคิดในการรักษาสิวของบีมช่วงปีก่อนหน้านี้ บีมมุ่งไปที่การล้างพิษค่ะ แต่พบว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เพราะ มันจะหายแค่ตอนแรก ๆ แล้วหลังจากนั้นถ้าไม่ล้างก็กลับมาเป็นได้อีก
บีมจึงพยายามไปค้นหาต้นกำเนิดของสิวใหม่ค่ะว่าเกิดจากอะไร โดยเรียนรู้ด้วยการใช้ร่างกายตัวเองนี้แหละทดลอง เพราะร่างกายของบีมถูกใช้งานอย่างหนักค่ะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ทั้งธุรกิจและการเลี้ยงลูกที่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นไปได้จะพยายามทำสิ่งต่าง ๆให้ลูกเอง ยกเว้น ทำกับข้าวและซักผ้าค่ะ คือ เราจะต้องมีเวลาพาเขาไปเปิดหูเปิดตา ให้เวลาและความรักกับเขา เอาเข้านอน ซึ่งเด็กเล็ก ๆ การเข้านอนต้องใช้เวลา บางทีก็ 2 ชั่วโมงก็มีค่ะ เสร็จแล้วก็มาทำงานต่อ หรือหลับแล้วตื่นมาทำกลางดึกตี 2 ตี 3 จนถึงเช้า บางทีก็ได้หลับ บางทีก็ไม่ได้หลับกลางวัน
บางช่วงมีสัมมนา เดินทางเยอะ ฯลฯ คือ บีมรู้เลยว่าร่างกายแย่ค่ะ และถ้าไม่ล้างลำไส้ ก็คือ สิวขึ้นเลย และปล่อยไว้นาน ๆ ตาก็จะเริ่มเหลืองค่ะ เพราะถุงน้ำดีข้นจากการที่ตับและอวัยวะภายในร้อนจากการไม่ได้พักผ่อนเต็มที่
เพราะรู้ว่าร่างกายเราก็ไม่เบาค่ะ ก็ใช้ร่างกายนี้ทดลองหลาย ๆ อย่าง จนได้คำตอบมาเรื่อย ๆ
ล่าสุด ได้กลับมารีวิวเรื่อง "การอักเสบเรื้อรัง" อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่บีมรู้จักมาเมื่อปี 2552 แล้วค่ะ ในตอนที่ซื้อหนังสือ Clear For Life ของคุณ Seppo Puusa มาอ่านเพื่อรักษาสิวตัวเอง คุณ Seppo พูดถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของสิวที่สำคัญ และอาการสิวก็เป็นการแสดงอาการของเบาหวานแต่มาอยู่ในหน้าของเรา
แต่บีมก็ยังไม่เข้าใจมันชัดเจนค่ะ แต่ก็ได้ทดลองทำตามหลักสุขภาพของเขา คือ การกิน การนอน การออกกำลังกาย การดูแลจิตใจ ประมาณนี้ ก็ได้ผลดีทีเดียว ต่อมาก็มาเจอของคุณหมอเขียว เราก็เรียนรู้ ประยุกต์ ทดลองมาเรื่อย ๆ ค่ะ
ปีที่แล้วเจอตัวสำคัญคือ "ไขมัน" และทดลองจนเห็นกับตัวเองแล้วว่า ชนิดของน้ำมันและคุณภาพของน้ำมันส่งผลต่อการเกิดสิวจริง ๆ
และที่ทำให้บีมมั่นใจว่าการอักเสบเรื้อรังเป็นสาเหตุหลักของสิวของคนยุคนี้ เกิดหลังจากที่บีมได้ทดลองทานอาหารเสริมสูตรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นมากคือ Resveratrol และอื่นๆ ที่ผสมรวมกันค่ะ แล้วเราเห็นว่า มันรักษาภาวะโรคเรื้อรังได้มากมาย แต่มันเป็นรีวิวของคนอื่น ก็ไม่เชื่อ แต่ใจก็ต้ังสมมติฐานไปแล้วว่า ถ้าสมมติว่าสิ่งที่คุณ Seppo เขียนไว้นั้นถูกต้อง ถ้าเราใช้ตัวนี้ในการต้านภาวะอักเสบเรื้อรัง สิวจากจุดนี้ก็จะหายไปใช่หรือไม่
สิ่งที่บีมสังเกตเห็นได้คือ ใช่ค่ะ มันคือคำตอบ เราต้องแก้ที่จุดที่เกิดการอักเสบเรื้อรังให้ได้ สิวเรื้อรังจึงจะหายไปค่ะ ซึ่งของแต่ละคน ความเสียหายจะเกิดในที่แตกต่างกัน
บทความที่อธิบายเรื่องการอักเสบเรื้อรังได้ดีและอ่านเข้าใจง่าย บีมไปเจอมาค่ะ ขอแชร์ก็แล้วกันนะคะ คลิกเข้าไปเลยค่ะ เป็นบทความของ Slim Up แต่เขียนไว้ดีมาก จึงขอแชร์ http://bit.ly/1GCScG8 (เพราะสาเหตุของทุกโรค ความอ้วน ไขมันในหลอดเลือด ความดัน สิว คือสาเหตุเดียวกันทั้งหมดค่ะ) ในบทความเขาจะมีแนะนำด้วยว่าอาหารอะไรที่จะช่วยลดหรือต้านการอักเสบได้บ้างนะคะ
ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง คือ ไขมันทรานส์ ไขมันที่มีโอเมก้า 6 สูง แป้งและน้ำตาลค่ะ
ซึ่งผลการทดลองทานอาหารเสริมของบีม คือ ใช่ค่ะ เมื่อกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ๆ เข้าไป เขาจะไปแจกจ่ายอิเลคตรอนให้กับพวกอนุมูลอิสระในร่างกายค่ะ คลายสถานการณ์ตึงเครียดและการอักเสบได้ พอหายอักเสบแล้ว สิวอักเสบก็เลยหายไปด้วยค่ะ เท่านั้นเอง
แต่ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษานั้น หรือโดสการทาน อยู่ที่คนค่ะ คนที่มักจะเพลียมาก ๆ ง่วงตลอด หรือ กลางวันหลับ กลางคืนตื่น กลุ่มนี้...แสดงว่าร่างกายตกอยู่ในภาวะตึงเครียดจากการอักเสบเรื้อรังมากค่ะ ตัวบีมเอง จะหายจากการเพลียเมื่อทำ 2 จุดคือ ขับถ่ายของเสียให้หมดไป และ ทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ๆ ต่อเนื่องกันค่ะ ใครมีเวลาทำน้ำปั่นผักผลไม้สูตร ดร.รสสุคนธ์ หรือนำผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ๆ มาปั่นรวมกันแล้วกิน (โดยผักผลไม้ต้องปลอดยาฆ่าแมลงและสารปนเปื้อนค่ะ) ก็ได้ผลดีเช่นเดียวกันค่ะ แต่แค่บีมไม่สะดวกทำน้ำผักผลไม้ปั่นในตอนนี้เท่านั้นค่ะ ด้วยปัจจัยหลายอย่าง จึงเลือกใช้อาหารเสริมช่วยร่างกายค่ะ แต่ละคนเลือกไปตามที่ตัวเองต้องการค่ะ
ดังนั้น การรักษาสิวที่ดีที่สุด คือ การรักษาภาวะอักเสบเรื้อรังด้วยโภชนบำบัดค่ะและหากต้องการป้องกันไม่ให้สิวกลับมาอีก ก็ต้องทานอาหารที่จะช่วยต้านการอักเสบเรื้อรังเป็นประจำในโดสที่ทำให้เราต่อสู้กับการอักเสบประจำวันได้ค่ะ คือ ให้มีสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอที่จะแจกจ่ายอิเลคตรอนให้กับอนุมูลอิสระที่เราได้พบตลอดวันและตลอดคืนได้ (เพราะแค่เราหายใจ อนุมูลอิสระก็เกิดได้แล้วค่ะ)
เพื่อให้เห็นภาพ บีมขอยกรูปภาพมาอธิบายประกอบนะคะ
อนุมูลอิสระคืออะไร
- ภาพกลุ่มวงกลมสีน้ำเงินแทนโมเลกุลที่อยู่ในภาวะเสถียร (ปกติ)
- ภาพกลุ่มวงกลมสีส้มแทนโมเลกุลที่อยู่ในภาวะไม่เสถียร เหตุเพราะมีอิเลคตรอนอย่างน้อย 1 ตัวหลุดออกไป (ตามรูป) โมเลกุลที่อิเลคตรอนหลุดออกไปนี่เองที่มีชื่อว่า อนุมูลอิสระ ค่ะ
การก่อตัวหรือที่มาของอนุมูลอิสระ
อนุมูลอิสระมาได้จากหลายแหล่งด้วยกัน ตามภาพนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน คือ รังสี UV จากแสงแดด กระบวนการเมตาบอลิซึม (การหายใจตามปกติของเรา) การอักเสบในร่างกาย มลพิษต่าง ๆ ควันบุหรี่ และรังสีอันตรายต่าง ๆ ยังไม่รวมไปถึงสารพิษที่ได้รับมาจากสารปนเปื้อนในอาหารด้วยนะคะ เช่น สารกันบูด สีผสมอาหาร บอร์แร็กซ์ ยาฆ่าแมลง เป็นต้น
อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเรื้อรังหลายๆ อย่างที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อตามภาพด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นโรคที่ใช้ยารักษาไม่หาย ได้แต่เพียงรักษาไปตามอาการ แต่การรักษาที่ต้นเหตุของการอักเสบ คือ การทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ๆ ถ้าในทางตะวันออก สมุนไพรหลายตัวก็มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงค่ะ ทั้งนี้ก็อยู่ที่กระบวนการในการนำมาใช้ เขาจะมีวิธีวัดค่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระอยู่ค่ะ เป็นวิธีทางวิทยาศาสตร์
นี่คือกระบวนการที่สารต้านอนุมูลอิสระ (กลุ่มวงกลมสีเขียว) จ่ายอิเลคตรอนที่มีเหลือเฟือให้แก่โมเลกุลที่เป็นอนุมูลอิสระ (เห็นไหมคะว่าอิเลคตรอนมันไม่ครบคู่อยู่ 1 คู่ ถ้ามันครบมันจะกลับมาเป็นปกติค่ะและจะไม่ไปทำร้ายเซลล์ร่างกายอื่น ๆ อีก จุดที่เคยอักเสบหรือเป็น Oxidative Stress ก็จะหายไปค่ะ ภาวะความเจ็บป่วยที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังนี้ก็จะหายไปด้วยค่ะ) ซึ่งมันไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อโรคแต่อย่างใด แต่ช่วยให้พิษในร่างกายในรูปแบบของอนุมูลอิสระนี้ลดลง
การได้รับพิษมากเกินไปจนพิษสะสมเรื้อรัง
สาเหตุข้อนี้ก็ค่อนข้างเกี่ยวข้องกับสาเหตุข้อแรกค่ะ พิษที่ว่านั้นจะมาในหลาย ๆ รูปแบบ ในอาหาร น้ำ อากาศ ฯลฯ เข้ามาทางจมูก ผิวหนัง ปาก ซึ่งในปัจจุบันนี้ อาหารที่เรากินเข้าไปมากมายทำให้เราได้รับพิษมากพอ ๆ กับคนที่ทำงานอยู่โรงงานอุตสาหกรรมได้เลยค่ะ
อาหารที่ทำร้ายร่างกายได้มากคือ อาหารที่ปรุงโดยน้ำมันที่มีโอเมก้า 6 สูง ๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว และอาหารที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์ เช่น เค้ก คุ้กกี้ อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น ซึ่งคำตอบที่บีมได้รับเกี่ยวกับน้ำมันอยู่ในหนังสือ "ปฏิวัติน้ำมันพืช" โดยอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทั้งหมดเลยค่ะ เข้าดูที่
http://bit.ly/1CzCLhe เขามีให้อ่านฟรีในเว็บด้วยค่ะ หาด้วยคำว่า "ปฏิวัติน้ำมันพืช" ได้เลย
และกลุ่มน้ำตาล อ่านเพิ่มเติมที่
- น้ำตาลหวานดี แต่มีโทษ http://bit.ly/16g2cu5
- 9 เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยงน้ำตาล http://bit.ly/1Nlo2MP
- ระวังโทษของการกินน้ำตาลมากเกินไป http://on.fb.me/1NlomuS
การนอนดึกเรื้อรัง
การนอนหลัง 4 ทุ่มติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ระบบร่างกายแปรปรวน เพราะร่างกายจะมีระบบของมันค่ะ ร่างกายจะดำเนินกิจกรรมไปตามนาฬิกาชีวิต กลางวันและกลางคืนจะมีการหลั่งฮอร์โมนในการใช้งานไม่เหมือนกัน แต่ละช่วงเวลาไม่เหมือนกัน สิ่งนี้เรียกว่า Biological Clock ที่สิ่งมีชีวิตแต่ละอย่างจะมีระบบนี้แตกต่างกันไป นั่นเป็นเหตุผลที่เรานอนกลางคืนและค้างคาวนอนกลางวันค่ะ
รูปภาพจาก http://www.dek-d.com/board/view/3447916/ คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่ได้ค่ะ |
ตามนาฬิกาชีวิต มนุษย์เราควรต้องเริ่มพักผ่อนหย่อนใจประมาณ 1 ทุ่ม แต่สมัยนี้ 1 ทุ่มบางคนยังอยู่ที่ทำงานทำ O.T บางคนยังอยู่บนถนน บางคนพึ่งเลิกงาน บางคนพึ่งกินข้าว บางคนพึ่งอาบน้ำจะออกไปเที่ยวต่อ
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเข้านอนคือ 3 ทุ่มค่ะ ไม่เกิน 4 ทุ่ม
แต่เดี๋ยวนี้เราใช้ชีวิตกลับตาลปัตร กลางวันกลางคืนสลับกันไปหมด เมื่อระบบร่างกายแปรปรวน ฮอร์โมนก็แปรปรวน และสิ่งที่เกิดตามมาเมื่อปล่อยให้ชีวิตเป็นแบบนี้นาน ๆ คือ
- กลายเป็นคนที่มีโรคเพิ่มขึ้น เช่น ภูมิแพ้ ไมเกรน อ้วนง่าย ผอมเกินไป หงุดหงิดง่าย ปวดประจำเดือน ไขมันในเลือดสูง เป็นสิวง่าย ผิวแพ้ง่าย เพราะภูมิคุ้มกันต่ำลงนั่นเอง ระบบการเผาผลาญและการกำจัดของเสียของร่างกายผิดปกติไปหมด สารพิษตกค้างจึงเหลือมากมาย กลายเป็นตัวการของการเกิดอนุมูลอิสระอีกที
- ง่วง เพลีย เหนื่อย ง่าย อยากนอนตลอดเวลา อาจต้องพึ่งกาแฟตลอด
- ความภูมิใจในตัวเองต่ำลง เพราะไม่สามารถจัดชีวิตให้เป็นไปตามที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติได้
- เสียเงินกับเรื่องสุขภาพและความงามมากกว่าที่ควรจะเป็น เพราะ เหตุที่ทำตัวเองให้ร่างกายเสียหายผุพังจากภายใน ต้องใช้ยาและครีมที่ดีกว่าเดิมและแพงกว่าเดิมไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุเสียที
การมีภาวะท้องผูกเรื้อรัง
จากที่บีมได้สังเกตผู้เป็นสิวแล้วมาใช้แนวทางนี้ในการรักษา รวมทั้งตัวบีมเอง สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเป็นสิวคือปล่อยให้มีของเสียสะสมในลำไส้นานเกินไป ไม่เคยล้างลำไส้เลยค่ะ บีมเป็นคนไม่มีอาการท้องผูกเลย ถ่ายได้ตลอดทุกเช้า แต่เมื่อก่อนก็เป็นสิวค่ะ แม้จะขับถ่ายได้ดี
เพราะการขับถ่ายดีไม่ได้บอกว่าของเสียคุณจะไม่ตกค้าง
เพราะถ้าคุณลองล้างลำไส้ดูสัก 1 สัปดาห์ด้วยสมุนไพรของ "คุณทรายบ้านเพื่อสุขภาพ" หรือยาระดมพลที่มีจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยาหรือ 7-11 ของเสียที่ออกมาช่วงแรก ๆ จะกลิ่นแรงมากอย่างไม่น่าเชื่อ และอะไรต่อมิอะไรที่ออกมาจะทำให้คุณรู้เลยว่า ฉันเข้าใจผิดมาตลอดที่คิดว่าตัวเองไม่มีอะไรตกค้างค่ะ
ดังนั้น ในคนที่มีภาวะท้องผูกยิ่งแย่ไปกันใหญ่เลย ขนาดขับถ่ายทุกวันยังเป็นสิวได้ ผู้ที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรัง น้ำในอุจจาระตกค้างจะถูกดูดกลับเข้าไปทุกเวลาและนาทีค่ะ ทำให้ของเสียเริ่มแข็งและติดผนังลำไส้ไปเรื่อย ๆ เวลาทานอาหารเสริมพวกซิเลี่ยมฮัสก์เพื่อล้างลำไส้ กลุ่มนี้อาจเกิดอาการภาวะลำไส้อุดตันได้เลยค่ะ อาจต้องส่งเข้าโรงพยาบาลเลย เพราะในลำไส้ร้อนมาก และของเสียก็ติดอยู่เต็มไปหมด
แล้วแบบนี้จะไม่ให้ร่างกายได้รับพิษและอ่อนแอจากพิษตลอดเวลาได้อย่างไร
กลิ่นตัว กลิ่นปากก็จะมากด้วย จะขี้หงุดหงิด อ่อนเพลียเรื้อรัง หน้าหมอง เป็นสิวเรื้อรังด้วยค่ะ
การมีภาวะความเครียดเรื้อรัง
ร่างกายกับจิตใจสัมพันธ์กันนะคะ บางคนปล่อยให้สุขภาพแย่นาน ๆ ตัวเองก็ดูแย่ โทรม กลายเป็นคนไม่เคารพตัวเอง ชอบว่าตัวเองหน้ากระจกทุกวัน ไม่เคยเห็นตัวเองสวยเลย ทั้งที่ก็จิตใจดี ทำงานดี เป็นคนดี ก็ไม่เคยมองเห็นจุดดี ๆ ของตัวเอง
พอมองไม่เห็นจุดดี ๆ ของตัวเอง ไม่เคารพตัวเอง ก็จะเริ่มแผ่พลังงานนี้แสดงออกมาเป็นโลกของเรา
- แฟนไม่มี ไม่มีใครสนใจ
- มีแฟน แต่แฟนก็ไม่ถูกใจ เปลี่ยนแฟนใหม่บ่อย ๆ
- งานก็เงินเดือนน้อย เจ้านายก็แย่ เพื่อนร่วมงานเอาเปรียบ นินทาลับหลัง
- ห้องพักก็เล็ก
โอ๊ย ทำไมชีวิตมันมีแต่เรื่องแย่ ๆ
ก็เรานี่ล่ะค่ะ เป็นจุดกำเนิดของความแย่ทั้งปวงในชีวิต ไม่ต้องโทษคนอื่น...
เพราะบีมเคยผ่านสถานการณ์เหล่านั้นมาแล้ว...และจากการได้เข้าเรียนคลาสของครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง และได้ทดลองกับตัวเองในเรื่องของการปรับฐานใจเพื่อสร้างชีวิตในแบบที่เราต้องการเห็นกับตัวเอง ก็รู้ว่า ใจเป็นของวิเศษตามที่ครูอ้อยบอกจริงๆ ค่ะ
ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง แห่ง เข็มทิศชีวิต https://www.compassnlp.com/subconcious.php |
จากนั้นมา ก็เลิกบ่น เลิกคิดลบ เรามีปัญหาแต่เราอยู่กับมันแบบพยายามหาทางแก้ หาทางออกแบบมีสติและปัญญา หมั่นนั่งสวดมนต์และทำสมาธิมากขึ้น ฐานใจเราดี ลูกค้าเราก็ดี คนติดต่อเราก็จะดี
ตัวเราเองนี่แหละค่ะ เป็นต้นกำเนิดของความเครียดของตัวเองทั้งหมด
เริ่มที่การเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนใจตัวเอง
บีมแนะนำให้ศึกษาเรื่องของ "ปาฏิหาริย์แห่งความกตัญญู" ค่ะ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Miracle of Gratitude ซึ่งการที่เราขอบคุณทุกสิ่งบนโลกนี้อย่างจริงใจในทุกวันจะเป็นฐานของใจที่จะปรับให้มีความสุขได้ง่ายขึ้นและทำให้ตัวเราเคารพตัวเองมากขึ้นและพร้อมจะทำให้ตัวเองดีขึ้นทุกวันค่ะ
การคิดบวกไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่คือการมองข้ามทะลุความยากลำบากในปัจจุบันและมองเห็นหนทางออก มองเห็นว่าเหตุการณ์นี้ส่งมาให้เราเพื่อทดสอบอะไร และเราจะผ่านมันไปอย่างไรได้บ้าง
ครูอ้อยมีเทคนิคและหลายอย่างที่จะสอนทุกคนได้ค่ะ แต่ตัวเราก็ต้องมาฝึกปฏิบัติเองด้วยนะคะ
เหล่านี้คือสิ่งที่บีมได้รับจากคลาสและคลิปต่าง ๆ ของครูอ้อยและลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จแล้วของครูค่ะ จึงอยากนำมาแบ่งปันกันให้คนเป็นคนสิวทุกคนได้มองข้ามช็อตที่เลวร้าย พลิกทุกสถานการณ์ที่ร้ายให้เป็นดีได้
แต่ว่าแต่ละคนจะมีครูบาอาจารย์ที่แตกต่างกันไปค่ะ ใจเราศรัทธาที่ใด ไม่มีใครผิดใครถูกค่ะ ถ้าทุกสิ่งที่เราทำมันทำให้ชีวิตของเราเจริญ คิดถูก เห็นถูก ก็ทำไปได้เลยค่ะ ขอให้ตรงกับสิ่งที่พระพุทธองค์สอนก็แล้วกันค่ะ ส่วนเพื่อน ๆ ศาสนาอื่นๆ ก็ปฏิบัติไปตามหลักคำสอนและหลักปฏิบัติของท่านได้เลยค่ะ ขอแค่ผลลัพธ์คือ เราสุขสงบได้จากภายในและมีความเข้าใจโลกอย่างถูกต้องตามที่มันเป็นจริง ๆ
ทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อการไม่เป็นทุกข์ การไม่เป็นทุกข์ จะไม่เครียด ก็จะส่งผลดีต่อร่างกายทุกระบบค่ะ
การนั่งสมาธิเองก็ได้รับการวิจัยมาแล้วว่าช่วยสุขภาพได้มากเพียงใดค่ะ เป็นงานวิจัยระดับโลกก็มีมาก
อยากให้อ่านบทความทางวิชาการนี้ค่ะ เพื่อให้ทราบว่าการทำสมาธิจะช่วยเราให้มีชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง
งานวิจัยทางสถิติเกี่ยวกับประโยชน์ของการฝึกสมาธิแนวการเจริญสติปัฏฐาน โดย ดร.พีรยุทธ เจริญสุขมงคล
http://ico.nida.ac.th/assets/files/files/งานวิจัยสมาธิ.pdf
ถ้าทำสมาธิแล้วทำไม่ได้ จิตไม่มีสมาธิ ลองหาในกูเกิ้ลด้วยคำว่า "เหตุที่จิตไม่มีสมาธินะคะ" หรือฟังคลิปนี้ค่ะ
ถ้าทำสมาธิแล้วทำไม่ได้ จิตไม่มีสมาธิ ลองหาในกูเกิ้ลด้วยคำว่า "เหตุที่จิตไม่มีสมาธินะคะ" หรือฟังคลิปนี้ค่ะ
สาเหตุมีเท่านี้ค่ะ
แก้กาย แก้ใจ สิวเรื้อรังที่เป็นมาก็บรรเทาลงและอาจหายได้ในที่สุดค่ะ และยังสามารถป้องกันไม่ให้กลับมาได้ดีขึ้นด้วยค่ะ
เอาใจช่วยทุกคนนะคะ
บีม
ความคิดเห็น