การล้างสารพิษลำไส้กับการรักษาสิว

จากประสบการณ์การรักษาสิวของตัวเองและช่วยเหลือผู้ที่เป็นสิวมา  จุดสำคัญของปัญหาสิว ผิวพรรณ และสุขภาพโดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ ระบบทางเดินหายใจ อาการขี้หงุดหงิด อ่อนเพลียเรื้อรัง นั้นคือ พิษที่ตกค้างในลำไส้เล็กและใหญ่ ซึ่งพิษเหล่านั้นได้แก่
  1. อาหารที่ไม่ย่อยหรือย่อยยากเช่น เนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการตุ๋นจนเปื่อย เพราะระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้ไม่ดีนักและเกิดจากการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดก่อนกลืนด้วย อาหารเหล่านี้จะบูดเน่าในลำไส้ ประกอบกับการที่ไม่ทานใยอาหารจากผักและผลไม้อย่างเพียงพอในแต่ละวัน ก็จะทำให้ของเสียเหล่านี้ตกค้างนานกว่าปกติ และพิษที่เกิดขึ้นจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถูกกำจัดออกหมดจด
  2. พยาธิและพิษที่เกิดจากพยาธิ มักเกิดจากการทานอาหารดิบและมีพยาธิเจือปน
  3. เชื้อราที่เติบโตในลำไส้
  4. ของปรุงแต่งในอาหาร เช่น สารกันเสีย ผงชูรส สารเติมแต่งอาหารต่างๆ 
  5. ยาฆ่าแมลงและศัตรูพืชที่ปนเปื้อนอาหาร
  6. อาหารผ่านไมโครเวฟจะย่อยยาก ทำให้ตกค้างได้และร่างกายไม่ได้ใช้ประโยชน์
  7. ไขมันทรานส์และไขมันที่รับมาจากอาหารผัดและทอดด้วยน้ำมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันปาล์มและน้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการไฮโดรจีเนท (เติมไฮโดรเจนเพื่อให้เก็บน้ำมันได้นานขึ้น ไม่เหม็นหืน)
นี่เป็นพิษที่เราพบเจอในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน และจากความเร่งรีบ ไม่ค่อยได้ทานอาหารประเภทกากใย ไม่ได้ออกกำลังกาย นอนดึก และ เครียดด้วย จึงขับถ่ายไม่ค่อยออก หรือบางคนออกทุกวัน ทุกเช้า แต่ถ้ายังเป็นสิวอยู่ แสดงว่ามีของเสียตกค้างแน่นอน

บริเวณที่สะท้อนว่ามีของเสียในลำไส้สะสมอยู่คือ หน้าผาก กราม คาง แนวร่องแก้ม เป็นบริเวณหลัก ซึ่งลักษณะของสิวจะบ่งบอกว่าในลำไส้มีปัญหาอะไรอยู่บ้าง
  • สิวอักเสบร้อนแดง แสดงว่ามีความร้อนสูงในลำไส้อันเกิดจากพิษสะสม
  • สิวหัวขาว แสดงว่าผนังลำไส้อ่อนแอ ภูมิคุ้มกันในลำไส้ต่ำ (ที่ผนังลำไส้จะมีเนื้อเยื่อน้ำเหลืองที่มีเม็ดเลือดขาวเป็นภูมิคุ้มกันของลำไส้)
  • สิวหัวเหลืองและสิวอุดตัน แสดงว่ามีไขมันเกาะที่ผนังลำไส้ ซึ่งสามารถเกาะได้ทั้งที่ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่
นี่เป็นตัวอย่างการวิเคราะห์ปัญหาแบบคร่าว ๆ ที่พบได้บ่อยเท่านั้นค่ะ แต่ก็เป็นเช่นนี้จริง ๆ ในทุกรายที่เป็นสิว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากอาการท้องผูก และถ่ายไม่สุด

ซึ่งจุดเริ่มต้นของการรักษาสิวทุกประเภทคือ การล้างลำไส้ให้สะอาดหมดจดเสียก่อน

การล้างลำไส้ให้สะอาดนั้นต้องทำอย่างไร ก็มีทั้งการกินและการสวนลำไส้ แต่การสวนลำไส้นั้นจะทำความสะอาดเฉพาะลำไส้ใหญ่เท่านั้นค่ะ แต่ก็ส่งผลต่อสุขภาพ สิว และผิวพรรณมาก เพราะเป็นแหล่งเก็บของเสียเลย ถ้าหากว่าลำไส้ใหญ่สะอาด ก็จะทำให้สิวยุบได้ประมาณ  70-80% เลยทีเดียว

แต่บางคนแค่สวนลำไส้ สิวยังไม่หาย สิวที่หายเมื่อสวนลำไส้คือ สิวอักเสบที่มีหัวขาว หัวเหลือง หรือไม่มีหัว เป็นหลัก
ส่วนสิวประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิวอุดตันนั้น จะต้องทำการล้างระบบดูดซึมทั้งระบบ อันได้แก่ ปากจนถึงทวารหนักเลยทีเดียว และเป็นการล้างไขมันที่เกาะหรือเคลือบหรือสะสมอยู่ในระบบนี้ออกให้หมด สิวอุดตันจึงจะหายได้
แต่ในเบื้องต้น เราสามารถล้างปาก กระเพาะ และลำไส้เล็กและใหญ่ได้ด้วยการกิน

ที่ปากเราจะกลั้วด้วยน้ำมันสกัดเย็น จะทำจากอะไรก็ได้ แต่ที่หาซื้อง่ายและเป็นที่นิยมคือ น้ำมันมะพร้าว

ส่วนกระเพาะ ลำไส้เล็กและใหญ่นั้นเราสามารถทานสมุนไพรล้างพิษ กระตุ้นการขับถ่าย และต้องปรับอาหารอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การรักษาได้ผลดีและเร็วที่สุด 

ซี่งในช่วง 1-3 เดือนแรกที่รักษาสิวเราควรทานสมุนไพรช่วยล้างลำไส้เล็กและใหญ่ และทานเม็ดแมงลักผสมน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนทุกคืน เพื่อช่วยล้างลำไส้อีกทางหนึ่งและเพิ่มกากใยช่วยในการขับถ่ายและเป็นอาหารของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ให้เติบโต

สำหรับสิ่งที่จะช่วยล้างลำไส้ได้นั้นมีความแรงหลายระดับ 

ระดับแรง คือ สลอด, ดีเกลือ, มะขามแขก, Dtox (MarryBeam จะถ่ายมากช่วง 2-3 วันแรก ตามปริมาณของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้ แล้วจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ่ายลดลง กลิ่นเหม็นลดลง)
ระดับกลาง คือ กระเจี๊ยบ 
ระดับน้อย คือ มะละกอ แก้วมังกร พรุน สับปะรด เป็นต้น

ให้เลือกตามความจำเป็นของการล้างพิษและตามช่วงเวลา เช่น ในช่วงที่เราได้หยุดพักผ่อนอยู่บ้าน ไม่ต้องเดินทางไปไหน พร้อมเข้าห้องน้ำ บีมแนะนำให้ทานตัวที่มีระดับแรง โดยต้องไม่ทำให้ท้องมวนหรือบิดมากเกินไป
แต่ถ้าวันที่เราจะต้องไปทำงาน ไปไหนที่ความสะดวกในการเข้าห้องน้ำลดลงมา ก็ให้เลือกเป็นตัวที่มีความแรงระดับกลางค่ะ

แต่ถ้าวันไหนที่รู้สึกว่าไม่ค่อยสะดวก แต่ไม่อยากท้องผูก อย่างน้อยขอให้ถ่ายได้ในตอนเช้า ก็ให้ทานมะละกอ แก้วมังกร พรุน เอาไว้ พวกนี้จะไม่ทำให้มวนท้องหรือบิดท้อง และถ้าปวดเข้าห้องน้ำแต่ไม่สามารถหาห้องน้ำได้ ก็ยังสามารถกลั้นได้บ้าง 

เหล่านี้เป็นเทคนิคที่บีมทำประจำสม่ำเสมอตลอดมา และได้ผลดีมาก ๆ เพราะปีที่ 4 ของการดูแลตัวเองตามแนวทางที่ตัวเองค้นพบมา พบว่าในการล้างพิษแต่ละครั้งและล้างลำไส้ จะพบไขมันในลำไส้น้อยลงเรื่อย ๆ จนแทบไม่เห็นอีกต่อไป ก็เพราะเทคนิคการล้างลำไส้ในแบบนี้ค่ะ

จำไว้นะคะ 
  1. 3 เดือนแรกของการรักษาสิว ต้องให้ลำไส้สะอาดทุกวัน ยังไม่ต้องห่วงเรื่องถ่ายเอง เพราะถ้าเราปรับอาหารให้มีกากใย ทานอาหารย่อยง่ายและปรับสุขภาพของเราให้มีการย่อยอาหารได้มากขึ้น มันจะถ่ายได้เองโดยไม่ต้องพึ่งยาถ่ายอีกต่อไป แต่แน่นอนว่ามันออกไม่หมดเหมือนเวลาที่เราใช้สมุนไพรล้างค่ะ อย่าไปยึดติดว่าต้องให้ร่างกายทำเองหมด เราสามารถผสมผสานการให้ร่างกายดูแลตัวเองให้มากที่สุดเข้ากับการใช้สมุนไพรหรือเทคนิคการล้างลำไส้เป็นประจำได้ในความเข้มข้นหรือความถี่ที่พอดีกับตัวเอง
  2. อาหารเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ต้องปรับอาหารอย่างเคร่งครัดหากต้องการให้ลำไส้สะอาดและฟื้นฟูสุขภาพภายในลำไส้เองได้เร็ว มันจะส่งผลดีต่อการรักษาสิวอย่างแน่นอน 
  3. หน้าเราเป็นอย่างไร ลำไส้เราเป็นเช่นนั้นค่ะ ลำไส้สะอาด หน้าตาจะหมดจด สดใสขึ้นประมาณ 80% จากที่เคยเป็น 
  4. การล้างลำไส้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการรักษาสิวเท่านั้น ยังมีอีกหลายอย่างต้องทำ แต่เบสิคที่ต้องทำทุกวันคือ รักษาลำไส้ให้สะอาดไว้ก่อนค่ะ แล้วโรคอื่นๆ ที่เคยเป็นจะค่อยๆ หายไปด้วย ให้สังเกตที่ภูมิแพ้ก่อนเลย เพราะมันเป็นเส้นลมปราณที่สัมพันธ์กัน
  5. ควรทานยาฆ่าพยาธิเป็นประจำเพื่อป้องกันพยาธิเติบโตในลำไส้ของเราค่ะ เขาสร้างความเสียหายค่อนข้างมากทีเดียว (อจ.สุทธิวัสส์ Pendulumthai)
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อการล้างลำไส้ที่บีมใช้ คลิกที่นี่

ความคิดเห็น