วิเคราะห์สิวของคุณด้วยภาพประวัติสิวของบีม พร้อมแนะนำวิธีค่ะ
ผู้ที่เป็นสิวเวลาที่ติดต่อขอรับคำปรึกษาจากบีมจะมีนิยามของสิวบนหน้าตัวเองแตกต่างกันไปค่ะ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมบีมจึงต้องขอรูปถ่ายสภาพผิวที่ชัดเจนก่อนเสมอที่่จะให้คำปรึกษา เพราะ บางคนไม่เคยเป็นสิวเลยในชีวิตและพึ่งจะมาเป็น ตอนคุยกันแบบไม่เห็นรูป จากคำอธิบายของเขาทำให้บีมจินตนาการแบบว่าของเขานี่สุด ๆ เลย แต่พอบีมได้เห็นรูป ก็...อ้าว เป็นไม่เยอะนี่นา เปรียบเทียบกับอีกท่านที่เป็นสิวมาน้านนานละ หลายปีดีดัก เขาก็จะพูดแบบว่าเฉย ๆ ก็เป็นสิวนะ ดีขึ้นมากแล้ว แต่พอเราเห็น เราก็แบบว่า เออ...ของคุณเรียกว่ายังมีัปัญหาเยอะอยู่นะคะ (คิดในใจ)
เพื่อให้เพื่อน ๆ แก้ปัญหาสิวของตัวเองได้ดีขึ้น บีมจึงคิดว่าเราควรมารู้จักกันก่อนว่าสิวแบบไหนเรียกว่าอะไรในบทความนี้นะคะ จะได้นิยามกันถูกต้องค่ะ
บีมจะอธิบายจากภาพอดีตสิวของบีมเองก็แล้วกันนะคะ ง่ายดี
นี่คือสภาพผิวของคนเป็นสิวโดยทั่วไปนะคะ ตอนนั้นเป็นช่วงก่อนที่บีมจะค้นพบวิธีรักษาสิวจากภายในค่ะ ตอนนั้นยังใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีจำหน่ายทั่วไป เช่น BP กับเจลล้างหน้าสำหรับผิวเป็นสิว ถ้าจำไม่ผิด คิดว่าช่วงนั้นน่าจะใช้ Acne Aid ค่ะ ก็หาดูในเน็ตเอาค่ะ ว่าเขาแนะนำและใช้อะไรกัน
คนเป็นสิวมีสภาพผิวเหมือนกันหมดค่ะ ถ้ายิ่งเข้าวงจรคลินิกแล้ว ไม่ว่าจะรักษาวิธีไหนมา ก็จะมีสภาพผิวแบบเดียวกันหมด ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เป็นแน่นอนค่ะ ไม่ว่าลูกค้าบีมจะกี่ราย ๆ ก็จะมีสภาพดังนี้ ผิวหน้ากับตัวคนละอย่าง บางคนผิวตัวดีมาก แต่ผิวหน้าดูแย่มาก หมองคล้ำ ดำง่าย จากรูปนี้จะเห็นเลยว่ามันคนละแบบเลยนะคะ ผิวตัวเราจะดูเนียน ๆ ใช่มั้ยคะ แต่ผิวหน้าจะดูคล้ำ กร้าน มีพวกรอยด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้รูขุมขนจะกว้างทุกคนและหน้าแห้งแต่มันค่ะ (คือ ล้างหน้าได้ไม่ถึงชั่วโมง มันเยิ้ม และเวลาซับน้ำมันออกระหว่างวัน จะเห็นว่าผิวเป็นริ้ว ๆ เลยทีเดียว)
มาดูภาพขยายกันนะคะ....
รูปต่อมานะคะ เป็นรูปที่คงคุ้นเคยกันดีมาก เพราะเป็นรูปแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของการหาวิธีรักษาสิวด้วยตัวเองอย่างจริงจังน่ะค่ะ เพราะไม่ไหวแล้วกับวิธีเดิม ๆ ที่เคยทำและหมดหวังกับอะไรต่าง ๆ ที่เคยใช้รวมทั้ง BP ด้วย ซึ่งเป็นความหวังเดียว ณ ตอนนั้นเลยก็ว่าได้ แต่แล้วก็ทำหน้าพังยับเยินเลย มาดูกันค่ะว่ามีปัญหาอะไรบนหน้านี้บ้าง
รูปนี้คือเริ่มปล่อยผิวนะคะ ไม่ทำอะไรแล้ว ใช้แต่นูโทรจีน่าล้างหน้าและก็ตามด้วย Beauty Cream ของ ดร.สมชายค่ะ ก็ใช้แค่นั้นล่ะ เพราะไม่แพ้และใช้อย่างอื่นไม่ได้แล้วด้วย พังมาก หน้าสากและแห้งอย่างรุนแรง พอความชุ่มชื้นกลับมา สิวอุดตันทยอยขึ้นทุกรูขุมขนเลย T_T ก็เลยหยุดใช้ไปก่อนค่ะ
เม็ดเล็ก ๆ ที่ขึ้นนี้บีมขอเรียกว่า "สิวอุดตัน" นะคะ บางเม็ดจะเป็นหัวดำ กดออกได้ง่าย บางเม็ดไม่มีหัวหรือเป็นหัวขาวที่ถ้าเรากดแล้วเสี่ยงต่อการอักเสบ ไม่แนะนำให้ไปทำอะไรมันค่ะ เพราะวิธีรักษามันหลัก ๆ แล้วต้องจัดการระบบภายในต่างหากล่ะค่ะ
แต่สิวที่ขึ้นมาล็อตนี้เป็นล็อตที่บีมสันนิษฐานว่า ผิวเขาผลักสารเคมีส่วนเกินออกจากเซลล์ค่ะ เพราะบีมทา BP แบบไม่ล้างออกเลยและทาเยอะมากตามที่ www.acne.org แนะนำค่ะ บีมทาเกือบเดือน ซึ่งผิวลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่ใช้ครีมหน้าขาวหรือครีมที่ผสมสารต้องห้ามต่าง ๆ ด้วยค่ะ
ดังนั้น ใครใช้ครีมที่มีสารต้องห้าม หรือแพ้ เซลล์ผิวเขาจะผลักออกมาประมาณสัปดาห์ที่ 3-4 ค่ะ และจะขึ้นมาลักษณะนี้แหละค่ะ คือ ถ้าส่องกับแดดแล้วหน้าจะเป็นอุดตัน เป็นผดเล็ก ๆ ทุกรูขุมขนหรือเกือบ 90% ของใบหน้าเลยค่ะ บางคนใช้ตัวล้างหน้าหรือบำรุงหรือครีมอื่นที่ไม่เหมาะกับผิวช่วงเป็นสิวอีก คราวนี้ผสานกันทำให้ไปกันใหญ่เลยทีเดียว
ผิวแบบนี้ถ้าจะลองรักษาเองด้วย Home Remedy ก็ให้ทดลองใช้ไข่ขาวตีให้ฟูแล้วพอกหน้าหลังล้างหน้าสะอาดค่ะ พอมันตึง ๆ ก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่าหรือเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนให้สะอาดแล้วซับหน้า ก็จบขั้นตอนค่ะ น่าจะเป็นสูตรที่ใช้ซับพิษออกจากผิวได้
แต่ถ้าใครจะเอาแบบชัวร์ว่าซับพิษออกแน่บีมก็แนะนำมาส์กสาหร่ายของ MarryBeam (ของบีมเองแหละค่ะ) เลยค่ะ และถ้าผิวหน้าไม่มีการแพ้แสบแดงใด ๆ เลยและผิวเริ่มสงบลงแล้ว แนะนำให้ใช้ควบคู่ไปกับมาส์กอุ่น Acne Treatment Mask ค่ะ เพราะตัวนี้จะทำให้เซลล์อุ่น ซึ่งความอุ่นจะไปทำให้เขาคลายสารพิษตกค้างในผิวได้มากขึ้น ทำให้ช่วงสัปดาห์แรกของการใช้ (รักษาช่วงแรก ๆ แนะนำให้มาส์กทุกวันจนกว่าผิวจะดีขึ้น สิวจะยุบลง) ผิวจะดูแย่ๆ และเหมือนสิวจะขึ้นเยอะหน่อย ก็เพราะกระบวนกรล้างพิษนี่ล่ะค่ะ
วิธีใช้คือ ล้างหน้าเสร็จ ซับหน้า ลง Whitening Program 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำเปล่า ซับหน้าให้หมาด ลงมาส์กอุ่นทั่วหน้า (ให้มิดผิว) ทิ้งไว้ 30 นาที ล้างออกด้วยเจลล้างหน้าให้สะอาดแล้วมาส์กสาหร่ายทั่วหน้า มิดผิว ทิ้งไว้ทั้งคืนหรือ 1-2 ชั่วโมงตามสะดวกค่ะ
เช้ามาล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้าให้สะอาด เช็ดด้วยน้ำเกลือ Klean & Kare หรือ Acne Treatment Toner ก็ได้ค่ะ เช็ดจนสำลีสะอาด (อย่างเบามือ) ถ้าจะลงบำรุงก็เลือกเป็น Fresh Aloe Cooling Serum ส่วนกันแดดเป็น UV Antioxidant SPF80 (BB Brightening) นี่ก็เป็นการดูแลผิวที่มีลักษณะแบบนี้ในช่วงแรกและทำจนกว่าสภาพผิวจะดีขึ้นค่ะ และต้องอดทนตอนผิวขับพิษนะคะ เดี๋ยวติดตามต่อไป จะให้ดูว่าผิวและสิวขับพิษเป็นอย่างไรนะคะ
นี่เป็นรูปด้านข้างค่ะ ซ้าย-ขวา
จะเห็นว่ามีอักเสบและรอยแดง (ตอนนั้นบีบค่ะ ทนอาการคันสิวไม่ไหว) มีหัวหนอง เพราะตอนนั้นไปเที่ยวบ้านพี่แม็คที่มาเลย์ค่ะ อาหารส่วนใหญ่เป็นแป้ง ก็เป็นอาหารปกติที่เขาทานกัน แต่เราไ่ม่รู้ว่ามันส่งผลต่อสิวของเรามาก ๆ มันก็ขึ้นมาเรื่อย ๆ นะคะ บีบก็แห้งและก็ทิ้งรอย (บีมก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาเหมือนกันค่ะ You Are Not Alone.) และก็ขึ้นมาใหม่ ซ้ำที่เดิมบ้าง ใหม่บ้างค่ะ แต่รอบนี้มันเริ่มลามไปแก้มละ แต่ก่อนบีมไม่มีสิวที่แก้มเลย (เพราะยังไม่รู้เรื่องระบบภายในกับสิวอย่างไรล่ะคะ สิวมันจะลามไปเรื่อย ๆ ล่ะถ้าเราไม่ดูแลระบบภายในให้ดีและกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ค่ะ)
รูปด้านนี้จะเห็นชัดว่าจะมีสิวอุดตัน สิวไขมันไม่มีหัวเยอะมาก ๆ ค่ะ คือ ช่วงนี้สิวจะขึ้นตามบริเวณผิวที่สากจากการใช้ BP ในสูตรที่บอกนั่นล่ะค่ะ ลามมาหมดเลย ลงมาที่คอด้วย คืออุดตันไม่มีหัวจะเยอะมาก บีบก็ไม่ออก ยุบก็ไม่ยุบ สิวแบบนี้เป็นสิวที่ร่างกายทนกับพิษสะสมไม่ไหวค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันในเลือดสูงเกินไป ซึ่งถ้ามีปัจจัยร่วมเช่น นอนดึก ทานอาหารที่เป็นแป้งขัดขาว แป้ง ขนมปัง อาหารหวาน ๆ จะอักเสบขึ้นมาได้ตลอดเลย
ที่เห็นเป็นจุดแดง ๆ คือ เส้นลมปราณที่เชื่อมผิวหน้าส่วนนี้กับบริเวณที่อวัยวะมีปัญหาเขามีความร้อนสะสมค่ะ ความร้อนนี้เกิดจากพิษสะสมค่ะ ถ้าหากว่า เราตื่นมาแล้วมีสิวแดง ๆ แบบนี้เลย แสดงว่าเป็นพิษร้อนสะสม แต่ถ้าไปแดง ๆ คัน ๆ เอาช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ แสดงว่ามีความร้อนเกินสะสมระดับหนึ่งและถูกกระตุ้นด้วยความร้อนจากการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย (เหมือนรถยนต์นี่ล่ะค่ะ วิ่งไปทั้งวันก็ต้องร้อนเป็นธรรมดาถ้าระหว่างวันเราไม่หมั่นเติมน้ำในหม้อน้ำค่ะ ซึ่งชาว MarryBeam จะรู้วิธีกันดีแล้ว คือ ทานชาล้างพิษ ทานสมุนไพรและเลือกทานอาหารฤทธิ์เย็นเป็นสัดส่วนสูงในช่วงตั้งแต่เที่ยงถึงเย็นนั่นเองค่ะ)
นั่นหมายถึงว่า ถ้าทั้งแดง ยิ่งแดงมาก ยิ่งแสดงว่าระบบภายในร้อนมาก ก็ยิ่งต้องทุ่มเทมากกว่าคนอื่น ๆ ค่ะ และถ้ายิ่งมีสิวไม่มีหัว ไม่ยุบ บีบไม่ออกตรงนั้นอีก ก็ต้องใช้ิวิธีล้างพิษทุกวิธีเลย ตั้งแต่ทาน Dtox หรืออะไรอื่น ๆ ให้ถ่ายท้องให้สุด ทานสมุนไพรล้างพิษ ออกกำลังกายที่ไม่รุนแรง เน้นไปที่การเคลื่อนไหวพลังงานและการหมุนเวียนของเลือดลม เช่น โยคะ ชี่กง รำกระบอง หรือจะทำอะไรก็ได้ตามชอบค่ะ แต่ต้องไม่ออกกำลังแบบหักโหม หนักเกินไป และควรออกกำลังในช่วงเช้าค่ะ ถ้าจะออกตอนเย็นแนะนำให้ออกแบบเบา ๆ เพราะตอนเย็นร่างกายเขาอยากพักแล้วล่ะ อย่าไปฝืนเขาเลยค่ะ จะรวนเปล่า ๆ และรวมไปถึงการนวดตัว นวดเท้า การขูดกัวซา การอบซาวน่า เป็นต้นค่ะ ทำพร้อม ๆ กันไปหลายวิธีได้เลย และต้องหมั่น Detox เอาความคิดลบ อารมณ์ลบ ๆ โกรธ ผิดหวัง โมโห เสียใจ หดหู่ เศร้า ออกไปให้ได้ค่ะ
รูปต่อมาคือ สิวแพ้
รูปนี้ประมาณช่วงแรกของการเริ่มธรรมชาติบำบัดได้นะคะ คือ ปล่อยหน้ามาหลายเดือนแล้วล่ะ จนสิวที่เคยมีเริ่มดีขึ้นค่ะ แต่มีอยู่วันหนึ่ง นึกครึ้มอยากทดลองพอกหน้าด้วยสูตรโยเกิร์ต มะนาว น้ำผึ้ง พอกครั้งแรกแสบ ๆ หน้า แต่คิดว่ามันรักษาสิว ไม่เป็นไร พอกรอบสองตอนเช้าอีกรอบหนึ่ง แสบกว่าเดิม สาย ๆ ผดเริ่มขึ้นและแสบยุบยิบที่หน้าค่ะ มาทราบทีหลังว่านี่คืออาการแพ้กรดจากน้ำมะนาว ดังนั้น ถ้าบีมจะใช้ตัวผลัดเซลล์ จะใช้ตัวจากธรรมชาติโดยตรงไม่ได้เลย จะต้องสกัดออกมาเป็น AHA, BHA หรือ PHA ก่อนค่ะจึงจะใช้ได้ไม่ระคายเคือง และบีมมามั่นใจอีกรอบตอนแพ้มะขามเปียกค่ะ คือ รูปด้านล่างนี้ค่ะ
และที่อยากชี้ให้เห็นก็คือ ผิวที่กำลังผลัดหรือกำลังรักษาตัวเอง เขาจะมีอาการแห้งและผลัดนะคะ เห็นชัดมากจากรูปนี้ หลายคนที่กำลังเริ่มรักษาสิว จะต้องผ่านช่วงหน้าแห้งแบบนี้ไปทั้งนั้นค่ะ แต่บีมว่าบีมรุนแรงกว่านะคะ เพราะอากาศแห้งด้วย ผิวแพ้มาด้วย ตอนนั้นยังไ่ม่ใช้มาส์กสาหร่ายด้วย (ไม่กล้าใช้ทั้งที่ได้เทสเตอร์มาแล้ว กลัวแพ้อีก ถ้ารู้เหมือนตอนนี้ ใช้ตั้งแต่เริ่มแพ้แล้วค่ะ เพื่อน ๆ โชคดีนะคะที่มีบีมเป็นตัวบุกเบิกไปก่อนแล้ว ไม่ต้องลองผิดลองถูกอีก)
ซึ่งเวลาที่ใช้ผลัดนี้แต่ละคนจะไม่เท่ากันค่ะ ขึ้นอยู่กับสารอาหารที่เพื่อน ๆ ได้รับในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีน (ไม่ใช่จากเนื้อสัตว์) กับวิตามินซี ถ้าใครที่พึ่งเริ่มรักษาและลำไส้ยังมีปัญหาหรือพิษสะสมเยอะอยู่ ระบบดูดซึมจะยังทำงานไม่ดีนะคะ แนะนำให้ทานอาหารเสริมช่วยร่างกายไปก่อนเพราะมันดูดซึมได้เร็วเพราะไม่ต้องผ่านการย่อยจากร่างกายค่ะ ซึ่งเอาไว้ระบบร่างกายเราดีขึ้นเมื่อไหร่ ลำไส้สะอาดแข็งแรงเมื่อไหร่ เราก็ค่อย ๆ ลดอาหารเสริมแล้วไปทานอาหารเป็นยากับบำรุงร่างกายแทนค่ะ อยากให้ผิวเต่งตึงสดใส ก็ทานพวกน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง นมข้าวกล้อง นมจากธัญพืชเยอะ ๆ ทานโปรตีนจากถั่ว จากเต้าหู้ และทานผักผลไม้มาก ๆ ค่ะ ถ้าปั่นแล้วก็ดื่มทั้งกากได้เลยค่ะ อย่าไปเอากากออก ยกเว้นที่กินกากไม่ได้จริง ๆ เช่น มะระ เป็นต้น ลงทุนซื้อเครื่องปั่นดี ๆ (คนเป็นสิวหรือระบบย่อยไม่ค่อยดี แนะนำให้ทานอาหารย่อยง่าย ดังนั้น ประโยชน์จากการทานผักผลไม้ทั้งต้นกับแบบปั่น คนเป็นสิวหรือระบบย่อยไม่ค่อยดี จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ จากสารจากผักผลไม้สดในรูปแบบปั่นมากกว่าค่ะ)
นอกจากสารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว การนอนเร็ว (3-4 ทุ่ม) การขับถ่ายตอนเช้าทุกวันหลังตื่นนอน การดื่มน้ำให้ถูกต้อง ก็จะทำให้ผิวผลัดเร็วและเซลล์ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาจะแข็งแรงกว่ามาทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพไปค่ะ
ถ้าดูแลตัวเองดี ๆ ก็ประมาณ 3 สัปดาห์ - 1 เดือนผิวก็ดีขึ้นค่อนข้างชัดเจนเลย
รูปนี้มีทั้งสิวแพ้และสิวอุดตันที่มีอยู่เดิมจากพิษสะสมในร่างกาย สภาพผิวแพ้จะแห้งกร้านไปด้วย (จากกรดมะนาว) เป็นเม็ดผดผื่นคัน ลักษณะผิวแดง ๆ ร้อน ๆ เห่อ ๆ |
สิวขับพิษมาเป็นระลอก ๆ
ด้านล่างนี้เป็นระลอกแรกของการรักษาด้วยธรรมชาติบำบัด
บีมมีแค่สบู่ล้างหน้าตัวเดียวตลอดระยะเวลา 3 เดือน
จึงสามารถบอกได้ว่าการรักษาภายในด้วยการดูแลสุขภาพแบบไหนที่จะทำให้สิวยุบหรือขึ้นได้ค่ะ
รูปด้านหน้าจะเห็นว่าผิวดีขึ้นบ้างแล้วนะคะ แต่มีสิวไขมันและอักเสบนิด ๆ (มีความแดงหน่อย ๆ) ที่หว่างคิ้วและเหนือหว่างคิ้ว บริเวณนี้บ่งบอกสุขภาพของตับนะคะ ถ้าผิวบริเวณอื่นดีขึ้น แต่แถวนี้มีสิวปูดออกมา ก็แสดงว่ามีการขับพิษออกจากตับค่ะ ถ้าเป็นสีแดงก็เป็นความร้อนสะสม ถ้าเป็นไขมันหรืออุดตัน ก็เป็นไขมันที่สะสมในเซลล์ตับค่ะ แต่ถ้าใครที่อยู่ช่วงล้างพิษด้วยและนอนดึกด้วย มันก็จะขึ้นไม่ยุบเสียทีค่ะ เพราะนอกจากจะมีสิวขับพิษแล้วยังมีสิวจากพิษเพิ่มจากการนอนดึกด้วย (รวมไปถึงเคสที่ทานอาหารที่ไม่ดีต่อสิวด้วยค่ะ)
รูปนี้ชัดเจนนะคะ นี่ล่ะค่ะขับพิษ ถ้าเทียบกับรูปด้านบน ๆ นู้น จะเห็นว่าจุดที่เคยเป็นไขมันไม่มีหัว เริ่มอักเสบออกมาเต็มเลย ซึ่งบีมมองเห็นแล้วว่าถ้าดื่มน้ำปั่นผักผลไม้ทุกวันสิวจะขึ้นและยุบไปได้เองค่ะ เลยไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะสุขภาพโดยรวมเราดีขึ้นมาก แต่บีมจะยังไม่รู้ว่าการนอนไม่พอส่งผลต่อคุณภาพผิวมากขนาดไหนค่ะ ซึ่งอย่างที่เคยบอกว่าบีมมีหน้าที่หลักอีกหน้าที่ในตอนนั้นคือดูแลคุณยายที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ระยะสุดท้ายแล้ว ท่านจะตื่นจะนอนไม่เป็นเวลาทำให้บีมได้นอนวันละไม่กี่ชั่วโมงเองค่ะ แต่เราก็ไม่ป่วยเพราะบีมดื่มน้ำปั่นผักผลไม้มากกว่า 3 แก้วทุกวันค่ะ จะซื้อผลไม้มาตุนเลย ปั่นดื่มทุกวันค่ะ ช่วงนี้บีมก็ยังไม่ทาบำรุงอะไรเลย เพราะดูเหมือนผิวกำลังดีขึ้น (รักษาตัวเอง) กลัวว่าใช้อะไรจะแพ้อีก เลยไม่เอาเลยค่ะ
สรุปว่าไม่ได้ไปทำอะไรกับมันค่ะ มีบีบบ้างเวลาคัน ๆ สิว คือ ตอนนั้นมันเยอะมาก เราก็จะเอาแต่สิวลงท่าเดียว แต่พอตอนนั้นนะคะ อยากบอกว่า อย่าไปบีบไปเค้นมันแรงเลยค่ะ เพราะรอยสิวกับหลุมสิวเนี่ย รักษายากกว่าสิวมากมายหลายเท่าเลย แนะนำให้ดูแลสุขภาพให้ดี เลือกทานอาหารดีกว่าค่ะ ไม่ทานอาหารที่ก่ออาการอักเสบเพิ่มขึ้น ที่สำคัญเลยคือ นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัว แป้งสาลี เค้ก เบเกอรี่ ของหวาน น้ำตาล (อะำไรก็ตามที่หวาน ๆ) และอย่านอนดึกค่ะ 3-4 ทุ่มจะดีมาก ๆ เลทสุดไม่เกิน 5 ทุ่ม และแนะนำวิดีโอนี้ค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=Gxfj_g_D878 สำหรับคำแนะนำเรื่องอาหารค่ะ
ใครมีมาส์ก ใครมี Acne Set ใช้ไปค่ะ ใช้ไปเรื่อย ๆ ก่อนจนกว่าสิวแบบนี้จะหายไปค่ะ มันจะหายแน่ๆ จะช้าเร็วขึ้นอยู่กับการดูแลกายและใจของผู้รักษาตัวเองค่ะ ตอนนั้นบีมไม่มี Acne Set ไม่มีตัวช่วย มันยังหายเองได้ค่ะ เพื่อน ๆ มีตัวช่วยแล้ว ยังไงก็เร็วกว่านั่นล่ะค่ะ แค่ใช้ความอดทนเองนะคะ อดทนต่อความรู้สึกเศร้าและหดหู่ของตัวเองเวลาเห็นสิวขับพิษในกระจก และอดทนต่อคำของคนรอบข้าง ท่องไว้ มีคนทำได้ ทำเหตุให้ถูก ผลที่ถูกต้องเกิดขึ้นเองค่ะ และก็อย่าลืมยิ้มน้อย ๆ ให้ตัวเองตอนเศร้า ๆ ค่ะ การยิ้มจะเปลี่ยนปฏิกิริยาเคมีภายในได้มากเลยค่ะ จากลบเป็นบวกทันที วิธีง่าย ๆ
รูปนี้ถ่ายประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 ค่ะ ไปเรียนดูดวงเบื้องต้นกับ อจ.ชณนบ ที่ กทม. จำไ้ด้ว่าตอนนั้นสิวเริ่มหายแ้ล้วนะคะ มีตัวบำรุงที่เป็นจุดเริ่มต้นของ MarryBeam นี่แหละ แต่บีมยังไม่มีตัวไหนใช้รักษาสิวโดยตรงเลยค่ะ ก็ดูแลภายในอย่างเดียว ตอนนั้นทาแป้งแบบเบา ๆ เองค่ะ รู้สึกมั่นใจขึ้นนะคะ แม่ก็เห็นพ้องว่าสิวดีขึ้นมากแล้ว ยุบไปเยอะแล้ว
พอได้นอนมากขึ้น (คุณยายเสียเมื่อต้นเดือนตุลาคมค่ะ หลังจากท่านเสีย บีมเลยได้นอนเต็มเวลา) สิวขับพิษที่เคยขึ้นก็ค่อย ๆ หายไปเอง และสิวหายแดงไปเยอะเลย เห็นมั้ยคะ ดูรูปด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ ตอนนั้นยังดื่มเฉพาะน้ำปั่นผักผลไม้อยู่ค่ะ อาหารปกติยังทานไม่ค่อยได้เพราะทานแล้วสิวจะขึ้นนะ แต่บีมไม่แนะนำเพื่อน ๆ ใ้ห้ดื่มเฉพาะน้ำปั่นผักผลไม้นาน ๆ นะคะ คือ ตอนนั้นบีมยังไม่ได้ค้นคว้าเพิ่มว่าจะทานอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะบีมยึดมั่นในน้ำปั่นผักผลไม้อย่างเดียว เลยปิดช่องทางอื่นค่ะ ไม่ค้นคว้าต่อเรื่องอาหาร ส่วนใหญ่ถ้าจะทานก็ง่าย ๆ ค่ะ ไม่มีเมนูอร่อย ๆ เลย คนอื่นทำตามยาก เช่น เห็ดนึ่งจิ้มน้ำพริก ข้าวกล้อง ข้าวต้มใส่ไข่และเต้าหู้ ก็วน ๆ อยู่เท่านี้แหละ
สรุปและเน้นย้ำว่า การนอนเร็ว หลับลึก เป็นยารักษาร่างกายและรักษาสิวที่มีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ ใครที่อยากสิวหายเร็วแต่ยังมีข้ออ้างในการนอนดึก หรือมีปัจจัยที่ำทำให้ต้องนอนดึก ก็ต้องยอมรับว่ากระบวนการฟื้นฟูร่างกาย รักษาสิว และรอยสิวจะช้าตามไปด้วยค่ะ
จริง ๆ แล้วสิวบีมควรจะดีขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนะคะ ถ้าบีมไม่ไปทดลองใช้มะขามเปียกในเดือนธันวาคมเพราะเห็นว่าตัวเองมีสิวอุดตันที่ยังเหลืออยู่ ไม่หมดเสียทีค่ะ แต่ยิ่งทำให้ผิวเยินรับปีใหม่เลยทีเดียว เศร้าข้ามปี
และจริง ๆ ถ้าบีมกล้าใช้มาส์กสาหร่ายที่ได้เทสเตอร์มาตอนนั้น ผิวของบีมคงจะดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2553 แล้วค่ะ ^^
เหลือแต่ที่โหนกแก้มนี่แหละที่มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ว่ามันหายไปเยอะค่ะและรอยแดงลดลง สิวอุดตันหายไปไหนไม่รู้ เหลือนิดเดียวหลังสวนลำไส้ด้วยกาแฟค่ะ |
แต่เรื่องราวมันไม่จบแค่นั้นค่ะ เพราะบีมต้องทำหน้าที่บุกเบิก ต้องทดลองครีมต่าง ๆ สำหรับลูกค้า MarryBeam มีช่วงนึงที่พอกโคลน Dead Sea ตัวนี้แหละ โอ้โห สิวขึ้นเยอะเลยค่ะ พอก 2 ครั้งเห็นท่าไม่ดี เลยเลิกดีกว่าค่ะ
และด้วยความที่ทำงานหนัก เหนื่อย เครียด (ก่อนพี่กานต์มาช่วย หนักมากก ทำงานจนผอมเลยทีเดียว) ก็จะทำให้ตับเขาสะสมพิษและความร้อนไว้เรื่อย ๆ ค่ะ เวลาล้างพิษทีก็มีสิวขับพิษออกมาเรื่อยแหละ แต่มันจะออกมาแบบน่ารัก ๆ ค่ะ ออกมาพอให้รู้ว่าขับพิษ ไมกี่วันก็ยุบไปค่ะ ยกเว้นตอนทานยาสมุนไพรรักษามะเร็ง (ที่บีมสอบถามพ่อหมอว่าใช้รักษาสิวได้มั้ย เขาว่ามันใช้ล้างพิษน่ะนะ ก็ทานได้) ขับออกมา 2 สัปดาห์แต่เป็นเม็ดเล็ก ๆ นะคะ แดงนิดหน่อย ก็ใช้มาส์กสาหร่ายพอกเอา ใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มรักษาสิวเอาค่ะ แต่บางทีก็ไม่ใ้ช้ตัวรักษาสิวเลยเพราะอยากรู้ว่าสิวมันจะยุบเองเมื่อไหร่ มันก็ยุบไปเองภายในไม่เิกิน 3 วันค่ะ (สำหรับ Dtox) และถ้าใครก็ตามที่รักษามาจนถึงจุดที่บีมเป็นตอนนี้ และมีชีวิตแบบไม่่เครียด ได้พักผ่อนพอ รับรองว่าสิวไม่ได้ย่างกรายแล้วแหละ แต่ที่บีมยังมีสิวขับพิษเพราะงานยังเยอะอยู่ค่ะ เยอะจริง ๆ ^^ ตับเขาเหนื่อย เลยต้องคอยล้างกันเรื่อย ๆ นี่แหละ
สิวขับพิษช่วงทานยาสมุนไพรแ้ก้มะเร็งนะคะ จะเป็นแบบนี้
สิวหัวขาวฐานแดงแถวคาง กราม แก้มล่าง หมายถึง การขับพิษร้อนและเมือกมันจากผนังลำไส้ค่ะ เวลาขับพิษ บีมจะมีแค่แถว ๆ นี้แหละ เพราะมีปัญหากะระบบนี้ตั้งแต่เด็กค่ะ แบบว่าระบบย่อยไม่ค่อยดี |
ให้ดูหน้าผากค่ะ มันจะเป็นอุดตันน้อย ๆ แบบนี้เวลาล้างพิษค่ะ นี่แหละ สิวขับพิษจากลำไส้เช่นกันค่ะ ขับพวกไขมันออกมา |
และนี่คือสิวขับพิษจากกระบวนการรักษาตามปกติผสมกับสิวจากพิษที่เกิดจากการนอนดึกหรือนอนไม่พอ (ช่วงรักษาสิวด้วยตัวเองเข้าเดือนที่ 2 และช่วงดูแลคุณยายระยะสุดท้ายค่ะ)
สิวหัวคิ้ว ขับพิษจากตับ (นอนไม่พอ) ซึ่งรูปนี้ถ่ายเมื่อ 4 ตุลาคม 2553 เป็นวันก่อนวันที่คุณยายจะเสีย 1 วันค่ะ |
รอยแดงและสิวอักเสบจากพิษใหม่และเก่าผสมกัน |
รูปนี้ตอนเดือนท้าย ๆ ของการท้องแล้วค่ะ ดีขึ้นมาก ๆ แล้ว |
จะเห็นนะคะว่ารอยมันจาง ๆ ไปเองได้ค่ะ ไม่ต้องไปกังวลกับมันมากค่ะ โดยถ้ารักษาถูกวิธี สิวอักเสบจะยุบก่อน และอุดตันจะใช้เวลาเพราะเป็นสิวที่เกี่ยวกับอาหารที่ทาน ปริมาณน้ำตาล และปริมาณไขมันในเลือด (สมดุลของการนำสารอาหารไปใช้ค่ะ) ซึ่งต้องใช้เวลาในการปรับตรงนี้ เพราะช่วงแรกมันต้องล้างไขมันเสียออกมาก่อน ทำให้สิวเหมือนขึ้นเยอะกว่าเดิม พอผ่านไปแล้ว มันจะค่อย ๆ ลดลงเองค่ะ
และรอยสิวจะเปลี่ยนจากรอยแดงเป็นรอยดำ (พิษร้อนถูกถอนออกแล้วค่ะ)
หน้าที่ของเราคือ แค่ช่วยให้ในสิ่งที่ร่างกายต้องการเพื่อให้เขาซ่อมแซมและรักษาตัวเองจากอาการสิวได้เองค่ะ เราไปกะเกณฑ์ไม่ได้หรอกว่าจะหายเมื่อไหร่ เพราะร่างกายเขาเป็นคนซ่อม เราทำได้แค่ support ในสิ่งที่เขาต้องการค่ะ
ความคิดเห็น