ทำไมเราจึงเป็นสิวอุดตัน?
คุณเคยสงสัยกันมั้ยคะว่า สิวอุดตันมันมาจากไหน ทำไมเราจึงกำจัดมันออกไปยากมาก เลิกทายามันก็กลับมาใหม่ กดออกแล้วก็กลับมาใหม่ ทำไมมันไม่หายเสียที
บีมเองก็พยายามค้นหาคำตอบมานานค่ะ แต่ก็พึ่งจะมี Blink (หมายถึงความเข้าใจที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญเมื่อเวลาผ่านไปค่ะ) ขึ้นมาไม่นานมานี้เองค่ะ เลยอยากจะมาเขียนเอาไว้กันลืมและได้เผยแพร่ไปในตัวด้วย
หลังจากที่อาการสิวหายไปแล้ว ตอนนี้มีผิวเหมือนคนปกติ ซึ่งสามารถมีสิวเกิดขึ้นได้ถ้าหากทานอาหารที่ก่อสิว หรือนอนไม่พอนะคะ ซึ่งสิวที่ขึ้นมาสามารถยุบเองได้ ไม่เหมือนแต่ก่อนนู้นค่ะ ^^
บีมจึงมีร่างกายที่สามารถจะ Test ได้ว่าเราทำอะไรแล้วถึงมีสิวแบบนี้ ๆ ขึ้น
ประกอบกับได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาในช่วงหลัง ๆ นี้ด้วยค่ะ
สาเหตุที่เราเป็นสิวอุดตันเพราะ ร่างกายมีไขมันอยู่ในเส้นเลือดเกินพิกัด ส่วนใหญ่เป็นไขมันส่วนเกินที่ร่างกายไม่ได้ใช้งานแล้ว กลายเป็นของเสีย ซึ่งร่างกายเองก็ไม่สามารถขับออกได้ด้วย อาจจะเพราะอาการท้องผูก หรือแม้คุณจะถ่ายได้ทุกวัน แต่ไม่ได้หมายความว่าไขมันเหล่านี้จะถูกขับออกได้ค่ะ เมื่อมันทิ้งออกทางลำไส้ไม่ได้ อีกทางหนึ่งที่ระบายออกได้คือ ทางรูขุมขนบนใบหน้า อก คอ แผ่นหลัง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่นที่สุด นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เมื่อเรากดสิวอุดตันออกสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าก็ต้องกดใหม่อยู่ดีค่ะ เพราะเรามี supply หรือไขมันเต็มเปี่ยมที่พร้อมล้นทะลักออกมาตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ
อ่านแล้วมีคำถามใช่มั้ยคะ บีมจะตอบทีละข้อนะคะ
ไขมันเหล่านี้มาจากไหน
ไขมันที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดและสะสมตามอวัยวะต่าง ๆ มาจากอาหารที่เราทานเป็นหลักค่ะ ไม่ใช่เพียงไขมันเท่านั้นนะคะ แต่ยังรวมไปถึงน้ำตาลและแป้งขัดขาว เบเกอรี่ด้วย เพราะมันจะมีกลไกทางชีวเคมีบางอย่างที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไปเพิ่มไขมันในกระแสเลือดได้ค่ะ (บีมจำได้คร่าว ๆ ค่ะ ต้องไปรื้อฟื้นนิดนึง แต่ถ้าสังเกตกันนะคะ เวลาทานแป้งเยอะ ๆ หน้าจะมันใช่มั้ยคะ ^^ ถ้าลองลดแป้ง หน้าจะมันน้อยลงค่ะ ทดลองดูได้ค่ะ แต่ต้องใช้ระยะเวลานิดนึงนะคะ)
จริง ๆ แล้วร่างกายของเราต้องการไขมันด้วยนะคะ เพราะวิตามินและแร่ธาตุหลาย ๆ ตัวก็ต้องละลายในไขมันก่อนจึงจะสามารถถูกดูดซึมไปใช้งานได้ค่ะ แต่เราควรจะรับไขมันที่ดีในปริมาณที่เหมาะสม เช่น น้ำมันที่ได้จากการสกัดเย็น ไม่ผ่านกรรมวิธี ไม่ใช่น้ำมันที่ได้จากการทอด ผัด (วิธีการทอดผัดแบบรักษาสุขภาพมีอยู่ค่ะ เคยอ่าน ๆ มาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเราจะทานของผัดของทอดไม่ได้เลยค่ะ แต่มันมีวิธีปรุงแบบพิเศษค่ะ ลองค้นหาใน google พลาง ๆ ก่อนนะคะ ^^)
ดังนั้น ถ้าจะเริ่มรักษาสิวอุดตัน ควรตระหนักว่า ร่างกายมีไขมันเกินพิกัด ถ้าไปเช็คร่างกายจะพบว่า คุณมีไขมันชนิดเลวสูงเกินเกณฑ์ (แม้จะเป็นคนผอม) และมีโอกาสมีคอเลสเตอรอลสูงตามไปด้วยค่ะ และควรจะงดการบริโภค ไขมัน แป้ง น้ำตาล เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์พร้อมทั้งมีปฏิบัติการล้างพิษอย่างจริงจังเพื่อให้ร่างกายได้มีเวลากำจัดไขมันตกค้างในเลือดออกไปทางลำไส้และอุจจาระให้ได้มากที่สุดค่ะ แล้วคุณจะพบว่า สิวเม็ดเล็ก สิวไขมัน สิวอุดตันจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้ามีไขมันในเลือดสูงมาก ๆ อาจต้องใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ค่ะ
ในระหว่างที่ล้างพิษ 2 สัปดาห์นี้ ควรบริโภคผักผลไม้สดที่มีใยอาหารสูงเป็นหลัก ทานข้าวกล้อง ดื่มนมธัญพืชหรือน้ำเต้าหู้ มีการเติมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ให้กับร่างกาย ดื่มน้ำให้เพียงพอ นอนหลับให้เพียงพอ ผ่อนคลายความเครียดให้เป็น
อาการท้องผูกเกี่ยวกับสิวอย่างไร
เมื่อคุณท้องผูก นั่นหมายถึง กระบวนการกำจัดของเสียของร่างกายเส้นทางใหญ่ที่สุดทางหนึ่งได้ถูกขัดขวางไม่ให้ระบายของเสียตามปกติ
ให้จินตนาการถึงถ้วยมาม่าที่คุณกินทิ้งไว้ ถ้าไม่ได้เอาไปทิ้งและปล่อยทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องอยู่ประมาณ 3 วัน 7 วัน หรือ 14 วันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
สิ่งนั้นก็เป็นอาการเดียวกับที่เกิดขึ้นในลำไส้ของคุณค่ะ มันก็จะเน่าเสียและถูกขังอยู่เช่นนั้น มีเมือก ๆ มีจุลินทรีย์มากินเศษอาหาร ส่งกลิ่นเหม็น เกิดพิษจากการย่อยของจุลินทรีย์ตัวร้ายขึ้นในลำไส้
ทั้งเมือก ทั้งพิษนี้จะทำร้ายเซลล์ของลำไส้ ทั้งอุดตันรูระบายไขมันที่ส่งมาจากตับในรูปแบบของน้ำดี
เมื่อลำไส้เกิดภาวะอุดตัน และของเสียอัดแน่นเกาะติดผนังเซลล์ ติดรูระบาย ไขมันที่ควรจะได้ระบายออกมาที่ลำไส้ก็ออกมาไม่ได้ หรือออกมาได้แต่ไม่ถูกระบายออกไป ก็จะถูกดูดกลับเข้าไปที่กระแสเลือดอีก และเราก็รับของใหม่เพิ่มเข้าไปทุกวัน ไขมันหาที่ออกไม่ได้ จึงต้องระบายออกทางช่องทางที่สามารถออกได้ คือ รูขุมขน ซึ่งรูขุมขนที่มีช่องทางออกของไขมันได้มากคือ บริเวณใบหน้า ลำคอ แผ่นหลัง และอก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่หนาแน่นที่สุด
ดังนั้น อาการท้องผูกจึงมีความสัมพันธ์กับสิวอุดตันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ถ้าหากเราล้างพิษลำไส้และได้ทานผักผลไม้สดไม่หวาน ทานข้าวกล้องเป็นประจำ และมีการเติมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้เป็นประจำแล้ว จะช่วยให้ลำไส้มีสุขภาพดีในระยะยาว ป้องกันสิวอุดตันได้ชะงัดค่ะ
ถ่ายทุกวัน ทำไมถึงยังเป็นสิวอุดตัน
การถ่ายทุกวันนั้น ไม่ได้การันตีว่าของเสียจะไม่คั่งค้างในลำไส้ค่ะ
บีมเองก็เป็นคนถ่ายทุกวันค่ะ แม้แต่ตอนที่เป็นสิว ก็ถ่ายทุกวันไม่ได้หยุด
แต่เป็นลักษณะของการถ่ายที่สุขภาพลำไส้ไม่ดีโดยดูจากลักษณะของของเสียที่ขับออกมา
ลองเช็คดูที่ลิงค์นี้นะคะ ว่าคุณมีอุนจิที่แสดงถึงสุขภาพดีหรือไม่ค่ะ
http://share.psu.ac.th/blog/padkmsharing/1133
การถ่ายทุกวันนั้น ไม่ได้หมายถึงว่าคุณถ่ายหมดนะคะ
ถ้าคุณถ่ายหมด คุณจะรู้สึกโปร่ง โล่ง
แต่ถ้าถ่ายไม่หมด คุณจะรู้สึกเพลียระหว่างวัน มันแปลก ๆ อยากนอน หนัก ๆ ตื้อ ๆ
ซึ่งถ้าถ่ายไม่หมดก็จะมีของเสียคั่งค้างแต่ไม่มากเท่าคนท้องผูกค่ะ
แต่เจ้าของเสียและไขมันคั่งค้างก็จะถูกดูดกลับเข้าสู่กระแสเลือดได้เหมือนกันค่ะ
จึงทำให้คุณเป็นสิวอุดตันได้เช่นกัน
วิธีการแก้ไขคือ สวนล้างลำไส้ หรือทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ๆ เป็นประจำเพื่อช่วยกวาดของเสียหมักหมมตกค้างออกจากผนังลำไส้
กล่าวโดยสรุปนะคะ
บีมเองก็พยายามค้นหาคำตอบมานานค่ะ แต่ก็พึ่งจะมี Blink (หมายถึงความเข้าใจที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญเมื่อเวลาผ่านไปค่ะ) ขึ้นมาไม่นานมานี้เองค่ะ เลยอยากจะมาเขียนเอาไว้กันลืมและได้เผยแพร่ไปในตัวด้วย
หลังจากที่อาการสิวหายไปแล้ว ตอนนี้มีผิวเหมือนคนปกติ ซึ่งสามารถมีสิวเกิดขึ้นได้ถ้าหากทานอาหารที่ก่อสิว หรือนอนไม่พอนะคะ ซึ่งสิวที่ขึ้นมาสามารถยุบเองได้ ไม่เหมือนแต่ก่อนนู้นค่ะ ^^
บีมจึงมีร่างกายที่สามารถจะ Test ได้ว่าเราทำอะไรแล้วถึงมีสิวแบบนี้ ๆ ขึ้น
ประกอบกับได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาในช่วงหลัง ๆ นี้ด้วยค่ะ
สาเหตุที่เราเป็นสิวอุดตันเพราะ ร่างกายมีไขมันอยู่ในเส้นเลือดเกินพิกัด ส่วนใหญ่เป็นไขมันส่วนเกินที่ร่างกายไม่ได้ใช้งานแล้ว กลายเป็นของเสีย ซึ่งร่างกายเองก็ไม่สามารถขับออกได้ด้วย อาจจะเพราะอาการท้องผูก หรือแม้คุณจะถ่ายได้ทุกวัน แต่ไม่ได้หมายความว่าไขมันเหล่านี้จะถูกขับออกได้ค่ะ เมื่อมันทิ้งออกทางลำไส้ไม่ได้ อีกทางหนึ่งที่ระบายออกได้คือ ทางรูขุมขนบนใบหน้า อก คอ แผ่นหลัง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่นที่สุด นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เมื่อเรากดสิวอุดตันออกสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าก็ต้องกดใหม่อยู่ดีค่ะ เพราะเรามี supply หรือไขมันเต็มเปี่ยมที่พร้อมล้นทะลักออกมาตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ
อ่านแล้วมีคำถามใช่มั้ยคะ บีมจะตอบทีละข้อนะคะ
ไขมันเหล่านี้มาจากไหน
ไขมันที่ล่องลอยอยู่ในกระแสเลือดและสะสมตามอวัยวะต่าง ๆ มาจากอาหารที่เราทานเป็นหลักค่ะ ไม่ใช่เพียงไขมันเท่านั้นนะคะ แต่ยังรวมไปถึงน้ำตาลและแป้งขัดขาว เบเกอรี่ด้วย เพราะมันจะมีกลไกทางชีวเคมีบางอย่างที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไปเพิ่มไขมันในกระแสเลือดได้ค่ะ (บีมจำได้คร่าว ๆ ค่ะ ต้องไปรื้อฟื้นนิดนึง แต่ถ้าสังเกตกันนะคะ เวลาทานแป้งเยอะ ๆ หน้าจะมันใช่มั้ยคะ ^^ ถ้าลองลดแป้ง หน้าจะมันน้อยลงค่ะ ทดลองดูได้ค่ะ แต่ต้องใช้ระยะเวลานิดนึงนะคะ)
จริง ๆ แล้วร่างกายของเราต้องการไขมันด้วยนะคะ เพราะวิตามินและแร่ธาตุหลาย ๆ ตัวก็ต้องละลายในไขมันก่อนจึงจะสามารถถูกดูดซึมไปใช้งานได้ค่ะ แต่เราควรจะรับไขมันที่ดีในปริมาณที่เหมาะสม เช่น น้ำมันที่ได้จากการสกัดเย็น ไม่ผ่านกรรมวิธี ไม่ใช่น้ำมันที่ได้จากการทอด ผัด (วิธีการทอดผัดแบบรักษาสุขภาพมีอยู่ค่ะ เคยอ่าน ๆ มาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเราจะทานของผัดของทอดไม่ได้เลยค่ะ แต่มันมีวิธีปรุงแบบพิเศษค่ะ ลองค้นหาใน google พลาง ๆ ก่อนนะคะ ^^)
ดังนั้น ถ้าจะเริ่มรักษาสิวอุดตัน ควรตระหนักว่า ร่างกายมีไขมันเกินพิกัด ถ้าไปเช็คร่างกายจะพบว่า คุณมีไขมันชนิดเลวสูงเกินเกณฑ์ (แม้จะเป็นคนผอม) และมีโอกาสมีคอเลสเตอรอลสูงตามไปด้วยค่ะ และควรจะงดการบริโภค ไขมัน แป้ง น้ำตาล เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์พร้อมทั้งมีปฏิบัติการล้างพิษอย่างจริงจังเพื่อให้ร่างกายได้มีเวลากำจัดไขมันตกค้างในเลือดออกไปทางลำไส้และอุจจาระให้ได้มากที่สุดค่ะ แล้วคุณจะพบว่า สิวเม็ดเล็ก สิวไขมัน สิวอุดตันจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้ามีไขมันในเลือดสูงมาก ๆ อาจต้องใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ค่ะ
ในระหว่างที่ล้างพิษ 2 สัปดาห์นี้ ควรบริโภคผักผลไม้สดที่มีใยอาหารสูงเป็นหลัก ทานข้าวกล้อง ดื่มนมธัญพืชหรือน้ำเต้าหู้ มีการเติมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ให้กับร่างกาย ดื่มน้ำให้เพียงพอ นอนหลับให้เพียงพอ ผ่อนคลายความเครียดให้เป็น
อาการท้องผูกเกี่ยวกับสิวอย่างไร
เมื่อคุณท้องผูก นั่นหมายถึง กระบวนการกำจัดของเสียของร่างกายเส้นทางใหญ่ที่สุดทางหนึ่งได้ถูกขัดขวางไม่ให้ระบายของเสียตามปกติ
ให้จินตนาการถึงถ้วยมาม่าที่คุณกินทิ้งไว้ ถ้าไม่ได้เอาไปทิ้งและปล่อยทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องอยู่ประมาณ 3 วัน 7 วัน หรือ 14 วันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
สิ่งนั้นก็เป็นอาการเดียวกับที่เกิดขึ้นในลำไส้ของคุณค่ะ มันก็จะเน่าเสียและถูกขังอยู่เช่นนั้น มีเมือก ๆ มีจุลินทรีย์มากินเศษอาหาร ส่งกลิ่นเหม็น เกิดพิษจากการย่อยของจุลินทรีย์ตัวร้ายขึ้นในลำไส้
ทั้งเมือก ทั้งพิษนี้จะทำร้ายเซลล์ของลำไส้ ทั้งอุดตันรูระบายไขมันที่ส่งมาจากตับในรูปแบบของน้ำดี
เมื่อลำไส้เกิดภาวะอุดตัน และของเสียอัดแน่นเกาะติดผนังเซลล์ ติดรูระบาย ไขมันที่ควรจะได้ระบายออกมาที่ลำไส้ก็ออกมาไม่ได้ หรือออกมาได้แต่ไม่ถูกระบายออกไป ก็จะถูกดูดกลับเข้าไปที่กระแสเลือดอีก และเราก็รับของใหม่เพิ่มเข้าไปทุกวัน ไขมันหาที่ออกไม่ได้ จึงต้องระบายออกทางช่องทางที่สามารถออกได้ คือ รูขุมขน ซึ่งรูขุมขนที่มีช่องทางออกของไขมันได้มากคือ บริเวณใบหน้า ลำคอ แผ่นหลัง และอก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่หนาแน่นที่สุด
ดังนั้น อาการท้องผูกจึงมีความสัมพันธ์กับสิวอุดตันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ถ้าหากเราล้างพิษลำไส้และได้ทานผักผลไม้สดไม่หวาน ทานข้าวกล้องเป็นประจำ และมีการเติมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้เป็นประจำแล้ว จะช่วยให้ลำไส้มีสุขภาพดีในระยะยาว ป้องกันสิวอุดตันได้ชะงัดค่ะ
ถ่ายทุกวัน ทำไมถึงยังเป็นสิวอุดตัน
การถ่ายทุกวันนั้น ไม่ได้การันตีว่าของเสียจะไม่คั่งค้างในลำไส้ค่ะ
บีมเองก็เป็นคนถ่ายทุกวันค่ะ แม้แต่ตอนที่เป็นสิว ก็ถ่ายทุกวันไม่ได้หยุด
แต่เป็นลักษณะของการถ่ายที่สุขภาพลำไส้ไม่ดีโดยดูจากลักษณะของของเสียที่ขับออกมา
ลองเช็คดูที่ลิงค์นี้นะคะ ว่าคุณมีอุนจิที่แสดงถึงสุขภาพดีหรือไม่ค่ะ
http://share.psu.ac.th/blog/padkmsharing/1133
การถ่ายทุกวันนั้น ไม่ได้หมายถึงว่าคุณถ่ายหมดนะคะ
ถ้าคุณถ่ายหมด คุณจะรู้สึกโปร่ง โล่ง
แต่ถ้าถ่ายไม่หมด คุณจะรู้สึกเพลียระหว่างวัน มันแปลก ๆ อยากนอน หนัก ๆ ตื้อ ๆ
ซึ่งถ้าถ่ายไม่หมดก็จะมีของเสียคั่งค้างแต่ไม่มากเท่าคนท้องผูกค่ะ
แต่เจ้าของเสียและไขมันคั่งค้างก็จะถูกดูดกลับเข้าสู่กระแสเลือดได้เหมือนกันค่ะ
จึงทำให้คุณเป็นสิวอุดตันได้เช่นกัน
วิธีการแก้ไขคือ สวนล้างลำไส้ หรือทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ๆ เป็นประจำเพื่อช่วยกวาดของเสียหมักหมมตกค้างออกจากผนังลำไส้
กล่าวโดยสรุปนะคะ
- สิวอุดตันเกิดจากภาวะไขมันล้นเกินในร่างกาย ซึ่งเป็นไขมันที่ได้รับจากอาหารประเภท ไขมัน (ชนิดเลว) แป้ง และน้ำตาล
- ไขมันมากเกิน แต่ระบายออกไม่ทัน โดยทางระบายออกทางใหญ่ที่สุดคือลำไส้มักมีปัญหาทำให้การขับถ่ายของเสียมีอุปสรรค ไม่สามารถออกไปได้หมด
- ของเสียตกค้างในลำไส้ไม่มีตัวพาออกไป เพราะ เราไม่บริโภคอาหารประเภทเส้นใย เช่น ผักผลไม้สด และข้าวกล้องในชีวิตประจำวัน
- เมื่อออกด้านล่างไม่ได้ จึงมาออกด้านบนเป็นสิวอุดตัน ซึ่งถ้ามีภาวะติดเชื้อในลำไส้ หรือเชื้อโรคที่ไม่ดีอาศัยอยู่มาก หรือมีภาวะร้อนเกินของร่างกาย ก็จะทำให้เกิดสิวอักเสบตามมาและยุบลงไปยาก แม้จะทายาก็ไม่ค่อยหาย
ความคิดเห็น