ประมวลภาพวิวัฒนาการ "หนังหน้า" สู่ "ผิวหน้า" ของฉัน...ใน 7 เดือนที่ผ่านมา





ประมวลภาพและคำบรรยายตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 - มีนาคม 2553

เมษายน 2552




รูปนี้สักปลายเดือนพฤษภาคม 2552 เห็นจะได้


มิถุนายน 2552

เริ่มขาวขึ้นเพราะรู้สึกจะเปลี่ยนสบู่ล้างหน้า ใช้ Soafty

แต่งหน้ากลบสิวก็เป็นนะคะ
รองพื้นหนามากกก ตามด้วยแป้งตลับอีกที

เตรียมตัวไปถ่ายบัตรประชาชนใหม่


ดูใกล้ ๆ แล้วหน้าเรียบซะที่ไหนนั่น...


กรกฎาคม 2552

เทคนิคการแต่งหน้าปิดสิวยังเป็นอะไรที่ต้องใ้ช้ทุกวัน ไม่ทาแป้งไม่ได้ อายเค้า...


ปลายกรกฎา หลังทาน Agel ได้สัก 2 สัปดาห์ ผ่านพ้นช่วงหน้าใส สิวเริ่มผุด คิดว่าคงไม่ใช่เพราะอาหารเสริมหรอกค่ะ คิดว่ามันคงล้างพิษระลอกแรก (รึเปล่า) สังเกตดี ๆ สิวเริ่มผุดหน้าซีกซ้าย
จากไม่เคยเป็นสิวที่แก้มด้านใน มันเริ่มมาละ...


ประมาณต้นเดือน สิงหาคม 52 เริ่มแพ้สูตรพอกผิวที่มีมะนาว โยเกิร์ต น้ำผึ้ง ที่ิทิ้งไว้นานเกินไป ทำประมาณ 4 รอบได้ จึงมีผดขึ้นทั่วหน้า เป็นตุ่มใส ๆ ไม่มีหัว แต่คันยิบๆ มาก ๆ
สังเกตดี ๆ ว่า ถ่ายรูปแล้วดูหน้าไม่เรียบ เพราะแสงตกกระทบแล้วสะท้อนแบบขรุขระ ไม่เสมอกัน


ประมาณกลางเดือนสิงหาคม 52

รู้สึกว่าจะทานสูตร Wai หฤโหด คือ ทานเฉพาะผลไม้และสลัดตามสูตรเค้าเท่านั้นประมาณ 4 วันได้
และใช้สบู่ล้างหน้าอย่างเดียว ไม่กล้าใช้เครื่องสำอางเลย กันแดดก็ไม่ทา

ผิวดีขึ้นมากกก นะคะ แต่หัวมันหวิว ๆ ยังไงก็ไม่รู้
จะเป็นลมนะ เลยคิดว่าหน้าดีขึ้นนะ แต่ร่างกายเป็นอย่างนี้ไม่ไหว




ประมาณกลางกันยายน 2552

ช่วงนี้คุณยายป่วยมากขึ้น บีมเริ่มต้องผลัดเวรกับคุณแม่กลางดึกมาดูแลท่าน บางทีนอนเที่ยงคืน ตื่นตี 2 ก็มี ทำให้ช่วงนี้ผอมและสิวอาจจะทรง ๆ เพราะพักผ่อนไม่ดี แต่ที่สิวไม่ระเบิดเท่าที่มันควรจะระเบิดคงเป็นเพราะน้ำปั่นผักผลไม้ช่วยเอาไว้

และยังไม่คิดแตะเครื่องสำอางใด ๆ ทั้งสิ้น ใช้แต่สบู่ล้างหน้าเท่านั้น




ปลายตุลาคม 2552

ช่วงนี้มีเวลาได้พักผ่อนมากขึ้น เพราะ คุณยายท่านเสียประมาณต้นเดือนค่ะ
ก็ได้นอนมากขึ้น แต่บีมจะทานอาหารอื่นนอกจากผักกับผลไม้ไม่ค่อยได้เพราะิสิวจะผุดอยู่เรื่อย
จึงยังคงผอมอยู่ แต่สภาพผิวก็โอเคดี

ช่วงนี้เป็นช่วงที่เริ่มจับเครื่องสำอาง ก็เลือกของสุพรรณพักตร์มาใช้ทั้งชุด ไม่กล้าใช้หลายยี่ห้อปนกัน กลัว..ที่ต้องตัดสินใจเพราะรอยสิวเริ่มชัด ใช้สบู่ก็เริ่มแห้งตึงแล้ว เพราะมันเริ่มเข้าฤดูหนาวแล้ว จึงต้องหาอย่างอื่นมาแทน


เดือนพฤศจิกายน 2552

รูปนี้ เริ่มใช้ครีมหมอจุฬาฯได้ประมาณ 2 วัน หน้าใสเร้วเร็ว สิวยุบและรอยจางอีก เทพมาก แต่มันแสบร้อนตอนกลางวันเมื่อเจออะไรร้อน ๆ รังสีแดดนี่ล่ะค่ะ เพราะปกตินั่งทำงานที่โต๊ะนี้จะมีแดดสะท้อนเป็นปกติ แต่เราไม่เคยรู้สึกแสบจนกระทั่งมาใช้ครีม และมีเสียงเตือนด้วยความหวังดีจากเพื่อน ๆ เลยเลิกใช้ไปเลย


รูปด้านล่างนี้ประมาณปลายเดือน พฤศจิกายน
ตอนไปอบรมดูดวงที่กรุงเทพฯ รู้สึกว่าผิวหน้าช่วงนี้จะดีมากค่ะ พื้นผิวดีขึ้นเยอะ ต้องยกนิ้วให้เครื่องสำอางจริง ๆ นะคะ ที่ตัดสินใจเอามาขายก็เพราะประทับใจนี่แหละ

รูปนี้สาบานให้รถชนตายไปเลยว่าไม่มีรองพื้น เพราะบีมกลัวสิวขึ้น บีมเอาแค่เครื่องสำอางกับแป้งฝุ่นพอนด์และแป้งตลับ DHC ไปเท่านั้น ตัวปัดแก้มก็ไม่ใช้ เพราะกลัวสิวขึ้นโหนกแแก้ม


เดือนธันวาคม 2552

เดือนนี้บีมแอบนอกใจไปใช้ฟิโอน่าค่ะ รู้สึกมันจะซับพิษแล้วสิวบีมขึ้นบริเวณหน้าผาก เป็นผดเล็ก ๆ พึ่งจะมาหายเร็ว ๆ นี้เองค่ะ คือ เวลาบีมทดลองสูตรอะไร บีมจะพักการใช้สุพรรณพักตร์ไปเลย เหลือแต่ตัวล้าง เพราะเราจะได้รู้ว่ามันเกิดจากตัวไหนกันแน่

และเดือนนี้บีมก็แอบลองสูตรธรรมชาติไปบ้าง ผิวหน้าโดยรวมก็โอเคอยู่ แต่คิดว่าคงไปกวนเค้ามากไป เลยทำให้มีผดขึ้น และเริ่มมีสิวขึ้นบ้างในบริเวณที่เราไม่เคยมี เช่นโหนกแก้ม หน้าผาก
จึงอยากเตือนทุกคนว่า อย่าไปกวนหน้ามาก...


มีช่วงหน้าเยินสุด ๆ ตอนทดลองมะขามเปียก เยินจนไม่กล้าถ่ายรูปหน้าตัวเองค่ะ ต้องขอโทษจริงๆ ที่ไม่มีรูปมาให้ดู

หน้าลอกแบบ...ไม่ให้อภัยตัวเองเลยนะคะ...น่ากลัวมาก แม่เห็นแล้วบอกเลยว่า "สงสาร"
และก็บอกเลยว่า "หน้าเละ" T_T ดาวน์ไปสักพักค่ะจนกอบกู้ผิวคืนมาได้ประมาณปลายเดือนมกราคม 53 แบบนี้ค่ะ

จะเห็นว่าช่วงเดือนหลัง ๆ (หลังจากที่ได้ปฏิบัติแนวธรรมชาติบำบัดมาเรื่อย ๆ ) บีมแทบไม่มีสิวอักเสบเลยนะคะ มันจะเป็นเม็ดเล็ก ๆ ที่เกิดจากการรบกวนผิวหน้าและการดูแลไม่ถูกวิธีนั่นเอง สิวที่คางที่เคยมีแบบบึม ๆ เละ ๆ ก็หายแล้ว ช่วง ธ.ค. - ม.ค. เป็นช่วงที่รบกวนผิวจริง ๆ ค่ะ (แอบนอกใจ..เป็นไงล่ะ)

กุมภาพันธ์ 2553

ไม่ไปทำอะไรกับมันมากแล้ว ผิวเริ่มเข้าที่เข้าทาง ก็ดูแลภายในไปเรื่อย ๆ ในแก้วคือน้ำปั่นผักผลไม้ค่ะ สีออกมาแบบนั้่นเพราะวันนั้นปั่นกะหล่ำปีสีม่วงด้วย


มีนาคม 2553

เดือนนี้เป็นเดือนที่ตื่นเต้นกับการค้นพบของตัวเองมากที่สุด ที่สามารถรักษา ประคองผิวและทำให้ผิวดีได้แม้ในยามที่ไม่ได้ทานอาหารสุขภาพเหมือนตอนอยู่บ้าน และทำให้คิดเขียนหนังสือออกมาเป็นเล่มเพื่อถ่ายทอดให้กับคนอื่น ๆ นั่นเองค่ะ หนังสือเล่มนี้จึงถือกำเนิดที่ หมู่บ้าน Naka เมือง Alor Star ประเทศ Malaysia นั่นเอง

ผมยุ่งไปหน่อย แต่ชอบผิวหน้าตัวเองช่วงนี้มาก ๆ ค่ะ
รูปนี้ทาแค่แป้งฝุ่นพอนด์ ปัดแก้ม Nuchy MMU เขียนคิ้วก็จบละ

ส่วนรูปด้านล่างนี้ ถ่าย 21 มี.ค. 53
บีมไม่ทาอะไรเลยค่ะ เพราะตั้งใจว่าจะได้ให้เพื่อน ๆ ดูรูปผิวปัจจุบัน

มันเหลือแค่ด้านข้างอีกนิดหน่อยค่ะ คงต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 เดือนกว่าจะใสได้เหมือนผิวด้านหน้าแบบนี้ค่ะ (เพราะ 2-3 เดือนก่อน ผิวหน้าผากก็คือสภาพผิวด้านข้างตอนนี้ค่ะ)


รูปนี้ 25 มี.ค. 53 หลังจากทำดีท็อกซ์แบบสวนล้างลำไส้มาได้ 5 ครั้ง (2 วันครึ่ง) ค่ะ

ถ่ายวันที่ 3 เม.ย. 53 ไม่ได้ลงรองพื้นค่ะ แต่แป้งเป็นสีขาวอมชมพู เลยดูหลอก ๆ ค่ะ เดี๋ยวจะเปลี่ยนแป้งใหม่ละ ^^

ข้อสำคัญ คือ บีมเน้นการรักษาจากภายในเป็นหลัก

ประสบการณ์ที่ผ่านมาคือ...
เริ่มตั้งแต่ทานแบบเคร่งมาก ทานแต่ผักผลไม้สดเท่านั้น จนตอนนี้ก็สามารถดูแลร่างกายได้อย่างถูกต้องมากขึ้น และทำให้สิวค่อย ๆ หายไปเรื่อย ๆ

คนที่จะทำวิธีนี้ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ใจ

ใจที่อยากจะออกจากวังวนเดิม ๆ ตลอดไป

แค่นั้นค่ะ ไม่ต้องอะไรมาก

ขอแค่คุณตัดสินใจให้ได้ ว่าจะเอาทางไหน

ถ้าระหว่างทางมันไม่ไหว คุณก็ปรึกษาผู้รู้

อาจจะลองไปเข้าคอร์สชีวจิต ปรึกษาคุณหมอที่บัลวี พบแพทย์ทางเลือกได้

แต่บีมยังไม่เคยไปพบหมอหรือผู้เชี่ยวชาญที่ไหนจริง ๆ เพราะไม่สะดวก มีงานต้องทำที่บ้าน
ประกอบกับเป็นคนห้าวหาญมากหน่อย ไม่ค่อยกลัวอะไร (หน้าเลยเยินเป็นบางครั้ง)
ใครพูดอะไรก็ไม่สนใจ เพราะ เรารู้ว่าทำแล้วมันดี (อย่างน้อยกลิ่นตัวหายนี่ถือว่าเป็นอะไรที่...สุดยอดแล้ว)
ศึกษาข้อมูลมาก ๆ ศึกษาจนมั่นใจ
มีบ้างที่ท้อ แต่เรารู้ว่ามันคือทางเดียว...

ก็ทำไปเรื่อย ๆ ทำจนเจอทาง...
มันก็คุ้มค่าจริง ๆ นั่นแหละค่ะ

แต่บีมก็ยังคงต้องศึกษาต่อไป...


เหตุผลสำหรับบีม มันเริ่มจาก
  1. ช่วงกลับบ้านมาดูแลคุณยายใหม่ ๆ ไม่มีรายได้ และไม่อยากรบกวนคุณพ่อคุณแม่มากนัก จึงคิดว่า ถ้าไปหาหมอ ต้องนั่งรถไปเีชียงใหม่ทุกสัปดาห์ เปลืองค่ารถ เปลืองค่ายา งานเราก็ยังไม่มีทำ --- เหตุผลเรื่องเงิน
  2. พอเริ่มศึกษาข้อมูลและทดลองปฏิบัติแล้วเิ่ริ่มเห็นผลดีมาก สูตร Wai ทำให้หน้าผากเรียบ เพราะทานเฉพาะผลไม้กับสลัดสูตรเฉพาของเค้า ไข่แดงทำให้สิวผดแพ้ของเรายุบ ดื่มน้ำตามแนวคุณหมอแดงทำให้กลิ่นตัวหายถาวร (เป็นปัญหาที่บีมปลงไปนานแล้ว คิดว่าคงเป็นตลอดไป มันแย่จริง ๆ ค่ะ ไม่อยากบรรยาย พอหายแล้วก็เลยประทับใจธรรมชาติบำบัดมาก ๆ และใจมันเลยหันมาทางนี้กว่า 70% แล้วในตอนนั้น)
เหตุผลมีเท่านั้นค่ะ ทำแล้วเห็นผล จึงติดใจ ประกอบกับความชอบสังเกต ศึกษา ทดลอง เลยสนุก
ยิ่งทำ ผิวยิ่งดี ยิ่งเนียน ยิ่งใส

แต่ก่อนตาช้ำ เส้นเลือดแดงในตาเห็นชัดมาก
เดี๋ยวนี้ตาขาวใส ตาไม่เป็นแพนด้า

แต่ก่อนปากดำเหมือนสูบบุหรี่ ทั้งที่เราไม่เคยแม้แต่จะคิด ทุกคนต้องให้เราทาลิปเพราะมันดูไม่โอเคจริง ๆ
แต่เดี๋ยวนี้ ปากมีสีแดงได้เองค่ะ ไม่ต้องพึ่งลิป ถึงมันจะไม่สดเหมือนสาวสุขภาพดีแต่กำเนิด แต่วัดจากระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีที่ได้ทำมา ถือว่าคุ้มมากแล้ว

ยังมีข้อดีอีกสารพัดที่ำทำให้บีมไม่อยากหวนกลับไปสู่วงจรเดิมอีกค่ะ

เดี๋ยวนี้เลิกกินเนื้อโดยเด็ดขาด ยกเว้นปลา เพราะมันย่อยยาก ไม่อยากเอามาเป็นภาระร่างกาย
กินแบบมีสติมากขึ้นมาก ไม่ตามใจปาก เพราะเบื่อพิษ อาการมันจะบอกเองเมื่อร่างกายเราสมดุลมากขึ้น สะอาดมากขึ้น มันจะร้อน ๆ คอ ปากแห้ง ปัสสาวะร้อน ๆ ไม่สบายตัว จึงไม่ค่อยชอบทานของพวกนี้

คุณลองตอบตัวเองให้ได้นะคะว่าคุณมีเหตุผลอะไรที่ต้องตัดสินใจมาปฏิบัติแนวนี้
ถ้าเหตุผลคุณไม่มีน้ำหนักพอ บีมเชื่อว่า คุณทำได้ไม่นาน เดี๋ยวก็กลับไปที่เดิมอีกค่ะ

ใครสนใจวิธีและแนวคิดในแบบของบีมสามารถจองหนังสือ Acne (First) Aid
ที่บีมพึ่งเขียนเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ กำลังอยู่ในช่วงการจัดพิมพ์ได้ค่ะ

ไม่ใช่หนังสือแนว Pocket Book เล่าเรื่องของตัวเองอย่างเดียว
แต่บีมเขียนสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับสิวให้ตามที่บีมเข้าใจจากประสบการณ์ที่ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เป็นระบบ รับรองว่าอ่านง่าย เข้าใจง่ายแน่นอน เหมาะกับทุกคน ทุกวัย ที่เผชิญปัญหาสิวเรื้อรังมาแสนนาน หรือพึงจะเป็นสิวแต่หาทางออกไม่เจอ ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เิริ่มทำความเข้าใจสิวอย่างแท้จริงได้จากหนังสือเล่มนี้ค่ะ Acne (First) Aid

บีมรับรองว่าจะไม่ผิดหวัง...

อ่านบล็อกได้ความรู้ยังไง
อ่านหนังสือจะยิ่งเข้าใจแบบทะลุปรุโปร่งไปเลยค่ะ

และคุณจะเลือกซื้ออาหารเสริม เลือกลงทุนกับความงามด้วย I.Q แทนอารมณ์ค่ะ
จะคุ้มค่าและประหยัดได้อีกมากเลยทีเดียว ^^

ราคาเล่มละ 180 บาท

ค่าจัดส่งลงทะเบียน 20 บาท
ค่าจัดส่ง EMS 40 บาท

วิธีการจอง กรุณา คลิกที่นี่ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ ^^

ความคิดเห็น