ประสบการณ์ดีท็อกซ์ วันที่ 2
วันนี้เป็นวันที่ 2 แต่เป็นครั้งที่ 4 ที่บีมได้ทำดีท็อกซ์โดยการสวนล้างลำไส้ด้วยกาแฟค่ะ
ที่ทำ 2 ครั้งต่อวันนี่ บีมทดลองดูค่ะ เพราะคุณหมออารีย์ที่บีมอ่านหนังสือของท่านมา ท่านก็ทำ 2 ครั้งต่อวันมานานแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
และบีมเองคิดว่า คงจะไม่ได้ทำ 2 ครั้งต่อวันไปตลอดค่ะ
คิดเอาเองว่า จะทำจริงจังแบบนี้ในสัปดาห์แรกที่เริ่มทำค่ะ หลังจากนั้นคงจะลดความถี่ลงไป
เพราะอยากจะรู้ว่ามันจะช่วยให้สิวไปจริง ๆ รึเปล่า (ความอยากทดลองส่วนบุคคล)
ก็ต้ังใจว่าจะทำ 2 ครั้งต่อวัน 1 สัปดาห์ ให้มันรู้กันไปค่ะ ว่าถ้าลำไส้สะอาด ผิวมันจะหมดจดมั้ย ^^
นับมานี่ก็คือ ครั้งที่ 4 แล้วค่ะที่ได้ทำ
เมื่อคืนที่ทำ ก็กลั้นได้ 11 นาที
เมื่อเช้านี้ได้ 12 นาที จริง ๆ คิดว่าน่าจะลองถึง 15 นาทีดู
แต่สงสัยตัวเล็กค่ะ เส้นเลือดเลยถึงกันเร็ว
หัวใจมันเต้นเร็ว บีมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะกาแฟซึมเข้ากระแสเลือด ป่านนี้ไปถึงหัวใจแน่เลย
ประกอบกับกลิ่นกาแฟมันเริ่มออกมาทางปากด้วย แต่เป็นกลิ่นอ่อน ๆ เองนะคะ ไม่ได้รุนแรงอะไร
เลยตรัสรู้อีกข้อหนึ่ง และยืนยันว่าสิ่งที่เคยรู้นั้นเป็นจริง
คือคนที่กลิ่นปากแรง ๆ มันไม่ได้อยู่ที่ปากค่ะ เพราะไม่ว่าปากใครก็มีแบคทีเรียทั้งนั้น
มันตัดกันที่ความรุนแรงของของหมักหมมในลำไส้แน่นอน
นี่ขนาดกาแฟ ใส่เข้าไปประมาณ 10 กว่านาที ยังส่งกลิ่นออกมาทางปากและลมหายใจได้
แล้วถ้าของหมักหมมมาสิบหรือยี่สิบปีล่ะคะ....อืม น่าคิดเนาะ
สำหรับเมื่อวานกับวันนี้ ถือว่าโอเคค่ะ
เช้านี้ไม่ค่อยมีอะไรออกมาแล้ว ไม่เหมือนครั้งแรกและครั้งที่สองที่ทำค่ะ ไม่เห็นสายอะไรยาว ๆ แล้ว
และก็ยังยืนยันว่า เวลาที่เราปวดท้องตอนที่น้ำกาแฟอยู่นั้น ขอให้กลั้นจนกว่าจะหายปวดค่ะ เพราะมันจะแป๊บเดียวเอง พอของเสียหลุดออกจากผนังลำไส้แล้ว มันจะหายปวดค่ะ
แล้วมันจะแอบมีเสียง "ครึก ๆ" ตลกดี แบบว่า บอกเราว่า "อ้าว จุดนี้หลุดแล้วนะ" แบบนี้เป็นต้นค่ะ
ตอนที่ปวดคือ ลำไส้พยายามบีบตัวไล่ของเสียออกจากผนังลำไส้
พอเค้าบีบตัว เราก็เลยปวด
พอของเสียหลุดออกมาแล้ว เราเลยจะหายปวดค่ะ
ดังนั้น ใครปวดเยอะ และปวดนานหน่อย แสดงว่าของเสียมันติดแน่นมากหน่อยหรือขนาดใหญ่หน่อยค่ะ
แต่ถ้าหากเป็นอะไรที่ติดไม่นาน หรือของเสียไม่ได้ใหญ่มาก มันจะปวดแป๊บเดียวแล้วหาย
ตอนทำ บีมก็จะจินตนาการไปค่ะ
"อ้าว ไปถึงพี่ตับได้แล้วนะ"
"อ่ะ ๆ ทนไหว ๆ ทำต่อไป ดีแล้ว ๆ"
เหมือนคนบ้านะคะ แต่ว่าร่างกายเค้ารู้เรื่องนะคะ คุยกับเค้าแบบนั้นแหละ คุยดี ๆ เค้าจะร่วมมือเองค่ะ
บีมจะจินตนาการว่าตอนนี้ตับได้น้ำกาแฟแล้วนะ กำลังล้างพิษอยู่น้า พิษออกนะ หน้าใสนะ
เวลาทำต้องจินตนาการนะคะ เพราะนั่นคือวิธีเดียวที่เราจะสื่อสารกับร่างกายได้ ^^
ผลกับร่างกาย
ขอรายงานความคืบหน้าดังนี้ค่ะ
แล้วจะมาอัพเดทกันอีกในวันพรุ่งนี้นะคะ
^^
ที่ทำ 2 ครั้งต่อวันนี่ บีมทดลองดูค่ะ เพราะคุณหมออารีย์ที่บีมอ่านหนังสือของท่านมา ท่านก็ทำ 2 ครั้งต่อวันมานานแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
และบีมเองคิดว่า คงจะไม่ได้ทำ 2 ครั้งต่อวันไปตลอดค่ะ
คิดเอาเองว่า จะทำจริงจังแบบนี้ในสัปดาห์แรกที่เริ่มทำค่ะ หลังจากนั้นคงจะลดความถี่ลงไป
เพราะอยากจะรู้ว่ามันจะช่วยให้สิวไปจริง ๆ รึเปล่า (ความอยากทดลองส่วนบุคคล)
ก็ต้ังใจว่าจะทำ 2 ครั้งต่อวัน 1 สัปดาห์ ให้มันรู้กันไปค่ะ ว่าถ้าลำไส้สะอาด ผิวมันจะหมดจดมั้ย ^^
นับมานี่ก็คือ ครั้งที่ 4 แล้วค่ะที่ได้ทำ
เมื่อคืนที่ทำ ก็กลั้นได้ 11 นาที
เมื่อเช้านี้ได้ 12 นาที จริง ๆ คิดว่าน่าจะลองถึง 15 นาทีดู
แต่สงสัยตัวเล็กค่ะ เส้นเลือดเลยถึงกันเร็ว
หัวใจมันเต้นเร็ว บีมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะกาแฟซึมเข้ากระแสเลือด ป่านนี้ไปถึงหัวใจแน่เลย
ประกอบกับกลิ่นกาแฟมันเริ่มออกมาทางปากด้วย แต่เป็นกลิ่นอ่อน ๆ เองนะคะ ไม่ได้รุนแรงอะไร
เลยตรัสรู้อีกข้อหนึ่ง และยืนยันว่าสิ่งที่เคยรู้นั้นเป็นจริง
คือคนที่กลิ่นปากแรง ๆ มันไม่ได้อยู่ที่ปากค่ะ เพราะไม่ว่าปากใครก็มีแบคทีเรียทั้งนั้น
มันตัดกันที่ความรุนแรงของของหมักหมมในลำไส้แน่นอน
นี่ขนาดกาแฟ ใส่เข้าไปประมาณ 10 กว่านาที ยังส่งกลิ่นออกมาทางปากและลมหายใจได้
แล้วถ้าของหมักหมมมาสิบหรือยี่สิบปีล่ะคะ....อืม น่าคิดเนาะ
สำหรับเมื่อวานกับวันนี้ ถือว่าโอเคค่ะ
เช้านี้ไม่ค่อยมีอะไรออกมาแล้ว ไม่เหมือนครั้งแรกและครั้งที่สองที่ทำค่ะ ไม่เห็นสายอะไรยาว ๆ แล้ว
และก็ยังยืนยันว่า เวลาที่เราปวดท้องตอนที่น้ำกาแฟอยู่นั้น ขอให้กลั้นจนกว่าจะหายปวดค่ะ เพราะมันจะแป๊บเดียวเอง พอของเสียหลุดออกจากผนังลำไส้แล้ว มันจะหายปวดค่ะ
แล้วมันจะแอบมีเสียง "ครึก ๆ" ตลกดี แบบว่า บอกเราว่า "อ้าว จุดนี้หลุดแล้วนะ" แบบนี้เป็นต้นค่ะ
ตอนที่ปวดคือ ลำไส้พยายามบีบตัวไล่ของเสียออกจากผนังลำไส้
พอเค้าบีบตัว เราก็เลยปวด
พอของเสียหลุดออกมาแล้ว เราเลยจะหายปวดค่ะ
ดังนั้น ใครปวดเยอะ และปวดนานหน่อย แสดงว่าของเสียมันติดแน่นมากหน่อยหรือขนาดใหญ่หน่อยค่ะ
แต่ถ้าหากเป็นอะไรที่ติดไม่นาน หรือของเสียไม่ได้ใหญ่มาก มันจะปวดแป๊บเดียวแล้วหาย
ตอนทำ บีมก็จะจินตนาการไปค่ะ
"อ้าว ไปถึงพี่ตับได้แล้วนะ"
"อ่ะ ๆ ทนไหว ๆ ทำต่อไป ดีแล้ว ๆ"
เหมือนคนบ้านะคะ แต่ว่าร่างกายเค้ารู้เรื่องนะคะ คุยกับเค้าแบบนั้นแหละ คุยดี ๆ เค้าจะร่วมมือเองค่ะ
บีมจะจินตนาการว่าตอนนี้ตับได้น้ำกาแฟแล้วนะ กำลังล้างพิษอยู่น้า พิษออกนะ หน้าใสนะ
เวลาทำต้องจินตนาการนะคะ เพราะนั่นคือวิธีเดียวที่เราจะสื่อสารกับร่างกายได้ ^^
ผลกับร่างกาย
ขอรายงานความคืบหน้าดังนี้ค่ะ
- ไม่มีอาการอะไรนอกจาก ร้อนในเยอะมากในปาก ทั้งที่ไม่ได้กินของฤทธิ์ร้อน
- เจริญอาหารมากๆ ค่ะ
- หน้าผาก ขมับ เรียบมาก ๆ ไม่มีสิวอุดตันเลย
- สิวเม็ดเล็กบริเวณแก้มและคางอพยพไปได้มากกว่า 85-90% แล้วค่ะ เหลือแต่สะเก็ดผิวที่ผลัดจากผลของการใช้ Apple Cider ซึ่งถ้าผลัดออกหมดแล้ว หน้าจะใสขึ้นอีกค่ะ
- ไม่มีสิวอักเสบเลย
แล้วจะมาอัพเดทกันอีกในวันพรุ่งนี้นะคะ
^^
ความคิดเห็น