กินทุกอย่างตามแบบสุขภาพแล้ว ทำไมสิวยังไม่หายอีกนะ
ในที่สุดก็ตัดสินใจเจียดเวลามาเขียนบล็อกค่ะ หลังจากที่ไม่ได้อัพนานเลย เพราะทนเสียงเรียกร้องของใจไม่ได้
บีมจะเป็นอย่างนึงคือ ถ้ามีเรื่องจะเขียนแล้วไม่ได้เขียนจะอึดอัดมาก ๆ ไม่รู้เป็นอะไรค่ะ
มีหลายเรื่องมาก แต่จะพยายามอัพ 1 post ต่อ 1 เรื่องนะคะ จะได้ไม่งง และเวลากลับมาหาจะได้หาบทความได้ง่ายค่ะ
บีมเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะได้ลองปฏิบัติตามแนวที่บีมได้แนะนำไว้ในบล็อกรวมถึงแนวสุขภาพอื่น ๆ มาสักช่วงหนึ่งแล้ว
บางคนประสบความสำเร็จ สิวไ่ม่มากวนใจอีกเลย
แต่บางคนก็ยังมีขึ้นมา้บ้างประปราย
หรือบางคนเป็น ๆ หาย ๆ
ทั้งนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่าร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ
และีบีมสังเกตแล้วว่า ผู้ชายจะหายเป็นสิวเร็วกว่าผู้หญิงมาก
เพราะอะไรคะ?
ก็เพราะว่า ผู้ชายเค้าไม่มีวันนั้นของเดือนล่ะค่ะ
สมมติว่า ผู้ชายคนหนึ่งเป็นสิววัยรุ่น 1 ปี แล้วหายได้เอง หมายความว่า มันเกิดจากฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลงจริง ๆ ไม่มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเลย พอร่างกายปรับเข้าสู่สมดุลใหม่ได้แล้ว สิวเค้าจะหายเองค่ะ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเรื่องการปรับสมดุลนะคะ ถ้าน้องคนไหนเรียนเคมีมาจะเข้าใจง่ายมาก ว่ามันจะมีสมดุลเดิม และจุดสมดุลใหม่ หรือใครเรียนปรัชญาตะวันออกมาแล้วเข้าใจเรื่องหยินหยางก็จะนึกภาพออกค่ะ
เอางี้ค่ะ บีมยกตัวอย่างแบบนี้ดีกว่า
เวลาเราเริ่มมีแฟน สมดุลเดิมก็คือ ตัวเรา และตัวเค้า ที่ยังคงมีธรรมชาติเดิมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
แต่เมื่อเรามาอยู่ร่วมกัน มีปฏิสัมพันธ์กัน ตอนนี้แหละที่สมดุลในตัวเราเริ่มเปลี่ยน จากไม่เคยแต่งหน้าเลย ก็มาแต่งหน้า จากไม่เคยพูดเพราะเลย ก็พูดจาหวานหู เป็นต้น
คบกันไป บางทีก็มีปัญหานู่นนี่นั่น และเกิดความขัดแย้งกัน ทะเลาะกันบ้าง
แต่พอเมื่อมาคุยกัน เข้าใจกัน แล้วปรับปรุงตัวใหม่ ตัวเราีที่เปลี่ยนไป และความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปและราบรื่นขึ้นนี่ล่ะค่ะ เรียกว่า สมดุลใหม่
เรื่องฮอร์โมนก็เ่ช่นกัน
สำหรับผู้ชาย จากเด็กชายเป็นนายเนี่ย สมดุลเดิมคือเด็กชายไร้สิวฝ้า แต่พอเป็นนาย สมดุลเดิมถูกเปลี่ยนแปลง ต่อมไขมันดันผลิตน้ำมันมากขึ้นโดยที่รูขุมขนเล็กเท่าเดิม สิวก็ขึ้นสิคะทีนี้ แต่พอระบบร่างกายของเค้าเริ่มเข้าสู่สมดุลใหม่ได้ คือ เป็นชายหนุ่มขึ้น รูขุมขนเค้าจะปรับขนาดขึ้นให้พอเหมาะกับการเปลี่ยนแปลงนั้น เหมือนกับว่า การเปลี่ยนแปลงเค้ามีแค่ครั้งเดียว พอเข้าสู่สมดุลมันก็หาย
แต่สำหรับผู้หญิง เรารู้กันอยู่แล้วว่า ช่วงประจำเดือนจะมา สิวขึ้นใช่มั้ยคะ คือ นอกจากเราจะเปลี่ยนจากสมดุลเดิมเป็นสมดุลใหม่ตอนมีประจำเดือนครั้งแรกแล้ว เรายังมีการเปลี่ยนสมดุลทุกเดือนด้วยค่ะ ดังนั้น ในผู้หญิง สิวจึงจะหายช้ากว่าผู้ชาย เพราะสมดุลของเราเปลี่ยนแปลงทุกเดือน
นี่บีมเพียงแค่เปรียบเทียบตามสรีระนะคะ ยังไม่ได้รวมถึงเื่รื่องอาหาร ความเครียดและปัจจัยอื่น ๆ ที่เราได้รับในแต่ละวันเลย และไหนจะยาที่ทานเข้าไปอีก
ทุกอย่างมีผลต่อสมดุลหมดค่ะ เคล็ดลับอยู่ที่ว่า เราจะรู้จักจังหวะการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเราเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเราจึงจะควบคุมสมดุลในร่างกายได้อย่างอยู่หมัด ซึ่งนี่เ็ป็นสิ่งที่เราต้องสังเกตและเรียนรู้ที่จะฟังเสียงร่างกายเราเองด้วยค่ะ
ดังนั้น ลักษณะการหายของสิว ในผู้ชาย ถ้าหากว่ากินอาหารถูกต้อง ดื่มน้ำถูกต้อง ออกกำลัง ฯลฯ ถ้าหายแล้ว มักจะหายเลย และหายได้เร็วกว่า แต่ถ้าหากผู้ชายคนนั้นมีความเครียดสูง และมีประวัติทานยาแก้อักเสบหรือทานยาเยอะมาก่อน โอกาสที่จะไม่หายทีเดียวก็มีเช่นกัน
แต่สำหรับผู้หญิง มันจะมาเป็นระลอก ๆ คือ เป็น แล้ว หาย เป็น แ้ล้ว หาย ซึ่งหากเราทำตามหลักวิธีที่ถูกต้องแล้ว สุขภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ ระดับความรุนแรงและปริมาณของสิวจะลดลงไปเรื่อย ๆ ค่ะ บางคนอาจจะใช้เวลา 3 เดือน บางคนครึ่งปี หรือบางคน 1 ปี ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่า แต่ก่อนนี้เรามีพฤติกรรมมาอย่างไรด้วย และเราใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร
นอกจากเรื่องของสรีระที่ทำให้สิวในแต่ละคนหายไม่เท่ากันแล้ว ยังมีเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ที่เป็นโรคเรื้อรังของเราด้วย ซึ่งควรจะปรึกษาหมออายุรเวท ไทย จีน ที่เข้าใจเรื่องลมปราณ หรือเส้นพลังชีวิตแนว ๆ นี้ เพราะถ้าหากเราทำทุกอย่างที่ดีต่อสุขภาพหมดแล้วในระยะเวลาที่นานพอสมควรแต่สิวยังไม่หาย ให้สันนิษฐานว่ามีบางจุดในร่างกายที่ผิดปกติค่ะ เราอาจจะปวดหลัง ปวดเอว ปวดตรงไหนแบบเรื้อรังก็ควรจะต้องใส่ใจ เพราะบางที แค่แก้จุดนั้นได้ สิวอาจจะหายไปด้วยก็ได้ค่ะ
อย่างโรคที่บีมอยากจะให้ลองศึกษากันเพิ่มเติมคือ ไส้รั่ว หรือ Leaky Gut Syndrome ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการกินเป็นหลัก ไส้รั่วทำให้พิษจากลำไ้ส้เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายมาก และข้อที่บีมสังเกตได้คือ คนที่ปฏิบัิติตามแนวสุขภาพทุกอย่างแล้ว ในระยะเวลาอย่างน้อย 2 เดือน แล้วยังไม่ดีขึ้น ให้สันนิษฐานว่าตัวเองอาจจะมีตำแหน่งไส้รั่ว แต่ไม่การันตีนะคะว่าทุกคนจะเป็น เพียงแค่สันนิษฐานเท่านั้น
ลักษณะอาการคือ ถ้าทานเฉพาะผักผลไม้สด สิวจะดีขึ้นมากมาย แต่ถ้าเมื่อไหร่เริ่มกินอาหารปกติ สิวมักจะขึ้นเยอะเหมือนกัน แต่จะไม่อักเสบ
ลองสังเกตดูนะคะ ^^
บีมจะเป็นอย่างนึงคือ ถ้ามีเรื่องจะเขียนแล้วไม่ได้เขียนจะอึดอัดมาก ๆ ไม่รู้เป็นอะไรค่ะ
มีหลายเรื่องมาก แต่จะพยายามอัพ 1 post ต่อ 1 เรื่องนะคะ จะได้ไม่งง และเวลากลับมาหาจะได้หาบทความได้ง่ายค่ะ
บีมเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะได้ลองปฏิบัติตามแนวที่บีมได้แนะนำไว้ในบล็อกรวมถึงแนวสุขภาพอื่น ๆ มาสักช่วงหนึ่งแล้ว
บางคนประสบความสำเร็จ สิวไ่ม่มากวนใจอีกเลย
แต่บางคนก็ยังมีขึ้นมา้บ้างประปราย
หรือบางคนเป็น ๆ หาย ๆ
ทั้งนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่าร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ
และีบีมสังเกตแล้วว่า ผู้ชายจะหายเป็นสิวเร็วกว่าผู้หญิงมาก
เพราะอะไรคะ?
ก็เพราะว่า ผู้ชายเค้าไม่มีวันนั้นของเดือนล่ะค่ะ
สมมติว่า ผู้ชายคนหนึ่งเป็นสิววัยรุ่น 1 ปี แล้วหายได้เอง หมายความว่า มันเกิดจากฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลงจริง ๆ ไม่มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเลย พอร่างกายปรับเข้าสู่สมดุลใหม่ได้แล้ว สิวเค้าจะหายเองค่ะ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเรื่องการปรับสมดุลนะคะ ถ้าน้องคนไหนเรียนเคมีมาจะเข้าใจง่ายมาก ว่ามันจะมีสมดุลเดิม และจุดสมดุลใหม่ หรือใครเรียนปรัชญาตะวันออกมาแล้วเข้าใจเรื่องหยินหยางก็จะนึกภาพออกค่ะ
เอางี้ค่ะ บีมยกตัวอย่างแบบนี้ดีกว่า
เวลาเราเริ่มมีแฟน สมดุลเดิมก็คือ ตัวเรา และตัวเค้า ที่ยังคงมีธรรมชาติเดิมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
แต่เมื่อเรามาอยู่ร่วมกัน มีปฏิสัมพันธ์กัน ตอนนี้แหละที่สมดุลในตัวเราเริ่มเปลี่ยน จากไม่เคยแต่งหน้าเลย ก็มาแต่งหน้า จากไม่เคยพูดเพราะเลย ก็พูดจาหวานหู เป็นต้น
คบกันไป บางทีก็มีปัญหานู่นนี่นั่น และเกิดความขัดแย้งกัน ทะเลาะกันบ้าง
แต่พอเมื่อมาคุยกัน เข้าใจกัน แล้วปรับปรุงตัวใหม่ ตัวเราีที่เปลี่ยนไป และความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปและราบรื่นขึ้นนี่ล่ะค่ะ เรียกว่า สมดุลใหม่
เรื่องฮอร์โมนก็เ่ช่นกัน
สำหรับผู้ชาย จากเด็กชายเป็นนายเนี่ย สมดุลเดิมคือเด็กชายไร้สิวฝ้า แต่พอเป็นนาย สมดุลเดิมถูกเปลี่ยนแปลง ต่อมไขมันดันผลิตน้ำมันมากขึ้นโดยที่รูขุมขนเล็กเท่าเดิม สิวก็ขึ้นสิคะทีนี้ แต่พอระบบร่างกายของเค้าเริ่มเข้าสู่สมดุลใหม่ได้ คือ เป็นชายหนุ่มขึ้น รูขุมขนเค้าจะปรับขนาดขึ้นให้พอเหมาะกับการเปลี่ยนแปลงนั้น เหมือนกับว่า การเปลี่ยนแปลงเค้ามีแค่ครั้งเดียว พอเข้าสู่สมดุลมันก็หาย
แต่สำหรับผู้หญิง เรารู้กันอยู่แล้วว่า ช่วงประจำเดือนจะมา สิวขึ้นใช่มั้ยคะ คือ นอกจากเราจะเปลี่ยนจากสมดุลเดิมเป็นสมดุลใหม่ตอนมีประจำเดือนครั้งแรกแล้ว เรายังมีการเปลี่ยนสมดุลทุกเดือนด้วยค่ะ ดังนั้น ในผู้หญิง สิวจึงจะหายช้ากว่าผู้ชาย เพราะสมดุลของเราเปลี่ยนแปลงทุกเดือน
นี่บีมเพียงแค่เปรียบเทียบตามสรีระนะคะ ยังไม่ได้รวมถึงเื่รื่องอาหาร ความเครียดและปัจจัยอื่น ๆ ที่เราได้รับในแต่ละวันเลย และไหนจะยาที่ทานเข้าไปอีก
ทุกอย่างมีผลต่อสมดุลหมดค่ะ เคล็ดลับอยู่ที่ว่า เราจะรู้จักจังหวะการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเราเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเราจึงจะควบคุมสมดุลในร่างกายได้อย่างอยู่หมัด ซึ่งนี่เ็ป็นสิ่งที่เราต้องสังเกตและเรียนรู้ที่จะฟังเสียงร่างกายเราเองด้วยค่ะ
ดังนั้น ลักษณะการหายของสิว ในผู้ชาย ถ้าหากว่ากินอาหารถูกต้อง ดื่มน้ำถูกต้อง ออกกำลัง ฯลฯ ถ้าหายแล้ว มักจะหายเลย และหายได้เร็วกว่า แต่ถ้าหากผู้ชายคนนั้นมีความเครียดสูง และมีประวัติทานยาแก้อักเสบหรือทานยาเยอะมาก่อน โอกาสที่จะไม่หายทีเดียวก็มีเช่นกัน
แต่สำหรับผู้หญิง มันจะมาเป็นระลอก ๆ คือ เป็น แล้ว หาย เป็น แ้ล้ว หาย ซึ่งหากเราทำตามหลักวิธีที่ถูกต้องแล้ว สุขภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ ระดับความรุนแรงและปริมาณของสิวจะลดลงไปเรื่อย ๆ ค่ะ บางคนอาจจะใช้เวลา 3 เดือน บางคนครึ่งปี หรือบางคน 1 ปี ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่า แต่ก่อนนี้เรามีพฤติกรรมมาอย่างไรด้วย และเราใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร
นอกจากเรื่องของสรีระที่ทำให้สิวในแต่ละคนหายไม่เท่ากันแล้ว ยังมีเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ที่เป็นโรคเรื้อรังของเราด้วย ซึ่งควรจะปรึกษาหมออายุรเวท ไทย จีน ที่เข้าใจเรื่องลมปราณ หรือเส้นพลังชีวิตแนว ๆ นี้ เพราะถ้าหากเราทำทุกอย่างที่ดีต่อสุขภาพหมดแล้วในระยะเวลาที่นานพอสมควรแต่สิวยังไม่หาย ให้สันนิษฐานว่ามีบางจุดในร่างกายที่ผิดปกติค่ะ เราอาจจะปวดหลัง ปวดเอว ปวดตรงไหนแบบเรื้อรังก็ควรจะต้องใส่ใจ เพราะบางที แค่แก้จุดนั้นได้ สิวอาจจะหายไปด้วยก็ได้ค่ะ
อย่างโรคที่บีมอยากจะให้ลองศึกษากันเพิ่มเติมคือ ไส้รั่ว หรือ Leaky Gut Syndrome ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการกินเป็นหลัก ไส้รั่วทำให้พิษจากลำไ้ส้เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายมาก และข้อที่บีมสังเกตได้คือ คนที่ปฏิบัิติตามแนวสุขภาพทุกอย่างแล้ว ในระยะเวลาอย่างน้อย 2 เดือน แล้วยังไม่ดีขึ้น ให้สันนิษฐานว่าตัวเองอาจจะมีตำแหน่งไส้รั่ว แต่ไม่การันตีนะคะว่าทุกคนจะเป็น เพียงแค่สันนิษฐานเท่านั้น
ลักษณะอาการคือ ถ้าทานเฉพาะผักผลไม้สด สิวจะดีขึ้นมากมาย แต่ถ้าเมื่อไหร่เริ่มกินอาหารปกติ สิวมักจะขึ้นเยอะเหมือนกัน แต่จะไม่อักเสบ
ลองสังเกตดูนะคะ ^^
ความคิดเห็น