เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับวิตามิน A
เรื่องนี้บางคนอาจจะรู้แล้วนะคะ แต่อีกหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ
เป็นเรื่องของวิตามินเอค่ะ เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่รู้ไว้ก็มีประโยชน์
วิตามินเอมี 2 รูปแบบคือ
ส่วนวิตามินเอในรูปครีมทาผิวสำหรับรักษาสิวคือ กรดวิตามินเอ หรือ RetinA ค่ะ ตัวนี้ประเทศไทยประกาศคุมเป็นยาอันตรายไม่สามารถซื้อขายกันแบบอาหารเสริมทั่วไปได้
ซึ่งวิตามินเอ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ต้องการทั้งไขมันและแร่ธาตุในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และสามารถสะสมในร่างกายที่เนื้อเยื่อไขมันได้
คำว่า "สะสม" จะอันตรายก็ต่อเมื่อ ร่างกายมีสารอาหารตัวนี้ในเนื้อเยื่อไขมันมากจนเกินไป อันเกิดจากการรับเข้าไป แต่ร่างกายนำมาใช้ไม่หมด จึงเป็นสารตกค้างในเซลล์
และอะไรที่เป็นส่วนเกิน (excess) ร่างกายก็มักจะเห็นว่าแปลกปลอม และถ้าหากสารนี้ได้ไปถึงตับ ตับจะเปลี่ยนรูปสารส่วนเกินให้เป็นอนุมูลอิสระ ซึ่งถ้าหากเราไม่ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอ ร่างกายจะเสื่อมและอ่อนแอลงค่ะ
ความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินเอกับสิว
จาก http://www.internethealthlibrary.com/Health-problems/Acne%20-%20researchDiet&Lifestyle.htm
เค้ากล่าวไว้ดังนี้ค่ะ
Vitamin A is necessary for the maintenance of healthy skin and hormonal balance. Research has confirmed that people with severe acne typically have low levels of vitamin A in their blood.
แปล วิตามินเอเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการมีผิวสุขภาพดีและมีความสมดุลของฮอร์โมน งานวิจัย (ไม่รู้วิจัยไหนเหมือนกัน เค้าไม่ได้บอกค่ะ - บีม) ได้รับรองว่าคนที่มีปัญหาสิวมาก ๆ มักจะขาดวิตามินเอในเลือดของพวกเค้า
ซึ่งบีมแนะนำว่า ถ้าจะรับวิตามินเอ ให้รับจากแหล่งธรรมชาติดีกว่านะคะ แหล่งธรรมชาติมีดังนี้ค่ะ
ดังนั้น กินเข้าไปค่ะ ผักผลไม้ กินเข้าไปเยอะ ๆ กินแต่ของที่มีประโยชน์ ออกกำลัง (ก็ทำให้ครบองค์ประกอบสุขภาพนั่นล่ะค่ะ) ^^ ผักผลไม้มีกี่สี กินให้หลากหลายเข้าไว้ จะได้ไม่ขาดอะไรเลย อิอิ
ที่สำคัญกินผลไ้ม้ผักตามฤดูกาล นอกจากจะถูกแล้วยังได้คุณค่าอาหารเต็มที่จากมันด้วยค่ะ เพราะในฤดูกาลของมัน สภาพแวดล้อมทุกอย่างพอเหมาะแก่การเติบโตของมัน ทำให้ผักผลไม้ในฤดูกาลสมบูรณ์มากกว่านอกฤดูกาล แต่ถ้าฟาร์มบางแห่ง เค้ามีวิธีการดูแลผักผลไม้ที่ถูกต้องตลอดฤดูกาลก็คงรักษาคุณค่าอาหารไว้ให้เหมือนกัน ซึ่งบีมก็ไม่มีข้อมูลตรงนี้นะคะ เพียงแต่คาดเดาเอา ^^
แหล่งข้อมูล
เป็นเรื่องของวิตามินเอค่ะ เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่รู้ไว้ก็มีประโยชน์
วิตามินเอมี 2 รูปแบบคือ
- เรตินอล Retinol: วิตามินเอจริง ๆ ได้จากอาหารที่มาจากสัตว์
- คาโรทีน Carotene: โปรวิตามินเอ (คำว่าโปร แปลว่า ก่อน ถ้าีบีมจำไม่ผิด เป็นพวกรากศัพท์ภาษาอังกฤษเค้าน่ะค่ะ) ดังนั้น ตัวนี้มันยังไ่ม่ใช่่วิตามิน แต่มันจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ในร่างกายมนุษย์ ตัวนี้พบได้ในอาหารทั้งที่มาจากพืชและสัตว์ค่ะ
ส่วนวิตามินเอในรูปครีมทาผิวสำหรับรักษาสิวคือ กรดวิตามินเอ หรือ RetinA ค่ะ ตัวนี้ประเทศไทยประกาศคุมเป็นยาอันตรายไม่สามารถซื้อขายกันแบบอาหารเสริมทั่วไปได้
ซึ่งวิตามินเอ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ต้องการทั้งไขมันและแร่ธาตุในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และสามารถสะสมในร่างกายที่เนื้อเยื่อไขมันได้
คำว่า "สะสม" จะอันตรายก็ต่อเมื่อ ร่างกายมีสารอาหารตัวนี้ในเนื้อเยื่อไขมันมากจนเกินไป อันเกิดจากการรับเข้าไป แต่ร่างกายนำมาใช้ไม่หมด จึงเป็นสารตกค้างในเซลล์
และอะไรที่เป็นส่วนเกิน (excess) ร่างกายก็มักจะเห็นว่าแปลกปลอม และถ้าหากสารนี้ได้ไปถึงตับ ตับจะเปลี่ยนรูปสารส่วนเกินให้เป็นอนุมูลอิสระ ซึ่งถ้าหากเราไม่ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอ ร่างกายจะเสื่อมและอ่อนแอลงค่ะ
ความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินเอกับสิว
จาก http://www.internethealthlibrary.com/Health-problems/Acne%20-%20researchDiet&Lifestyle.htm
เค้ากล่าวไว้ดังนี้ค่ะ
Vitamin A is necessary for the maintenance of healthy skin and hormonal balance. Research has confirmed that people with severe acne typically have low levels of vitamin A in their blood.
แปล วิตามินเอเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการมีผิวสุขภาพดีและมีความสมดุลของฮอร์โมน งานวิจัย (ไม่รู้วิจัยไหนเหมือนกัน เค้าไม่ได้บอกค่ะ - บีม) ได้รับรองว่าคนที่มีปัญหาสิวมาก ๆ มักจะขาดวิตามินเอในเลือดของพวกเค้า
ซึ่งบีมแนะนำว่า ถ้าจะรับวิตามินเอ ให้รับจากแหล่งธรรมชาติดีกว่านะคะ แหล่งธรรมชาติมีดังนี้ค่ะ
- แครอท
- ผักใบเขียว เช่น บร็อคโคลี่ ผักโขม (คือพวกผักใบเขียวจัด ๆ ค่ะ)
- ผลไม้สีเหลืองหรือส้ม เช่น ลูกพีช แอปริคอท มะม่วง เป็นต้น
ดังนั้น กินเข้าไปค่ะ ผักผลไม้ กินเข้าไปเยอะ ๆ กินแต่ของที่มีประโยชน์ ออกกำลัง (ก็ทำให้ครบองค์ประกอบสุขภาพนั่นล่ะค่ะ) ^^ ผักผลไม้มีกี่สี กินให้หลากหลายเข้าไว้ จะได้ไม่ขาดอะไรเลย อิอิ
ที่สำคัญกินผลไ้ม้ผักตามฤดูกาล นอกจากจะถูกแล้วยังได้คุณค่าอาหารเต็มที่จากมันด้วยค่ะ เพราะในฤดูกาลของมัน สภาพแวดล้อมทุกอย่างพอเหมาะแก่การเติบโตของมัน ทำให้ผักผลไม้ในฤดูกาลสมบูรณ์มากกว่านอกฤดูกาล แต่ถ้าฟาร์มบางแห่ง เค้ามีวิธีการดูแลผักผลไม้ที่ถูกต้องตลอดฤดูกาลก็คงรักษาคุณค่าอาหารไว้ให้เหมือนกัน ซึ่งบีมก็ไม่มีข้อมูลตรงนี้นะคะ เพียงแต่คาดเดาเอา ^^
แหล่งข้อมูล
- วิตามินและโภชนบำบัด ศาสตร์มหัศจรรย์ชะลอความชรา โดยเภสัชกรวิโรจน์ สุ่มใหญ่
- Vitamin A & Acne, Acne Research Diet & Lifestyle
ความคิดเห็น