ถามตอบ: หากจะใช้วิธีธรรมชาติ ควรหยุดใช้ยารักษาสิวเลยมั้ย?
เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนอาจจะมีนะคะ เพราะหลายคนก็หาหมออยู่ หรือใช้ยาหมออยู่ แต่ก็อาจจะเบื่อ และอยากจะมาลองใช้วิธีธรรมชาติดูบ้าง
มีน้องที่ www.acnethai.com ถามในกระทู้หัวข้อ เกี่ยวกับการหยุดใช้ยารักษาสิวและรอยสิว บีมเห็นเป็นคำถามที่น่าสนใจ ก็เลยขอคัดลอกคำถามและคำตอบที่บีมตอบมาที่นี่นะคะ
และนี่เป็นคำตอบที่บีมตอบไปค่ะ
มีน้องที่ www.acnethai.com ถามในกระทู้หัวข้อ เกี่ยวกับการหยุดใช้ยารักษาสิวและรอยสิว บีมเห็นเป็นคำถามที่น่าสนใจ ก็เลยขอคัดลอกคำถามและคำตอบที่บีมตอบมาที่นี่นะคะ
คือว่าตอนนี้รักษาสิวหายแล้วค่ะแต่คุณหมอก็ให้ยารักษาสิวควบคู่กับยารักษา รอยสิว ใช้มาได้หลายเดือนแล้วค่ะทีนี้อยากจะหยุดใช้ยารักษาสิวและรอยสิว จะกลับมาใช้ครีมโอเลย์เหมือนเดิมอยากจะถามว่าเราจะต้องพักหน้ากี่วันค่ะถึง จะกลับมาใช้ครีมได้ปกติแล้วโอกาสที่เราจะแพ้ครีมตัวเดิมมีหรือเปล่าค่ะ
และนี่เป็นคำตอบที่บีมตอบไปค่ะ
โพสต์#1 หน้าที่ผ่านการแพ้ เป็นสิว ทายารักษาสิว ผิวจะอ่อนแอลงค่ะ
โอกาสแพ้จะมีมากขึ้น ไม่เฉพาะกับตัวที่เคยแพ้เท่านั้น อาจจะขยายไปยังตัวอื่นได้อีก
และ ยิ่งถ้าหากการรักษาสิวนั้นกินยาปฏิชีวนะด้วย ก็จะยิ่งทำให้โอกาสเป็นสิวหลังจากหยุดรักษามีมากขึ้นค่ะ เพราะระบบภูมิคุ้มกัน ฆ่าเืชื้อโรคอ่อนแอลง
เราแนะนำให้พอกน้ำนมบัวหิมะค่ะ และทานด้วย
และที่สำคัญ ถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารและการใช้ชีวิตได้ ผิวจะแข็งแรงได้ค่ะ ไม่แพ้อะไรง่าย ๆ และอาจไม่แพ้เลย
เราเคยเป็นแบบแพ้ทุกอย่างมาก่อน แพ้แดด แพ้เครื่องสำอางค์
แต่ ตอนนี้ เจอแดดก็ไม่ดำง่ายค่ะ และก็ไม่ใ้้ช้อะไรนอกจากสบู่อ่อนๆ และบัวหิมะ ซึ่งเราคิดว่า จากประสบการณ์เป็นสิวและใช้เครื่องสำอางค์มา 10 กว่าปี ขอบอกว่า บัวหิมะคือสุดยอดแล้วค่ะ
โพสต์#2 อ้อ ต้องบอกนิดนึงนะคะว่า ถ้าหากใครที่ทาหน้าแค่อย่างเดียว ไม่น่าจะเห็นผลค่ะ
เพราะคุณแม่ของเราเคยทาหน้าอย่างเดียว เพราะรู้สึกว่าท่านจะไม่ชอบรสชาตินะคะ
ท่านบอกว่าไม่ได้ผล
แต่ สำหรับเรา ซึ่งได้บำบัดตัวเองแนวธรรมชาติมา 2 เดือนแล้ว และบัวหิมะนี้ ก็ถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะสำหรับหน้าใสแบบรักษาด้วยตัวเอง ถ้าหากทำได้ก็คือได้เลย ถ้าไม่ได้ก็คงจะต้องดูวิธีอื่นต่อไป
แต่มั่นใจว่าได้นะคะ ยังไงก็ขอรอดู 1 สัปดาห์ก่อนก็แล้วกันค่ะ นี่พึ่งวันแรกเอง
โพสต์#3 บีมได้ข้อมูลมาอัพเดทเ่ช่นกันค่ะว่า
การที่ใช้ยามาแล้วหยุดเลยอาจทำให้มีปัญหา เพราะร่างกายเคยได้รับยาและพึ่งพายา ถ้าหยุดเลยอาจจะแย่ได้
ทางที่ดีต้องค่อย ๆ ปรับไปค่ะ
สามารถทำควบคู่ไปกับวิธีธรรมชาติบำบัดได้ค่ะ
พอร่างกายแข็งแรงขึ้นแ้ล้ว ค่อยหยุดค่ะ
โพสต์#4 ใช่แล้วค่ะ คุณ oArGonZo
เวลาใช้ยา เหมือนกับพ่อแม่ที่ประคบประหงมลูกน่ะค่ะ
ถ้าเปรียบว่าร่างกายเราเป็นลูก แล้วเราเป็นพ่อแม่ที่ดูแลเนี่ย
เวลา ที่เราใช้ยากับร่างกาย เหมือนกับ ไม่เคยปล่อยให้ลูกได้ต่อสู้อะไรด้วยตัวเองค่ะ ให้ลูกใส่นวมหนา ๆ ตลอดเวลา เค้าจะไ่ม่ยอมโต ไม่แข็งแรง อะไร ๆ ก็ต้องใช้ยา (ใส่เกราะนวมตลอดเวลา)
พอไม่มียา เค้าจะไม่มีภูมิคุ้มกันตัวเอง และอาจจะเป็นโรคมากกว่าเดิม หรือแ่ย่กว่าเดิม
เพราะเืชื้อโรคเท่าเดิม หรือมากกขึ้น แต่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงพอจะต้านทานเพราะปกติิมีตัวช่วย
ใคร ขับรถที่มีเกียร์ธรรมดาเป็น การที่จะทำให้ไม่เกิดปฎิกิริยาต่อร่างกายหลังจากใช้ยามากนักคือ การรู้จักรักษาความสมดุลระหว่างการปล่อยคาร์ตและเร่งความเร็วค่ะ
การเร่งความเร็วก็ืคือ การหยุดใช้ยา หรือ การสร้างภูมิต้านทานร่างกาย หรือการใช้วิธีการใหม่รักษาสิว
ส่วนการปล่อยคาร์ตก็คือ การหยุดยาตัวเก่า
ซึ่งถ้าหากทำให้สมดุล รถจะวิ่งต่อไปโดยไม่มีปัญหาใด ๆ ค่ะ
พอเห็นภาพมั้ยคะ
ความคิดเห็น