เรื่องราวของบัวหิมะ (ซึ่งบีมกำลังจะทดลองในไม่ช้าค่ะ)

จากที่น้อง Vorakorn ได้สอบถามเรื่องบัวหิมะมา ว่าบีมเคยใช้มั้ย?

ตรงนั้น เ็ป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บีมค้นหาข้อมูลต่อค่ะ ว่าเจ้านี่มันคืออะไร

จุดเริ่มต้นอยู่ที่เว็บนี้ค่ะ http://kefirthailand.exteen.com/

พอเ้ข้าไปดู ไปอ่านคอมเม้นท์ค่ะ ก็คิดว่า "อืม....น่าสนใจดีจัง" เพราะมันเข้า concept บีมพอดีว่า ต้องใช้หลักธรรรมชาติ

ใครที่ยังไม่เคยรู้จัก Kefir หรือบัวหิมะ บีมเล่าให้ฟังคร่าว ๆ นะคะ (แต่บีมว่า บีมรู้เรื่องนี้ช้ากว่าคนอื่นหลายขุม อิอิ)

บัวหิมะนี้เป็นเชื้อประเภทเดียวกับเห็ดหรือยีสต์ค่ะ ซึ่งคนตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เค้าจะเอามาหมักนมแล้วดื่ม เพราะจะเป็นการเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีให้กับร่างกาย

โดยปกติแล้ว จากข้อมูลในหนังสือ "ธรรมชาติช่วยชีวิต" โดย Dr. Tom Wu ผู้ใช้น้ำปั่นผักผลไม้สด ปั่นละเอียดด้วยเครื่องปั่น 3 แรงม้าขึ้นไป รักษาตัวเองจนหายขาด ได้บอกว่า ในลำไส้ของคนเรามีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ทั้งดีและไม่ดีอยู่ปนกันค่ะ ซึ่งน้ำหนักโดยรวมของพวกมันทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 - 2 กก.

เยอะมากนะคะนั่น

ซึ่งคนที่เป็นสิว หรือเป็นโรคเรื้อรัง จะมีเชื้อโรคหรือจุลินทรีย์ไม่ดีมากกว่าตัวที่ดีค่ะ ใครยิ่งเป็นสิวรุนแรง ก็น่าจะมีจุลินทรีย์ตัวไม่ดีครอบครองร่างกายมากเ่ท่านั้นค่ะ เพราะระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเหลือเกิน

ดังนั้น ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยนะคะ ข้อมูลจากต่างประเทศ ก็มีการบริโภค Kefir หรือบัวหิมะกันในหมู่ผู้ดูแลสุขภาพแนวธรรมชาติค่ะ เื่พื่อให้การขับถ่ายดี และเมื่อขับถ่ายดี ของเสียจะไม่หมักหมม ลำไส้ไม่อักเสบและสมานดีแล้ว สุขภาพก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

และบีมก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปถาม Seppo ใน Clear Space ค่ะ ว่า Kefir เรากินได้มั้ย? มันหมักกับนม แล้วเราจะแพ้รึเปล่า

Seppo ตอบมาว่า Kefir นั้นเมื่อหมักกับนมแล้ว ทำให้โมเลกุลในนมเปลี่ยนไปค่ะ พวกที่ทำให้อักเสบก็จะไม่มี ซึ่งมันจะช่วยเรื่องลำไส้ด้วย คือ จะกิน Kefir ก็ได้หรือ จะกินผักผลไม้ปริมาณมากก็ได้ค่ะ ก็ช่วยลำไส้ได้เหมือนกัน

ซึ่งบีมมาคิดดูด้วยตรรกะของบีมแล้ว การกิน Kefir เข้าไปนั้น น่าจะทำให้เห็นผลเร็วกว่า ที่ให้ผลเร็วกว่าเพราะเป็นการเพิ่มจุลินทรีย์โดยตรงค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณสารพิษและปริมาณเชื้อโรคในร่างกายด้วยว่ามากน้อยเพียงใดนะคะ โดยที่การทำงานจะเข้าไปช่วยที่ลำไส้เป็นหลัก และพอลำไส้ดีแล้ว ระบบต่าง ๆ ของร่างกายจะเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ แต่ว่า จะไม่ได้รับสารอินทรีย์จากพืชผักผลไม้ วิตามิน และแร่ธาตุค่ะ

แต่การกินผักผลไม้ปริมาณมากค่ะนั้น ที่ทำให้ลำไส้ดีขึ้นได้ ก็เพราะ ใยอาหารจะย่อยกวาดเอาของบูดเน่าออกไป เชื้อโรคไม่ดีไม่มีอาหาร ก็ตายลง เชื้อที่ดีก็เพิ่มจำนวนได้ และช่วยซ่อมแซมลำไส้ด้วย และนอกจากนี้ การกินผัักผลไม้สดปั่นนั้น ยังทำให้ร่างกายได้รับสารอินทรีย์จากพืช วิตามิน และแร่ธาตุที่ "จำเป็น" ต่อการทำงานของร่างกายที่สมบูรณ์

ดังนั้น บีมว่า กินในช่วงเวลารักษาสิวพร้อมกันเลยก็ได้ค่ะ ก็ให้ดื่มนมหมักจากบัวหิมะตอนท้องว่าง (คุณกานต์พิชา แนะนำให้เป็นก่อนนอนค่ะ) คือไม่กินพร้อมกับน้ำปั่นผักผลไม้ค่ะ

ซึ่งเพื่อน ๆ ที่เป็นสิว หากทำได้ถึงขั้นสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงแล้ว อย่างไรก็ต้องอาการดีขึ้นแน่นอนค่ะ และบีมเชื่อว่า อย่างไรก็ต้องหายขาด เพราะสาเหตุของสิวมาจากภายในค่ะ ถ้าภายในเราดี ภายนอกก็ต้องดีด้วยค่ะ

บีมได้ทำการสั่งบัวหิมะจากคุณ กานต์พิชาค่ะ เพราะเธออยู่ที่เชียงใหม่นี่เอง ตัวกลางแจกจ่ายมีหลายที่นะคะ ลองเข้าไปดูในเว็บที่ให้ไว้ข้างต้นค่ะ

คุณกานต์พิชา ก็มีบล็อกของเธอเองนะคะ ซึ่งมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัวหิมะ และประสบการณ์ของเธอด้วยค่ะ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=alliaskofyou&group=2

เธอนิสัยดีค่ะ บีมสั่งของไป ไม่ทันไรเธอก็ตอบกลับมา แล้วตอบทุกฉบับที่ส่งไปด้วยค่ะ ดูจากในบล็อกแล้ว ก็ดูเป็นคนนิสัยดี อ่อนโยนด้วย (แอบประทับใจ)

นอกจากเชื้อที่รับประทานแล้ว บีมจะสั่งตัวที่เอาไว้สำหรับพอกหน้าและพอกตัวค่ะ จริง ๆ แล้วใครจะเพาะเอง รอจนขยายพันธุ์แล้วเอามาพอกก็ได้ค่ะ แต่บีมเห็นว่า มันต้องใช้เวลา กลัวตัวเองทนไม่ไหวค่ะ เอามาพอกก่อนเวลาอันควร อะอะ

ขวดนึงก็ 50 บาทเองค่ะ รวมค่าส่งก็ 50 บาท เป็นทั้งหมด 100 บาท

แต่พอดีว่า ยังไงก็ส่งตัวกินไปแล้ว ก็สั่งมาพร้อมกันเลยละกัน

ที่สั่งมานี้เพราะ บีมอยากให้ระบบขับถ่าย ถ่ายได้ 3 ครั้งต่อวันค่ะ และเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีให้กับร่างกาย เพราะบีมรู้ว่า ลำไส้บีมมีปัญหาเยอะค่ะ ตั้งแต่เด็ก ๆ ละ พึ่งจะจำได้ว่าลำไส้อักเสบรุนแรงตอนประถม และก็เป็นเกี่ยวกับกระเพาะและลำไส้มาเรื่อย ๆ ค่ะ ก็พึ่งจะหายนี่แหละ (ต้องขอบคุณธรรมชาติเหมือนกัน)

เรื่องสิว จำได้ใช่มั้ยคะที่บีมเขียนไปว่ามันขึ้นเหมือนถอนพิษ ตอนนี้มันยุบไปมากแล้วล่ะค่ะ ก็จะเหลือเป็นรอย และอุดตันเล็กน้อย หน้าผากไม่มีแล้ว ข้างขมับหายไปเยอะมาก ข้างหูไม่มีแล้ว ใต้คางไม่มี เหลือแค่แผลกับสิวอุดตันตรงกรามค่ะ (ที่ยุบไปได้มาก เพราะเมื่อวาน บีมทำดีท็อกซ์เอาพิษจากของที่กินเมื่อตอนไปเที่ยวมาเลย์ออกค่ะ เมื่อวานไม่ได้กินข้าวเลย ไม่อยากจริง ๆ และก็ดื่มแต่น้ำปั่นผักผลไม้ทั้งวัน ซึ่งก็ไม่หิวอะไร มีแรง นอนหลับดี แม้จะต้องตื่นมากลางดึกเช่นเคยค่ะ วันนี้ก็ไม่ง่วง)

ซึ่งที่ยังไม่ลงรูป เพราะบีมอยากให้เพื่อน ๆ เห็นขั้นตอนสุดท้ายเลยมากกว่า มัน amazing กว่าค่ะ

แต่บีมก็ถ่ายรูปเอาไว้เรื่อย ๆ นะคะ เพียงแต่ว่า อยากให้รูปที่จะโพสต์ครั้งต่อไป เพื่อน ๆ เห็นว่า "โอ้...เธอทำได้"

อิอิ

เอาแบบนั้นละกันนะคะ

ขอให้สุขภาพดี สิวหายในที่สุดค่ะ :)

ความคิดเห็น