มะระ กับ การรักษาการอักเสบภายใน
ช่วงนี้บีมขออนุญาตเอาเวลาไปทุ่มสรรพกำลังแปลหนังสือของ Seppo นะคะ อาจจะมาอัพบล็อกไม่ถี่เหมือนเดิม
แต่ให้ตายเถอะ บางทีเจอข้อมูลดี ๆ ก็อดจะมาเปิดบล็อกและเขียนไม่ได้่ค่ะ มันใจรักการเีขียนน่ะนะคะ บางที็ก็หักห้ามใจที่จะไม่เขียนไม่ได้จริง ๆ :-)
สิ่งที่อยากเอามาแบ่งปันกันวันนี้ คิดว่า คงจะมีประโยชน์ไม่แพ้อย่างอื่นที่เคยนำมารายงานให้ทราบกัน
อย่างแรกขอนำเสนอเรื่อง มะระกับการรักษาสิว
บีมได้ข้อมูลภาษาไทยจาก google นะคะ ค้นหาคำว่า มะระ กับ สิว เพราะคุณแ่ม่ได้ข้อมูลนี้มาจากเพื่อนที่เ็ป็นสิวค่ะ ว่ากินมะระคั้นสด 7 วันแล้วสิวหาย เพื่อนคุณแม่ก็ทดลองกินอยู่
วันนี้เค้ามาส่งหลานเรียนพิเศษกับบีมที่บ้านบีมค่ะ โอ้...หน้าเค้าดีขึ้นจริงๆนะคะ เพราะแต่ก่อนนี้จะมีจุด ๆ เต็มเลย แต่วันนี้ บีมรู้สึกว่าหน้าเค้าดีขึ้นมาก ๆ เค้าบอกว่า นี่ก็กินได้ 1 อาทิตย์ แต่เพราะไม่ค่อยได้พักด้วย ขึ้นเท่าที่เห็นก็ถือว่าพอใจมากมาย
ส่วนตัวบีม คุณแม่ไปหามะระมาให้เมื่อวานเลยค่ะ แถมคั้นให้อีกตังหาก คุณแม่กลัวจะขม เลยใส่เกลือลงไป เราบอกว่า ไม่ต้องหรอก เพราะดีเกลือมันโคตรขม ยังกินได้เลย แต่เค้าก็ไม่ยอมค่ะ ก็แอบใส่ 55+
ก็ได้น้ำมะระสีเขียวสดน่ากินเชียวค่ะ รสชาติออกขมๆเค็มๆ เพราะใส่เกลือ แถมระหว่างวัน บีมก็กินมะระต้มกับน้ำของมันไปด้วย ส่วนกับข้าวก็กินปกตินะคะ เพียงแต่จะกินในช่วง 8 โมงถึงบ่ายสาม (แอบเอาสูตรคุณอลิศมาอีกแล้วค่ะ)
อ้อ ต้องบอกว่า ที่บีมมากินอาหารปกติได้แล้ว เพราะร่างกายบีมเริ่มเข้าสู่สภาวะสมดุลแล้วค่ะ มีเพียงแค่ปัจจัยการนอนดึกและฮอร์โมนเท่านั้นที่ยังคงทำให้มีสิวอยู่บ้างเ้ล็กน้อยแต่อยู่ในสภาวะที่เรียกว่า "ควบคุมไ้ด้" คือ ตอนนี้ถ้าแค่บีมได้นอนเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ต้องตื่นมาดูแลยายเกือบทุกชั่วโมงตอนช่วงกลางคืน บีมรู้เลยว่า No สิว ชัวร์ ๆ เพราะนี่ขนาดอดนอน สิวยังขึ้นแบบควบคุมได้เลยค่ะ
เดี๋ยวเรื่องอาหารปกติ บีมค่อยแยกไปอีก post นะคะ ตอนนี้ขอพูดมะระก่อน
เมื่อวานกินทั้งน้ำคั้นสด และมะระต้ม รวมถึงน้ำต้มของมันแบบไม่ปรุงแต่งอะไรเลย คือตอนนี้ถ้าเ็ป็นของที่บีมทำกินเอง จะไม่ปรุงอะไรเลยค่ะ มากสุดก็แค่ซีอิ้ว กับมะนาว บีมจะบอกที่บ้านเลยว่า ไม่ให้ใส่ผงชูรสและไม่ให้ทำเผ็ด ๆ
ส่วนเช้านี้ บีมตื่นมาแบบหงุดหงิดค่ะ เพราะมันไม่ได้นอน ยายบีมตื่น ทุกๆ 1.5 ชั่วโมงและเค้าจะปลุกเรา เรียกเราด้วย เพราะเค้าขยับตัวพลิกเองไม่ได้ เราก็สงสารยายเรานะ ก็ต้องตื่น (แต่ก็แอบสงสารตัวเอง อะอะ)
ก็เลยเริ่มทำการชะล้างพิษซะเลย โดยการดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น 1 แก้วใหญ่ (มะนาวลูกเล็ก คั้นมันซะหมดลูก) ตามด้วยน้ำ รวมทั้งหมดนั้นก็ 1 ลิตรไปเลย แต่ไม่ใช่ทีเดียวนะคะ เอาว่าเราัยัดไหวแค่ไหนก็แค่นั้น ทยอยดื่มจนหมด 1 ลิตร ยังไม่พอ มาหั่นมะระแล้วปั่นสด ตอนแรกกินฟองกับเนื้อมันด้วย แต่ตอนหลังคั้นเอาแต่น้ำก็พอ
ผลก็คือ
คนจีนเอง ก็มีเมนูมะระเพื่อรักษาคนเป็นสิวด้วยเช่นกัน (ลอง google ดูนะคะ)
ซึ่ง Seppo ได้กล่าวไว้ว่า ระดับน้ำตาลในเลือดและการอักเสบเรื้อรังนั้น เป็นปัจจัยที่แยกจากกันไม่ได้และส่งเสริมการทำงานของกันและกัน
ดังนั้น จากตรงนี้ สามารถสันนิษฐานได้ว่า ที่คนเป็นสิว กินมะระสดแล้ว (น้ำคั้น) แล้วหายได้นั้น เป็นเพราะ มันช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบภายใน (ที่เรามองไม่เห็น แต่มันมีอยู่ และเป็นการอักเสบเรื้อรัง)
ดังนั้น การจะลดปัจจัยภายในที่เป็นสาเหตุแห่งสิว นอกจากปัจจัยแห่งสุขภาพทั้ง 6 อย่าง (น.ส. 4 อ.) แล้ว บีมคิดว่า ความโชคดีที่เกิดมาในแผ่นดินซีกโลกตะวันออกและแผ่นดินไทย คือ เรามีสมุนไพรต้านการอักเสบภายในเยอะแยะเลย
ตอนนี้ บีมทดลองมะระ และบีมคิดว่ามีอีกหลายคนที่ทดลองกินมะระ แล้วเห็นผล ใครที่เป็นสิวน้อยและไ่ม่นาน และไม่ได้รับสารเคมีไม่ว่าจะจากยาหรืออะไรก็ตามนาน ๆ บีมคิดว่าการหายภายใน 7 วัน ก็ไม่น่าจะเป็นคำพูดที่เกินจริง
เพราะไม่ว่าจะค่ายสุขภาพของหมอเขียวหรือ ดร.สาทิส ผู้ที่เข้าโปรแกรม ก็ใช้เวลาประมาณนี้ในการปรับตัวเองให้เข้าสู่หลักธรรมชาติ ซึ่งผลก็ออกมาน่าพอใจและวัดได้กันเป็นเปอร์เซ็นต์สูง
แต่สำหรับคนเป็นสิวมานาน บีมอยากให้ทำใจเผื่อช่วงเวลาแห่งการ "ล้างพิษโดยธรรมชาติของร่างกาย" คุณอาจจะต้องใช้เวลายาวนานกว่าคนอื่น และแม้จะมีผิวที่ดีแล้ว แต่สารพิษที่เคยสะสมในเนื้อเยื่ออันซับซ้อนของเรานั้น อาจจะถูกขับออกมาอีก และอาจมีสิวอีก แต่ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เพราะมันจะหายไปเอง
ให้เข้าใจว่า นั่นเป็นกระบวนการ "ที่ร่างกายรักษาบำบัดตัวเอง" เหมือนกับเวลาที่เราทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ๆ มีหลายห้อง
บางทีเราคิดว่าเราทำสะอาดหมดแล้ว
แต่มันก็ยังเหลือบางซอกบางมุม และวันไหนที่เราไปเจอ มันก็ต้องกวาดฝุ่นออกมา แต่ในที่สุดมันก็จะไปเอง
สิ่งที่จะได้มากกว่าเรื่องสิว คือ "ทุกอย่าง" และ "พลังชีิวิต" จะกลับคืนมาหาเราอีกครั้งค่ะ
จำช่วงวัยเด็กได้มั้ยคะ ที่เราเคยวิ่งเล่นและหัวเราะไ่ม่หยุดหย่อน
หากเราดูแลร่างกายได้ถูกต้อง เราจะมีพลังแบบนั้นกลับคืนมาอีก และสิวก็จะเป็นแค่อดีตของเราก็แค่นั้นเองค่ะ มาเมื่อไหร่ก็จัดการได้เสมอ
บีมเคยบอกเพื่อน ๆ ใช่มั้ยคะว่า สิวที่กรามบีมหายยาก
ตอนแรกบีมคิดว่าจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ แต่ตอนนี้ หลังจากที่บีมไม่ไปยุ่งวุ่นวายแกะหรือบีบมัน แล้วเอาว่านหางโปะเข้าไป ตรงไหนเม็ดใหญ่หน่อยเอาน้ำอุ่นละลายเกลือใส่ และทำกิจวัตรประจำวันเหมือนกับที่ได้เขียนเอาไว้ให้เพื่อน ๆ ดู
บีมมั่นใจค่ะว่า ไม่น่าจะเกิน 1 เดือนนับจากนี้ บีมจะต้องมีรูปถ่ายด้านข้างที่น่าภาคภูมิใจกับผลงานแห่งความพยายามและความอดทนมาอวดเพื่อน ๆ ได้แน่นอน (ถ้าบีมพอจะได้มีเวลานอนปกติเหมือนชาวบ้านเค้านะคะ อะอะ)
แต่ให้ตายเถอะ บางทีเจอข้อมูลดี ๆ ก็อดจะมาเปิดบล็อกและเขียนไม่ได้่ค่ะ มันใจรักการเีขียนน่ะนะคะ บางที็ก็หักห้ามใจที่จะไม่เขียนไม่ได้จริง ๆ :-)
สิ่งที่อยากเอามาแบ่งปันกันวันนี้ คิดว่า คงจะมีประโยชน์ไม่แพ้อย่างอื่นที่เคยนำมารายงานให้ทราบกัน
อย่างแรกขอนำเสนอเรื่อง มะระกับการรักษาสิว
บีมได้ข้อมูลภาษาไทยจาก google นะคะ ค้นหาคำว่า มะระ กับ สิว เพราะคุณแ่ม่ได้ข้อมูลนี้มาจากเพื่อนที่เ็ป็นสิวค่ะ ว่ากินมะระคั้นสด 7 วันแล้วสิวหาย เพื่อนคุณแม่ก็ทดลองกินอยู่
วันนี้เค้ามาส่งหลานเรียนพิเศษกับบีมที่บ้านบีมค่ะ โอ้...หน้าเค้าดีขึ้นจริงๆนะคะ เพราะแต่ก่อนนี้จะมีจุด ๆ เต็มเลย แต่วันนี้ บีมรู้สึกว่าหน้าเค้าดีขึ้นมาก ๆ เค้าบอกว่า นี่ก็กินได้ 1 อาทิตย์ แต่เพราะไม่ค่อยได้พักด้วย ขึ้นเท่าที่เห็นก็ถือว่าพอใจมากมาย
ส่วนตัวบีม คุณแม่ไปหามะระมาให้เมื่อวานเลยค่ะ แถมคั้นให้อีกตังหาก คุณแม่กลัวจะขม เลยใส่เกลือลงไป เราบอกว่า ไม่ต้องหรอก เพราะดีเกลือมันโคตรขม ยังกินได้เลย แต่เค้าก็ไม่ยอมค่ะ ก็แอบใส่ 55+
ก็ได้น้ำมะระสีเขียวสดน่ากินเชียวค่ะ รสชาติออกขมๆเค็มๆ เพราะใส่เกลือ แถมระหว่างวัน บีมก็กินมะระต้มกับน้ำของมันไปด้วย ส่วนกับข้าวก็กินปกตินะคะ เพียงแต่จะกินในช่วง 8 โมงถึงบ่ายสาม (แอบเอาสูตรคุณอลิศมาอีกแล้วค่ะ)
อ้อ ต้องบอกว่า ที่บีมมากินอาหารปกติได้แล้ว เพราะร่างกายบีมเริ่มเข้าสู่สภาวะสมดุลแล้วค่ะ มีเพียงแค่ปัจจัยการนอนดึกและฮอร์โมนเท่านั้นที่ยังคงทำให้มีสิวอยู่บ้างเ้ล็กน้อยแต่อยู่ในสภาวะที่เรียกว่า "ควบคุมไ้ด้" คือ ตอนนี้ถ้าแค่บีมได้นอนเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ต้องตื่นมาดูแลยายเกือบทุกชั่วโมงตอนช่วงกลางคืน บีมรู้เลยว่า No สิว ชัวร์ ๆ เพราะนี่ขนาดอดนอน สิวยังขึ้นแบบควบคุมได้เลยค่ะ
เดี๋ยวเรื่องอาหารปกติ บีมค่อยแยกไปอีก post นะคะ ตอนนี้ขอพูดมะระก่อน
เมื่อวานกินทั้งน้ำคั้นสด และมะระต้ม รวมถึงน้ำต้มของมันแบบไม่ปรุงแต่งอะไรเลย คือตอนนี้ถ้าเ็ป็นของที่บีมทำกินเอง จะไม่ปรุงอะไรเลยค่ะ มากสุดก็แค่ซีอิ้ว กับมะนาว บีมจะบอกที่บ้านเลยว่า ไม่ให้ใส่ผงชูรสและไม่ให้ทำเผ็ด ๆ
ส่วนเช้านี้ บีมตื่นมาแบบหงุดหงิดค่ะ เพราะมันไม่ได้นอน ยายบีมตื่น ทุกๆ 1.5 ชั่วโมงและเค้าจะปลุกเรา เรียกเราด้วย เพราะเค้าขยับตัวพลิกเองไม่ได้ เราก็สงสารยายเรานะ ก็ต้องตื่น (แต่ก็แอบสงสารตัวเอง อะอะ)
ก็เลยเริ่มทำการชะล้างพิษซะเลย โดยการดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น 1 แก้วใหญ่ (มะนาวลูกเล็ก คั้นมันซะหมดลูก) ตามด้วยน้ำ รวมทั้งหมดนั้นก็ 1 ลิตรไปเลย แต่ไม่ใช่ทีเดียวนะคะ เอาว่าเราัยัดไหวแค่ไหนก็แค่นั้น ทยอยดื่มจนหมด 1 ลิตร ยังไม่พอ มาหั่นมะระแล้วปั่นสด ตอนแรกกินฟองกับเนื้อมันด้วย แต่ตอนหลังคั้นเอาแต่น้ำก็พอ
ผลก็คือ
- เข้าห้องน้ำทั้งวันค่ะ สงสัยจะเป็นที่มะระ เพราะกินทั้งลูกเลย อะอะ ประหนึ่งตอนกินดีเกลือเลยค่ะ ก็ดีลำไส้โล่งล่ะมั้ง
- ทั้งที่เหมือนจะเป็นหวัดตอนเช้า แต่กลับไม่เป็นค่ะ
- สิว ไม่มีสิวอักเสบรุนแรงขึ้นค่ะ แม้ว่าจะนอนดึก (แทบไม่ได้นอนก็เถอะ)
คนจีนเอง ก็มีเมนูมะระเพื่อรักษาคนเป็นสิวด้วยเช่นกัน (ลอง google ดูนะคะ)
ซึ่ง Seppo ได้กล่าวไว้ว่า ระดับน้ำตาลในเลือดและการอักเสบเรื้อรังนั้น เป็นปัจจัยที่แยกจากกันไม่ได้และส่งเสริมการทำงานของกันและกัน
ดังนั้น จากตรงนี้ สามารถสันนิษฐานได้ว่า ที่คนเป็นสิว กินมะระสดแล้ว (น้ำคั้น) แล้วหายได้นั้น เป็นเพราะ มันช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบภายใน (ที่เรามองไม่เห็น แต่มันมีอยู่ และเป็นการอักเสบเรื้อรัง)
ดังนั้น การจะลดปัจจัยภายในที่เป็นสาเหตุแห่งสิว นอกจากปัจจัยแห่งสุขภาพทั้ง 6 อย่าง (น.ส. 4 อ.) แล้ว บีมคิดว่า ความโชคดีที่เกิดมาในแผ่นดินซีกโลกตะวันออกและแผ่นดินไทย คือ เรามีสมุนไพรต้านการอักเสบภายในเยอะแยะเลย
ตอนนี้ บีมทดลองมะระ และบีมคิดว่ามีอีกหลายคนที่ทดลองกินมะระ แล้วเห็นผล ใครที่เป็นสิวน้อยและไ่ม่นาน และไม่ได้รับสารเคมีไม่ว่าจะจากยาหรืออะไรก็ตามนาน ๆ บีมคิดว่าการหายภายใน 7 วัน ก็ไม่น่าจะเป็นคำพูดที่เกินจริง
เพราะไม่ว่าจะค่ายสุขภาพของหมอเขียวหรือ ดร.สาทิส ผู้ที่เข้าโปรแกรม ก็ใช้เวลาประมาณนี้ในการปรับตัวเองให้เข้าสู่หลักธรรมชาติ ซึ่งผลก็ออกมาน่าพอใจและวัดได้กันเป็นเปอร์เซ็นต์สูง
แต่สำหรับคนเป็นสิวมานาน บีมอยากให้ทำใจเผื่อช่วงเวลาแห่งการ "ล้างพิษโดยธรรมชาติของร่างกาย" คุณอาจจะต้องใช้เวลายาวนานกว่าคนอื่น และแม้จะมีผิวที่ดีแล้ว แต่สารพิษที่เคยสะสมในเนื้อเยื่ออันซับซ้อนของเรานั้น อาจจะถูกขับออกมาอีก และอาจมีสิวอีก แต่ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เพราะมันจะหายไปเอง
ให้เข้าใจว่า นั่นเป็นกระบวนการ "ที่ร่างกายรักษาบำบัดตัวเอง" เหมือนกับเวลาที่เราทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ๆ มีหลายห้อง
บางทีเราคิดว่าเราทำสะอาดหมดแล้ว
แต่มันก็ยังเหลือบางซอกบางมุม และวันไหนที่เราไปเจอ มันก็ต้องกวาดฝุ่นออกมา แต่ในที่สุดมันก็จะไปเอง
สิ่งที่จะได้มากกว่าเรื่องสิว คือ "ทุกอย่าง" และ "พลังชีิวิต" จะกลับคืนมาหาเราอีกครั้งค่ะ
จำช่วงวัยเด็กได้มั้ยคะ ที่เราเคยวิ่งเล่นและหัวเราะไ่ม่หยุดหย่อน
หากเราดูแลร่างกายได้ถูกต้อง เราจะมีพลังแบบนั้นกลับคืนมาอีก และสิวก็จะเป็นแค่อดีตของเราก็แค่นั้นเองค่ะ มาเมื่อไหร่ก็จัดการได้เสมอ
บีมเคยบอกเพื่อน ๆ ใช่มั้ยคะว่า สิวที่กรามบีมหายยาก
ตอนแรกบีมคิดว่าจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ แต่ตอนนี้ หลังจากที่บีมไม่ไปยุ่งวุ่นวายแกะหรือบีบมัน แล้วเอาว่านหางโปะเข้าไป ตรงไหนเม็ดใหญ่หน่อยเอาน้ำอุ่นละลายเกลือใส่ และทำกิจวัตรประจำวันเหมือนกับที่ได้เขียนเอาไว้ให้เพื่อน ๆ ดู
บีมมั่นใจค่ะว่า ไม่น่าจะเกิน 1 เดือนนับจากนี้ บีมจะต้องมีรูปถ่ายด้านข้างที่น่าภาคภูมิใจกับผลงานแห่งความพยายามและความอดทนมาอวดเพื่อน ๆ ได้แน่นอน (ถ้าบีมพอจะได้มีเวลานอนปกติเหมือนชาวบ้านเค้านะคะ อะอะ)
พล่ามมานาน สรุปว่า ลองกินมะระคั้นสดเพื่อลดระดับน้ำตาลและลดอักเสบภายใน ปรับอาหารและตารางเวลา วิธีการดื่มน้ำ และลองศึกษาดูว่ามีสมุนไพรใดช่วยลดการอักเสบภายในบ้างนะคะ เพราะเราที่เป็นสิวกันเรื้อรัง มีการอักเสบที่เรามองไม่เห็นอยู่ภายในค่ะ เราจำเป็นต้องกินของมีฤทธิ์ต้านอักเสบอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาอาการอักเสบหรือรอยบาดภายในค่ะ
กระบวนการถอนพิษของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่หากทำตามที่ได้แนะนำอย่างต่อเนื่องแล้ว อาการเหล่านี้จะหายไปเองพร้อมกับพลังชีวิตที่มากขึ้น บางคนจะแค่เป็นหวัด บางคนจะมีไข้ บางคนอาจแค่ลมหายใจร้อน บางคนอาจมีสิวมีผดขึ้น
ส่วนบีม ครั้งแรกที่รู้สึกถอนพิษได้คือ ตอนนั้น บีมงดน้ำค่ะเพราะสิวบวมน้ำขึ้นบริเวณที่สัมพันธ์กับไตเยอะมาก บีมคอแห้งมาก เจ็บคอเหมือนจะเป็นหวัด แต่ก็ไม่ได้ลุกไปดื่มน้ำ ลมหายใจร้อนมาก ๆ
แต่พอผ่านไป 2 ชั่วโมง เชื่อมั้ยคะ เหมือนจะมีการหายใจครั้งนึงที่ทำให้บีมรู้สึกหายใจโล่งแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตลอดระยะเวลาหลายปี พร้อมลมหายใจกลับมามีอุณหภูมิปกติ หลังจากนั้นมา ดูเหมือนบีมจะหายใจได้สุดปอดมากขึ้น (เห็นภาพมั้ยคะ) และเป็นแบบนั้นมาเรื่อย ๆ เลย ซึ่งดีใจมาก
อาการถอนพิษลำดับต่อมาคือ การที่สิวขึ้นแบบสมมาตรกันระหว่างหน้าด้านซ้ายกับขวา
เพราะแต่ก่อนมันจะขึ้นไปเรื่อย คาดเดาตำแหน่งไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้ ตรงที่เคยขึ้น ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ
และการที่มันขึ้นหรือหายแบบสมมาตรกัน หมายความว่า อวัยวะที่สัมพันธ์กับมันกำลังถอนพิษออกจากตัวเองในอัตราที่เท่ากัน (อันนี้เข้าใจเอาเอง)
เพราะจากตำรานวดกดจุด บอกว่า นอกจากเส้นประสาทตรงแกนกลางร่างกายแล้ว นอกนั้นจะต้องกดจุดทั้งซ้ายและขวาเสมอ
แสดงว่าตอนนี้บีมมาถูกทางแล้วล่ะคะ่
และผิวที่ไม่มีสิวแล้วจะค่อย ๆ เนียนขึ้นจนรูขุมขนเริ่มดูปกติ
ก็เลยอยากบอกเพื่อน ๆ ว่า กระบวนการมันเป็นแบบนี้ อย่าไปท้อค่ะ
เพราะช่วงเวลาเกือบ 1 เดือนนี้ บีมมีพัฒนาการทั้งผิวและร่างกายเกิน 90%
ถ้าหากร่างกายบีมไม่ได้ขนาดนี้ การไม่ได้นอนแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ คงจะทำให้สิวบีมระเบิดมากมายแน่นอน
เป็นกำลังใจให้ทุกคนเหมือนเดิมค่ะ
เดี๋ยว post หน้าบีมมีข้อมูลหลักการเลือกอาหาร โดยพิจารณาจากเกณฑ์ GI, อาหารก่อการอักเสบ, อาหารเย็น ร้อน รวมทั้งการคำนวณพลังงานที่เราต้องการต่อวัน ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องผอม หรือน้ำหนักลดจนเกินไป และสามารถเป็นเกณฑ์ในการกำหนดสูตรการกินสำหรับแต่ละคน (ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกันแน่นอน) เป็นเรื่องสนุกค่ะ คอยติดตามกันต่อไปนะคะ
วันนี้ขอไปแปล Seppo ก่อนค่ะ
เอาใจช่วยเหมือนเดิมค่ะ
กระบวนการถอนพิษของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่หากทำตามที่ได้แนะนำอย่างต่อเนื่องแล้ว อาการเหล่านี้จะหายไปเองพร้อมกับพลังชีวิตที่มากขึ้น บางคนจะแค่เป็นหวัด บางคนจะมีไข้ บางคนอาจแค่ลมหายใจร้อน บางคนอาจมีสิวมีผดขึ้น
ส่วนบีม ครั้งแรกที่รู้สึกถอนพิษได้คือ ตอนนั้น บีมงดน้ำค่ะเพราะสิวบวมน้ำขึ้นบริเวณที่สัมพันธ์กับไตเยอะมาก บีมคอแห้งมาก เจ็บคอเหมือนจะเป็นหวัด แต่ก็ไม่ได้ลุกไปดื่มน้ำ ลมหายใจร้อนมาก ๆ
แต่พอผ่านไป 2 ชั่วโมง เชื่อมั้ยคะ เหมือนจะมีการหายใจครั้งนึงที่ทำให้บีมรู้สึกหายใจโล่งแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตลอดระยะเวลาหลายปี พร้อมลมหายใจกลับมามีอุณหภูมิปกติ หลังจากนั้นมา ดูเหมือนบีมจะหายใจได้สุดปอดมากขึ้น (เห็นภาพมั้ยคะ) และเป็นแบบนั้นมาเรื่อย ๆ เลย ซึ่งดีใจมาก
อาการถอนพิษลำดับต่อมาคือ การที่สิวขึ้นแบบสมมาตรกันระหว่างหน้าด้านซ้ายกับขวา
เพราะแต่ก่อนมันจะขึ้นไปเรื่อย คาดเดาตำแหน่งไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้ ตรงที่เคยขึ้น ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ
และการที่มันขึ้นหรือหายแบบสมมาตรกัน หมายความว่า อวัยวะที่สัมพันธ์กับมันกำลังถอนพิษออกจากตัวเองในอัตราที่เท่ากัน (อันนี้เข้าใจเอาเอง)
เพราะจากตำรานวดกดจุด บอกว่า นอกจากเส้นประสาทตรงแกนกลางร่างกายแล้ว นอกนั้นจะต้องกดจุดทั้งซ้ายและขวาเสมอ
แสดงว่าตอนนี้บีมมาถูกทางแล้วล่ะคะ่
และผิวที่ไม่มีสิวแล้วจะค่อย ๆ เนียนขึ้นจนรูขุมขนเริ่มดูปกติ
ก็เลยอยากบอกเพื่อน ๆ ว่า กระบวนการมันเป็นแบบนี้ อย่าไปท้อค่ะ
เพราะช่วงเวลาเกือบ 1 เดือนนี้ บีมมีพัฒนาการทั้งผิวและร่างกายเกิน 90%
ถ้าหากร่างกายบีมไม่ได้ขนาดนี้ การไม่ได้นอนแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ คงจะทำให้สิวบีมระเบิดมากมายแน่นอน
เป็นกำลังใจให้ทุกคนเหมือนเดิมค่ะ
เดี๋ยว post หน้าบีมมีข้อมูลหลักการเลือกอาหาร โดยพิจารณาจากเกณฑ์ GI, อาหารก่อการอักเสบ, อาหารเย็น ร้อน รวมทั้งการคำนวณพลังงานที่เราต้องการต่อวัน ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องผอม หรือน้ำหนักลดจนเกินไป และสามารถเป็นเกณฑ์ในการกำหนดสูตรการกินสำหรับแต่ละคน (ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกันแน่นอน) เป็นเรื่องสนุกค่ะ คอยติดตามกันต่อไปนะคะ
วันนี้ขอไปแปล Seppo ก่อนค่ะ
เอาใจช่วยเหมือนเดิมค่ะ
ความคิดเห็น