แสงแดดช่วยเรื่องสิวได้อย่างไร

จากที่บีมเคยกล่าวว่า "อย่าพึ่งล้มเลิกเพราะทำไม่ครบ"

เพราะองค์ประกอบของสุขภาพ (แน่นอนว่าต้องรวม "ผิว" ด้วยค่ะ) นั้น Seppo กล่าวว่าต้องมีทั้งหมด 6 ปัจจัย

1. อาหารที่เหมาะสม
2. อากาศบริสุทธิ์
3. ออกกำลังกาย
4. อารมณ์
5. การนอนหลับ
6. แสงแดด

ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจค่ะ มีโอกาสเมื่อไหร่ เติมเต็มทุกองค์ประกอบให้ครบ 10 ถ้าไม่ได้ ขอให้ได้ทำก็ยังดีค่ะ

เรื่องอื่น ๆ บีมคิดว่า เพื่อน ๆ คงจะได้รับข้อมูลมามากพอสมควรจากนิตยสารผู้หญิง จากหน้าเว็บ จากบล็อกต่าง ๆ

แต่วันนี้บีมมีข้อมูลน่าสนใจจากหนังสือ Clear For Life ของ Seppo ค่ะ เกี่ยวกับแสงแดด

ปกติแล้ว เราได้รับข้อมูลจากสื่อและโฆษณาต่าง ๆ ว่า แสงแดดเป็นอันตรายต่อผิว

บีมเชื่อว่า ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ย่อมมี 2 ด้านเสมอ

โฆษณาก็ใช้ข้อมูลต่าง ๆ มาสนับสนุนยอดขายของตัวเอง

เราจึงต้องควรพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ด้วยตัวเองเพิ่มเติมให้มากค่ะ ประโยชน์ของโฆษณาก็คือ ประโยชน์ของบริษัท ไม่ใช่ ประโยชน์ของผู้บริโภค

ในมุมสุขภาพนั้น แสงแดดที่พอเหมาะพอดี จะช่วยผลิตวิตามิน D และิวิตามินตัวนี้เป็นตัวสำคัญในการทำงานของแคลเซียม และแคลเซียมนี้ก็เป็นส่วนสำคัญในเซลล์ทุกเซลล์ของร่างกาย

ดังนั้น การได้รับแสงแดดที่เพียงพอ และ เหมาะสม (สบายกาย ไม่ทำร้ายผิว ซึ่งตรงนี้ร่างกายเราจะบอกได้ ถ้าเรารับฟังค่ะ) จะช่วยทำให้การทำงานของเซลล์เป็นไปโดยปกติ

นอกจากนี้ Seppo ยังได้หาข้อมูลเพิ่มเติมและพบว่า แสงแดดยังมีประโยชน์ในเรื่องของ การลดน้ำหนัก การรักษาโรคหอบหืด โรคหัวใจ ซ่อมแซมผิวหนังและระบบภูมิคุ้มกัน ฯลฯ ซึ่งเค้าแนะนำว่าให้เช็คที่ http://search.mercola.com/ แล้วค้นหาคำว่า sunshine ค่ะ

นอกจากนี้ แสงแดดยังช่วย "ทำความสะอาดผิวและเลือด" ของเรา รังสี UV จะฆ่าแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่แทรกผ่านสู่ผิวหนังของเรา (เซลล์ของเราเป็นเหมือนเม็ด ๆ ที่เชื่อมโยงกัน ดังนั้นจึงมีช่องว่างระหว่างเซลล์ค่ะ ไม่ใช่เป็นผนังปิดทึบ) พอเข้าผิวหนังได้ ก็สามารถแทรกเข้าสู่เลือดและน้ำเหลืองที่สานกันอยู่ทั่วร่างกายด้วยเช่นกัน

จำได้มั้ยคะ ว่า "ไส้รั่ว" ทำให้เชื้อโรคกระจายไปทั่วร่างกายผ่านระบบน้ำเลือดและน้ำเหลือง

แสงแดดนี่แหละจะช่วยฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียเหล่านี้

ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระของ "ตับ" และ "ไต" ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมในของเหลวในร่างกาย

ตับ กับ ไต ก็จะมีเวลาในการทำงานด้านการสร้างความสมดุลของฮอร์โมน และสร้างสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แทนที่จะเอามาเวลามาฆ่าเชื้อโรคตลอดเวลาจนไม่มีเวลาซ่อมแซมตัวเอง

แสงแดดยังช่วยให้เรานอนหลับได้ดีมากขึ้น เพราะ เมื่อเรามองเห็นแสงสว่าง ตาของเราจะสร้างเซโรโตนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกดี และสัมพันธ์กับเมลาโตนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ

ดังนั้น ยิ่งดวงตาได้สัมผัสกับแสงสว่างจากดวงอาิทิตย์มากเท่าใด (แน่นอนว่าไม่ใช่การมองตรงไปยังดวงอาทิตย์ค่ะ) ก็จะยิ่งนอนหลับได้ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ

กล่าวโดยสรุปคือ การที่เราได้สัมผัสแสงแดดที่พอเหมาะพอดี จะช่วยแบ่งเบาภาระของไตและตับในการกำจัดเชื้อโรค และยังช่วยให้เราหลับสนิท หรือ การนอนหลับของเรามีคุณภาพมากขึ้น

ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้จะช่วยให้เรามีผิวสุขภาพดีได้เร็วกว่าการทำปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเพียงอย่างเดียวค่ะ (จาก 6 อย่าง)

หากยังนึกภาพไม่ออกว่า แสงแดดดีอย่างไร ให้ลองนึกถึงต้นไม้ที่วางในร่มกับกลางแจ้งสิคะ ต้นไม้วางที่ไหนที่ดูมีสุขภาพดีกว่ากัน

ดอกทานตะวันร่าเริงเมื่อเจอแสงแดดฉันใด ร่างกายคนก็ฉันนั้น