ไดอารี่สุขภาพและผิวประจำวันที่ 27 สิงหาคม 52 ของบีม
เอาล่ะ วันนี้ก็ถึงเวลาที่บีมจะขอคั่นเนื้อหาหนัก ๆ ด้วยไดอารี่เล็ก ๆ ของบีมว่า หลังจากที่ได้ทดลองทำตามแนว "ธรรมชาติ" และ "อาหารบำบัด" มาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์กว่า ๆ ตอนนี้ วิธีการไหนที่บีมกำลังใช้อยู่ และผลเป็นอย่างไร
ต้องบอกเพื่อน ๆ ที่พึ่งเข้ามาบล็อกนี้ใหม่ ๆ ก่อนว่า เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ครึ่งมาแล้ว บีมได้ลองทานตามสูตร Wai ซึ่งเป็นสูตรที่ทานเฉพาะของสด และดิบ เพื่อลดต้นเหตุของอาหารก่อสิวออกไปทั้งหมด http://www.freeacnebook.com/
สิ่งที่บีมกินตอนนั้นทุกวัน ก็จะมีไข่แดงดิบ 2 ฟอง เช้ากับก่อนนอน และ ระหว่างวันก็จะกินผลไม้สุก ส่วนใหญ่บีมจะกินกล้วยน้ำว้า องุ่น แอปเปิ้ล ค่ะ และก็จะทำสลัด แตงกวา มะเขือเทศ อะโวคาโดราดน้ำมันมะกอกกินหลังจากกินผลไม้เสร็จทุกครั้งประมาณ 2-3 คำ เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลจากผลไม้เปลี่ยนแปลงเร็วจนเกินไป
บีมกิน 2 วัน สิวเริ่มแห้งค่ะ หน้าผากนี่ สิวอุดตันหายไปเยอะมาก ๆ เราก็เลยกินต่อ
แต่ด้วยความที่ว่า การกินแบบนี้มันค่อนข้างเข้มงวดมาก ๆ และจริง ๆ บีมก็รู้สึกทรมานเหมือนกันนะ แต่ผิวมันก็ดีขึ้นจริง ๆ ล่ะค่ะ
แต่เวลาที่บีมเห็นหมูทอด หรืออาหารที่บ้านทำ จะรู้สึกอยากกินมาก ๆ และถ้าหากได้เอามาเข้าปากแล้วนะ มันหยุดไม่ได้เลยทีเดียว แถมสิวก็ขึ้นอีก
บีมก็เลยคิดว่า เห็นท่าจะไม่ไหว...มันต้องมีวิธีกินที่เป็น "ความพอดี" ล่ะน่า
บีมก็เลยหาข้อมูลนู่นนี่ ๆ เรื่อย ๆ และก็เริ่มกินอาหารปกติ แต่จะกินพวกต้มนะคะ ไม่กินของทอดเลย เพราะเราเริ่มรู้แล้วว่าถ้ากินแล้วผลมันจะเป็นยังไง มันจะเริ่มหายอยากไปเองค่ะ
จนมาเจอข้อมูลของคุณ Seppo ที่เขียนหนังสือ Clear For Life ซึ่งเค้ามีข้อมูลให้อ่านฟรี ๆ ที่ http://www.natural-acne-solution.com/ และบีมรู้สึกว่า บทความของเค้าสามารถตอบคำถามที่ค้างคาใจบีมเกี่ยวกับสิวได้เกือบหมดเลย คือ ทำการบ้านมาดีมาก และตัวเค้าเองก็เป็นคนใช้วิธีนี้ด้วย บีมเลยตัดสินใจซื้อหนังสือเค้ามาอ่าน และเริ่มกินอาหารปกติ เพียงแต่เน้นผักและผลไม้ปั่น ยังไม่ได้กินข้าวค่ะ แต่แค่นั้นก็อยู่ท้องและมีพลังงาน และร่างกายเริ่มเข้าสู่สมดุลแล้วจริง ๆ ผิวกลับมาเนียนเหมือนตอนเด็ก ๆ คือร่างกายเราย้อนวัยเลยล่ะ
และวันนึงก็ไปโลตัสว่าจะไปหาหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพร เพราะเดี๋ยวนี้บีมไม่ใช้สารเคมีกับร่างกายเลย ยกเว้น สบู่ก็ใช้ mild soap ซึ่งคุณแม่กับบีมก็ไม่เอามา้ล้างหน้า เลยเอามาอาบน้ำแทน ยาสีฟันคอลเกต และ สบู่ล้างหน้า softy สูตรกาแฟเท่านั้นเอง ยาสิว ไม่กินและไม่ทา ครีมบำรุงผิวไม่แตะ เพราะไม่อยากให้พิษเข้าสะสมในร่างกายมากกว่านี้ แต่ผิวก็ดีแบบไ่ม่ต้องพึ่งของพวกนั้นเลยค่ะ
และแล้วไปเจอผู้ช่วยชีวิต หนังสือ "ความลับฟ้า" ของคุณหมอเขียวอีกเล่ม เลยซื้อมาเลย
ซึ่งบีมเริ่มทานอาหารสูตร 2 ของหมอเขียว ซึ่งท่านบอกว่า เป็นสูตรที่คนเริ่มล้างพิษหรือถอนพิษกินแ้ล้วได้ผลดี ร่างกายจะเบา ๆ โล่งโปร่งเร็ว ยกเว้นใครพิษเยอะ อาจมีอาการแสดงการถอนพิษ ซึ่งก็ควรปล่อยให้เป็นกลไกตามธรรมชาติ เราเพียงแต่ทานสูตรนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าร่างกายจะสมดุล
บีมทานตามสูตร 2 นี้แค่ 2 วัน โดยเลือกทานแต่อาหารฤทธิ์เย็น (เดี๋ยวบีมจะโพสต์ค่ะว่าสูตร 2 ที่บีมกินมีอะไรบ้าง) และด้านจิตใจ บีมก็จะพยายามกำจัดอารมณ์ไม่ดี ความคิดด้านลบออก เพราะได้เรียนรู้จาก Seppo ว่า ความคิดด้านลบจะทำให้เซลล์เราตอบสนองด้านลบ
บีมอยากจะเลี้ยงเซลล์ให้ดี ก็ต้องทำอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ ก่อนนอนบีมก็จะหลับตา หายใจเข้าลึก ๆ ปล่อยใจปล่อยกายให้มันได้พัก ให้ใจอยู่กับเรา ไม่ให้ออกไปนอกห้องหรือที่อื่น ๆ รู้สึกว่าได้อยู่แค่ตรงนี้จริง ๆ ให้ตัวเองรู้สึกว่า นี่แขนเรานะ นี่ขาเรานะ ให้รู้สึกว่า ทุกครั้งที่เราหายใจเข้า เลือดส่งไปที่ทุกอวัยวะในร่างกายเราค่ะ
ใครอยากเปิดเพลงเบา ๆ ช่วยก็ทำได้
และวัันก่อน บีมเข้าไปที่ http://www.acnethai.com/และมีหมอจีนที่คุณตู้ไปหา แนะนำว่าให้นอนประมาณ 4 ทุ่มเพราะ ช่วง 5 ทุ่มตับจะได้พักผ่อน ฟื้นฟูตัวเองได้เต็มที่ กำจัดของเสียได้เต็มประสิทธิภาพ
ประกอบกับข้อมูลที่ได้จาก Seppo คือ ใครที่นอนไม่พอ ร่างกายจะไม่มีแรงไปซ่อมแซมตัวเอง และอวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดของเสียหลัก ๆ คือ ตับ ไต และปอด จะไ่ม่สามารถทำงานได้เต็มที่ แถมเซลล์ของเราก็ไ่ม่สามารถจะเอาของเสียที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมในแต่ละวันขับออกไปในกระแสเลือดและส่งออกนอกร่างกายได้ ก็สะสมไปทุกวัน
ที่บีมเล่าให้ฟังนี้คือ บีมจะบอกว่า เทคนิคในการดูแลตัวเองนี้ มันไม่มีสูตรสำเร็จค่ะ เราจะได้ความรู้จากหลายแหล่ง แล้วลองเอามาพิจารณาดูว่า แบบไหนน่าจะดีต่อเรา แบบไหนมีเหตุผล แล้ว "ลองทำ" ถ้ามันถูกกับเรา เราจะรู้สึกสบาย โล่ง โปร่ง ทั้งกายและใจ (คุณหมอเขียวใช้เกณฑ์นี้ล่ะค่ะ วัดว่าเรามีสุขภาพดีหรือยัง หรือเข้าสู่สมดุลหรือยัง) ความไ่ม่สบายกายและใจ คือ ความหนัก ปวด อึดอัด
การดูแลตัวเองของบีม ตอนเช้าจะตื่นนอนเองประมาณตี 5 กว่า ๆ แล้วเดินออกกำลังบริเวณบ้าน สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อให้ปอดได้ขับของเสียออกมา แล้วเอาออกซิเจนเข้าไปมาก ๆ
อ้อ ก่อนทำกิจกรรม บีมจะดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว 1 แก้วก่อนเสมอ
แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น3-4 แก้ว
แล้วก็เข้าห้องน้ำ
จากนั้น ตามอาหารสูตร 2 ซึ่งจะต้องทานคลอโรฟิลล์ธรรมชาติ บีมก็ตำผักบุ้งนา 1 กำ ให้ละเอียด แล้วคั้นเอาแต่น้ำมาดื่มก่อนอาหาร 1 แก้ว (เพราะร่างกายตอนน้ำย่อยออกมามันร้อน เราต้องทำให้มันเย็นลงก่อนค่ะ ถ้ากินข้าวเลย จะร้อนไปเลย สิวก็ไ่ม่หาย)
จากนั้นตามด้วยกล้วยน้ำว้า 1-2 ลูก เอาให้ว่าเรามีกำลังและไม่อึดอัด
และกินมะเขือเทศสดลูกขนาดปานกลางประมาณ 3 ลูก ให้พอมีกำลังและไม่อึดอัด
และก็จะกินเห็ดนางฟ้าลวกแบบเร็ว ๆ เพราะถ้าหากนานเกินไป เห็ดนี้จะร้อน (ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นอาหารฤทธิ์เย็น แต่หากนำมาผ่านไฟนานเท่าใด ก็จะยิ่งร้อนเท่านั้น) และเอามาจิ้มซีอิ้วบีบมะนาวกินกับข้าวต้มแบบข้าวต้มกุ๊ยที่ใส่น้ำมาก ๆ ข้าวน้อย ๆ และต้มพอสุก อย่าให้เปื่อย (ยิ่งโดนความร้อนนานยิ่งมีฤทธิ์ร้อนค่ะ) ซึ่งการจิ้มจะไม่จิ้มมาก จิ้มพอรู้รส เคี้ยวให้ละเอียด และตามด้วยข้าวต้มประมาณ 3-5 คำ ทานแบบนี้จะได้เจือจางเกลือหรือรสเค็มจากซีอิ้วไ่ม่ให้ระคายเคืองเซลล์ของเรามากเกินไปค่ะ
และนี่คือมื้อเ้ช้า ก็จะหมดแค่นี้
ระหว่างวัน จะกินน้ำแอปเปิ้ลปั่น ซึ่งอยู่ท้องมาก ๆ และรู้สึกมันจะช่วยขับของเสียด้วยนะคะ และคิดว่าช่วยขับหรือถอนพิษร้อนได้ด้วย เพราะแอปเปิ้ลมีฤทธิ์เย็น
ถ้าหากเราปวดปัสสาวะ หรืออุจจาระ ห้ามกลั้นค่ะ ไม่งั้นความร้อนที่จะถูกถอนออกมาก็จะดันกลับเข้าไปใหม่
ใครพิษเยอะ ก็จะรู้เลยว่า ปัสสาวะจะร้อนกว่าปกติ ทั้งที่เราไม่ได้เป็นไข้ (อันนี้สังเกตเองนะคะ เพราะตั้งแต่เริ่มทานแอปเปิ้ล เพื่อล้างพิษตับด้วยแหละ ปัสสาวะมันร้อน ทั้งที่ร่างกายเราอุณหภูมิปกติ)
และเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าปัสสาวะร้อน ให้ดื่มน้ำมาก ๆ มันจะได้ขับฤทธิ์ร้อนออกมาเร็ว ๆ
และบีมก็ทานสลับกับกล้วยน้ำว้าตลอดช่วงบ่่าย
ตอนเย็นก็ทานผักตำลึงลวกจิ้มซีอิ้วมะนาวกับข้าวต้ม
และก็ปั่นแอปเปิ้ลอีกรอบ
ก่อนจะนอนก็ดื่มน้ำดีเกลือ รวมทั้งน้ำมันมะกอกและน้ำมะนาวเพื่อล้างพิษตับก่อนนอน ซึ่งเข้านอนดึกหน่อยประมาณ 5 ทุ่ม (ไม่ได้ทำทุกวันค่ะ นี่พึ่งทำครั้งที่ 2 ตั้งแต่เริ่มใช้ธรรมชาติบำบัด)
บีมรู้สึกว่า รอบนี้บีมไม่ค่อยอยู่ในห้องน้ำนาน และรู้สึกว่า ไขมันหรือนิ่วในตับคงจะออกไปเยอะจากรอบที่แล้วแ้ล้วค่ะ เพราะรอบนี้เห็นไม่ค่อยมีอะไรแล้ว และก็เข้าห้องน้ำไม่กี่ครั้งเอง และไม่รู้สึกเพลียด้วย
บีมรู้สึกว่าการเลือกกินเฉพาะอาหารฤทธิ์เย็นและทานตามสูตร 2 นี้ดีกับผิวเป็นสิวมาก ๆ เลยค่ะ เพราะนี่ขนาดช่วงประจำเดือนจะมา (ซึ่งคราวก่อนไม่รู้ ไปกินเห็ดหอมซึ่งเป็นโปรตีนฤทธิ์ร้อน สิวมันขึ้นมาเลยเชียว อักเสบประมาณ 8 เม็ด)
ตอนนี้หน้าผากไม่มีอุดตัน อักเสบเริ่มยุบตัวไปมาก (ตรงแนวคิ้ว) สิวที่คางเริ่มกลับมาเรียบเนียนแล้ว สิวแนวกรามยุบตัวลงไป และเริ่มแห้ง สิวที่แก้มเหลือแต่อุดตันซึ่งมันก็ดันหัวตัวเองออกมา ไม่ค้างอยู่ข้างใน
เืมื่อคืน บีมเอาผ้าเช็ดหน้าขนหนูชุบน้ำให้ชุ่ม บิดนิดหน่อย แล้วเอาเข้าตู้อบไมโครเวฟประมาณ 1 นาที แล้วเอามาวางบนหน้า เหมือนทำสปาหน้า อิอิ วางไว้สักประมาณ 1 นาทีเหมือนกัน สิวอุดตันและที่ไขมันค้างแต่ไม่ยอมออกก็ออกมาแสนง่า่ยดายค่ะ
เช้านี้เลยมีรอยแดง (เหมือนเพื่อน ๆ หลังจากกดสิวล่ะค่ะ แต่เดี๋ยวมันก็หาย) นิดหน่อย ก็ขอเอารูปมาให้ดูละกันนะ
ตรงที่มีหน้าม้าป้าย สิวไม่ได้ขึ้นนะคะ แต่ลืมเอาผมขึ้นตอนถ่าย โทษทีค่ะ ไม่ได้เปิดหน้าผากให้ดู ไว้รอบหน้า
อ้อ แล้วเพื่อน ๆ ต้องให้ร่างกายได้โดนแสงแดดด้วยนะคะ และให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์ทุกวันด้วย แล้วเดี๋ยวบีมค่อยมาอธิบายว่าทำไม
บีมนั่งอาบแดด (นั่งค่ะ) ตอนเช้า ๆ พร้อมกับดื่มน้ำคั้นผักบุ้งนา และอ่านหนังสือประมาณ 20 -30 นาทีค่ะ รู้สึกดีมาก ๆ บีมขอแนะนำว่า ตอนเช้า อ่านอะไรดี ๆ สักบท สักหน้า ก็จะช่วยให้จิตใจมีคุณภาพได้อีกมากเลยค่ะ พยายามทำให้ได้ทุกวัน อย่างของบีมจะเลือกอ่านคอลัมน์ในหนังสือนิตยสาร Secret ของเครืออมรินทร์ เพราะว่าสามารถเลือกอ่านบทไหนก็ได้ที่เราชอบ และไม่จำเป็นต้องอ่านหมด และเนื้อหาของเค้าดีจริง ๆ ค่ะ
ขอให้ทำกันจนเป็นนิสัยค่ะ แล้วจะไม่อยากกลับไปหาของเดิมอีกเลย อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ลองนะคะ อ้อ แล้วไม่จำเป็นต้องทำให้ได้แบบบีมเป๊ะค่ะ เพื่อน ๆสามารถเปลี่ยนเป็นผักอย่างอื่นได้ ในหมวดผักฤทธิ็เย็น แต่ข้อสำคัญอย่าตั้งไฟนานค่ะ และอย่าใช้ไฟแรง ไม่งั้นมันก็จะกลายเป็นฤทธิ์ร้อนไป
ถ้าข้อมูลมีประโยชน์ รบกวนคอมเม้นท์ให้ด้วยนะคะ บีมจะได้มีกำลังใจเอามาลงกันต่อไป เพราะไม่รู้ว่าที่ตัวเองทำมานี่มี feedback อย่างไร จะติ จะชมก็รับทั้งหมดล่ะค่ะ บีมถือว่าเอามาใช้พัฒนาเนื้อหา
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ต้องบอกเพื่อน ๆ ที่พึ่งเข้ามาบล็อกนี้ใหม่ ๆ ก่อนว่า เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ครึ่งมาแล้ว บีมได้ลองทานตามสูตร Wai ซึ่งเป็นสูตรที่ทานเฉพาะของสด และดิบ เพื่อลดต้นเหตุของอาหารก่อสิวออกไปทั้งหมด http://www.freeacnebook.com/
สิ่งที่บีมกินตอนนั้นทุกวัน ก็จะมีไข่แดงดิบ 2 ฟอง เช้ากับก่อนนอน และ ระหว่างวันก็จะกินผลไม้สุก ส่วนใหญ่บีมจะกินกล้วยน้ำว้า องุ่น แอปเปิ้ล ค่ะ และก็จะทำสลัด แตงกวา มะเขือเทศ อะโวคาโดราดน้ำมันมะกอกกินหลังจากกินผลไม้เสร็จทุกครั้งประมาณ 2-3 คำ เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลจากผลไม้เปลี่ยนแปลงเร็วจนเกินไป
บีมกิน 2 วัน สิวเริ่มแห้งค่ะ หน้าผากนี่ สิวอุดตันหายไปเยอะมาก ๆ เราก็เลยกินต่อ
แต่ด้วยความที่ว่า การกินแบบนี้มันค่อนข้างเข้มงวดมาก ๆ และจริง ๆ บีมก็รู้สึกทรมานเหมือนกันนะ แต่ผิวมันก็ดีขึ้นจริง ๆ ล่ะค่ะ
แต่เวลาที่บีมเห็นหมูทอด หรืออาหารที่บ้านทำ จะรู้สึกอยากกินมาก ๆ และถ้าหากได้เอามาเข้าปากแล้วนะ มันหยุดไม่ได้เลยทีเดียว แถมสิวก็ขึ้นอีก
บีมก็เลยคิดว่า เห็นท่าจะไม่ไหว...มันต้องมีวิธีกินที่เป็น "ความพอดี" ล่ะน่า
บีมก็เลยหาข้อมูลนู่นนี่ ๆ เรื่อย ๆ และก็เริ่มกินอาหารปกติ แต่จะกินพวกต้มนะคะ ไม่กินของทอดเลย เพราะเราเริ่มรู้แล้วว่าถ้ากินแล้วผลมันจะเป็นยังไง มันจะเริ่มหายอยากไปเองค่ะ
จนมาเจอข้อมูลของคุณ Seppo ที่เขียนหนังสือ Clear For Life ซึ่งเค้ามีข้อมูลให้อ่านฟรี ๆ ที่ http://www.natural-acne-solution.com/ และบีมรู้สึกว่า บทความของเค้าสามารถตอบคำถามที่ค้างคาใจบีมเกี่ยวกับสิวได้เกือบหมดเลย คือ ทำการบ้านมาดีมาก และตัวเค้าเองก็เป็นคนใช้วิธีนี้ด้วย บีมเลยตัดสินใจซื้อหนังสือเค้ามาอ่าน และเริ่มกินอาหารปกติ เพียงแต่เน้นผักและผลไม้ปั่น ยังไม่ได้กินข้าวค่ะ แต่แค่นั้นก็อยู่ท้องและมีพลังงาน และร่างกายเริ่มเข้าสู่สมดุลแล้วจริง ๆ ผิวกลับมาเนียนเหมือนตอนเด็ก ๆ คือร่างกายเราย้อนวัยเลยล่ะ
และวันนึงก็ไปโลตัสว่าจะไปหาหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพร เพราะเดี๋ยวนี้บีมไม่ใช้สารเคมีกับร่างกายเลย ยกเว้น สบู่ก็ใช้ mild soap ซึ่งคุณแม่กับบีมก็ไม่เอามา้ล้างหน้า เลยเอามาอาบน้ำแทน ยาสีฟันคอลเกต และ สบู่ล้างหน้า softy สูตรกาแฟเท่านั้นเอง ยาสิว ไม่กินและไม่ทา ครีมบำรุงผิวไม่แตะ เพราะไม่อยากให้พิษเข้าสะสมในร่างกายมากกว่านี้ แต่ผิวก็ดีแบบไ่ม่ต้องพึ่งของพวกนั้นเลยค่ะ
และแล้วไปเจอผู้ช่วยชีวิต หนังสือ "ความลับฟ้า" ของคุณหมอเขียวอีกเล่ม เลยซื้อมาเลย
ซึ่งบีมเริ่มทานอาหารสูตร 2 ของหมอเขียว ซึ่งท่านบอกว่า เป็นสูตรที่คนเริ่มล้างพิษหรือถอนพิษกินแ้ล้วได้ผลดี ร่างกายจะเบา ๆ โล่งโปร่งเร็ว ยกเว้นใครพิษเยอะ อาจมีอาการแสดงการถอนพิษ ซึ่งก็ควรปล่อยให้เป็นกลไกตามธรรมชาติ เราเพียงแต่ทานสูตรนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าร่างกายจะสมดุล
บีมทานตามสูตร 2 นี้แค่ 2 วัน โดยเลือกทานแต่อาหารฤทธิ์เย็น (เดี๋ยวบีมจะโพสต์ค่ะว่าสูตร 2 ที่บีมกินมีอะไรบ้าง) และด้านจิตใจ บีมก็จะพยายามกำจัดอารมณ์ไม่ดี ความคิดด้านลบออก เพราะได้เรียนรู้จาก Seppo ว่า ความคิดด้านลบจะทำให้เซลล์เราตอบสนองด้านลบ
บีมอยากจะเลี้ยงเซลล์ให้ดี ก็ต้องทำอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ ก่อนนอนบีมก็จะหลับตา หายใจเข้าลึก ๆ ปล่อยใจปล่อยกายให้มันได้พัก ให้ใจอยู่กับเรา ไม่ให้ออกไปนอกห้องหรือที่อื่น ๆ รู้สึกว่าได้อยู่แค่ตรงนี้จริง ๆ ให้ตัวเองรู้สึกว่า นี่แขนเรานะ นี่ขาเรานะ ให้รู้สึกว่า ทุกครั้งที่เราหายใจเข้า เลือดส่งไปที่ทุกอวัยวะในร่างกายเราค่ะ
ใครอยากเปิดเพลงเบา ๆ ช่วยก็ทำได้
และวัันก่อน บีมเข้าไปที่ http://www.acnethai.com/และมีหมอจีนที่คุณตู้ไปหา แนะนำว่าให้นอนประมาณ 4 ทุ่มเพราะ ช่วง 5 ทุ่มตับจะได้พักผ่อน ฟื้นฟูตัวเองได้เต็มที่ กำจัดของเสียได้เต็มประสิทธิภาพ
ประกอบกับข้อมูลที่ได้จาก Seppo คือ ใครที่นอนไม่พอ ร่างกายจะไม่มีแรงไปซ่อมแซมตัวเอง และอวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดของเสียหลัก ๆ คือ ตับ ไต และปอด จะไ่ม่สามารถทำงานได้เต็มที่ แถมเซลล์ของเราก็ไ่ม่สามารถจะเอาของเสียที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมในแต่ละวันขับออกไปในกระแสเลือดและส่งออกนอกร่างกายได้ ก็สะสมไปทุกวัน
ที่บีมเล่าให้ฟังนี้คือ บีมจะบอกว่า เทคนิคในการดูแลตัวเองนี้ มันไม่มีสูตรสำเร็จค่ะ เราจะได้ความรู้จากหลายแหล่ง แล้วลองเอามาพิจารณาดูว่า แบบไหนน่าจะดีต่อเรา แบบไหนมีเหตุผล แล้ว "ลองทำ" ถ้ามันถูกกับเรา เราจะรู้สึกสบาย โล่ง โปร่ง ทั้งกายและใจ (คุณหมอเขียวใช้เกณฑ์นี้ล่ะค่ะ วัดว่าเรามีสุขภาพดีหรือยัง หรือเข้าสู่สมดุลหรือยัง) ความไ่ม่สบายกายและใจ คือ ความหนัก ปวด อึดอัด
การดูแลตัวเองของบีม ตอนเช้าจะตื่นนอนเองประมาณตี 5 กว่า ๆ แล้วเดินออกกำลังบริเวณบ้าน สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อให้ปอดได้ขับของเสียออกมา แล้วเอาออกซิเจนเข้าไปมาก ๆ
อ้อ ก่อนทำกิจกรรม บีมจะดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว 1 แก้วก่อนเสมอ
แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น3-4 แก้ว
แล้วก็เข้าห้องน้ำ
จากนั้น ตามอาหารสูตร 2 ซึ่งจะต้องทานคลอโรฟิลล์ธรรมชาติ บีมก็ตำผักบุ้งนา 1 กำ ให้ละเอียด แล้วคั้นเอาแต่น้ำมาดื่มก่อนอาหาร 1 แก้ว (เพราะร่างกายตอนน้ำย่อยออกมามันร้อน เราต้องทำให้มันเย็นลงก่อนค่ะ ถ้ากินข้าวเลย จะร้อนไปเลย สิวก็ไ่ม่หาย)
จากนั้นตามด้วยกล้วยน้ำว้า 1-2 ลูก เอาให้ว่าเรามีกำลังและไม่อึดอัด
และกินมะเขือเทศสดลูกขนาดปานกลางประมาณ 3 ลูก ให้พอมีกำลังและไม่อึดอัด
และก็จะกินเห็ดนางฟ้าลวกแบบเร็ว ๆ เพราะถ้าหากนานเกินไป เห็ดนี้จะร้อน (ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นอาหารฤทธิ์เย็น แต่หากนำมาผ่านไฟนานเท่าใด ก็จะยิ่งร้อนเท่านั้น) และเอามาจิ้มซีอิ้วบีบมะนาวกินกับข้าวต้มแบบข้าวต้มกุ๊ยที่ใส่น้ำมาก ๆ ข้าวน้อย ๆ และต้มพอสุก อย่าให้เปื่อย (ยิ่งโดนความร้อนนานยิ่งมีฤทธิ์ร้อนค่ะ) ซึ่งการจิ้มจะไม่จิ้มมาก จิ้มพอรู้รส เคี้ยวให้ละเอียด และตามด้วยข้าวต้มประมาณ 3-5 คำ ทานแบบนี้จะได้เจือจางเกลือหรือรสเค็มจากซีอิ้วไ่ม่ให้ระคายเคืองเซลล์ของเรามากเกินไปค่ะ
และนี่คือมื้อเ้ช้า ก็จะหมดแค่นี้
ระหว่างวัน จะกินน้ำแอปเปิ้ลปั่น ซึ่งอยู่ท้องมาก ๆ และรู้สึกมันจะช่วยขับของเสียด้วยนะคะ และคิดว่าช่วยขับหรือถอนพิษร้อนได้ด้วย เพราะแอปเปิ้ลมีฤทธิ์เย็น
ถ้าหากเราปวดปัสสาวะ หรืออุจจาระ ห้ามกลั้นค่ะ ไม่งั้นความร้อนที่จะถูกถอนออกมาก็จะดันกลับเข้าไปใหม่
ใครพิษเยอะ ก็จะรู้เลยว่า ปัสสาวะจะร้อนกว่าปกติ ทั้งที่เราไม่ได้เป็นไข้ (อันนี้สังเกตเองนะคะ เพราะตั้งแต่เริ่มทานแอปเปิ้ล เพื่อล้างพิษตับด้วยแหละ ปัสสาวะมันร้อน ทั้งที่ร่างกายเราอุณหภูมิปกติ)
และเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าปัสสาวะร้อน ให้ดื่มน้ำมาก ๆ มันจะได้ขับฤทธิ์ร้อนออกมาเร็ว ๆ
และบีมก็ทานสลับกับกล้วยน้ำว้าตลอดช่วงบ่่าย
ตอนเย็นก็ทานผักตำลึงลวกจิ้มซีอิ้วมะนาวกับข้าวต้ม
และก็ปั่นแอปเปิ้ลอีกรอบ
ก่อนจะนอนก็ดื่มน้ำดีเกลือ รวมทั้งน้ำมันมะกอกและน้ำมะนาวเพื่อล้างพิษตับก่อนนอน ซึ่งเข้านอนดึกหน่อยประมาณ 5 ทุ่ม (ไม่ได้ทำทุกวันค่ะ นี่พึ่งทำครั้งที่ 2 ตั้งแต่เริ่มใช้ธรรมชาติบำบัด)
บีมรู้สึกว่า รอบนี้บีมไม่ค่อยอยู่ในห้องน้ำนาน และรู้สึกว่า ไขมันหรือนิ่วในตับคงจะออกไปเยอะจากรอบที่แล้วแ้ล้วค่ะ เพราะรอบนี้เห็นไม่ค่อยมีอะไรแล้ว และก็เข้าห้องน้ำไม่กี่ครั้งเอง และไม่รู้สึกเพลียด้วย
บีมรู้สึกว่าการเลือกกินเฉพาะอาหารฤทธิ์เย็นและทานตามสูตร 2 นี้ดีกับผิวเป็นสิวมาก ๆ เลยค่ะ เพราะนี่ขนาดช่วงประจำเดือนจะมา (ซึ่งคราวก่อนไม่รู้ ไปกินเห็ดหอมซึ่งเป็นโปรตีนฤทธิ์ร้อน สิวมันขึ้นมาเลยเชียว อักเสบประมาณ 8 เม็ด)
ตอนนี้หน้าผากไม่มีอุดตัน อักเสบเริ่มยุบตัวไปมาก (ตรงแนวคิ้ว) สิวที่คางเริ่มกลับมาเรียบเนียนแล้ว สิวแนวกรามยุบตัวลงไป และเริ่มแห้ง สิวที่แก้มเหลือแต่อุดตันซึ่งมันก็ดันหัวตัวเองออกมา ไม่ค้างอยู่ข้างใน
เืมื่อคืน บีมเอาผ้าเช็ดหน้าขนหนูชุบน้ำให้ชุ่ม บิดนิดหน่อย แล้วเอาเข้าตู้อบไมโครเวฟประมาณ 1 นาที แล้วเอามาวางบนหน้า เหมือนทำสปาหน้า อิอิ วางไว้สักประมาณ 1 นาทีเหมือนกัน สิวอุดตันและที่ไขมันค้างแต่ไม่ยอมออกก็ออกมาแสนง่า่ยดายค่ะ
เช้านี้เลยมีรอยแดง (เหมือนเพื่อน ๆ หลังจากกดสิวล่ะค่ะ แต่เดี๋ยวมันก็หาย) นิดหน่อย ก็ขอเอารูปมาให้ดูละกันนะ
ตรงที่มีหน้าม้าป้าย สิวไม่ได้ขึ้นนะคะ แต่ลืมเอาผมขึ้นตอนถ่าย โทษทีค่ะ ไม่ได้เปิดหน้าผากให้ดู ไว้รอบหน้า
อ้อ แล้วเพื่อน ๆ ต้องให้ร่างกายได้โดนแสงแดดด้วยนะคะ และให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์ทุกวันด้วย แล้วเดี๋ยวบีมค่อยมาอธิบายว่าทำไม
บีมนั่งอาบแดด (นั่งค่ะ) ตอนเช้า ๆ พร้อมกับดื่มน้ำคั้นผักบุ้งนา และอ่านหนังสือประมาณ 20 -30 นาทีค่ะ รู้สึกดีมาก ๆ บีมขอแนะนำว่า ตอนเช้า อ่านอะไรดี ๆ สักบท สักหน้า ก็จะช่วยให้จิตใจมีคุณภาพได้อีกมากเลยค่ะ พยายามทำให้ได้ทุกวัน อย่างของบีมจะเลือกอ่านคอลัมน์ในหนังสือนิตยสาร Secret ของเครืออมรินทร์ เพราะว่าสามารถเลือกอ่านบทไหนก็ได้ที่เราชอบ และไม่จำเป็นต้องอ่านหมด และเนื้อหาของเค้าดีจริง ๆ ค่ะ
ขอให้ทำกันจนเป็นนิสัยค่ะ แล้วจะไม่อยากกลับไปหาของเดิมอีกเลย อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ลองนะคะ อ้อ แล้วไม่จำเป็นต้องทำให้ได้แบบบีมเป๊ะค่ะ เพื่อน ๆสามารถเปลี่ยนเป็นผักอย่างอื่นได้ ในหมวดผักฤทธิ็เย็น แต่ข้อสำคัญอย่าตั้งไฟนานค่ะ และอย่าใช้ไฟแรง ไม่งั้นมันก็จะกลายเป็นฤทธิ์ร้อนไป
ถ้าข้อมูลมีประโยชน์ รบกวนคอมเม้นท์ให้ด้วยนะคะ บีมจะได้มีกำลังใจเอามาลงกันต่อไป เพราะไม่รู้ว่าที่ตัวเองทำมานี่มี feedback อย่างไร จะติ จะชมก็รับทั้งหมดล่ะค่ะ บีมถือว่าเอามาใช้พัฒนาเนื้อหา
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ความคิดเห็น
ขอให้วันนี้โชคดีทั้งวันนะคะ
ส่วนกล้วยนี่ บีมทานได้นะ แต่ไม่เยอะ (จริง ๆว่าจะลองไม่กินดูค่ะ แต่พี่ที่บ้านเค้าซื้อมาให้และเห็นว่ากล้วยน้ำว้ามันก็โอเค เรากินได้ แต่ว่าจะลองไม่กินดูถ้าเครือนี้หมด อะอะ เพราะมันหวานเนาะ)