สาเหตุของสิวแบบเจาะลึก 1: ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งมากเกินไป

จากเมื่อวานที่บีมได้บอกเพื่อน ๆ ไปว่า บีมได้หนังสือภาษาอังกฤษความยาว 166 หน้า ที่เขียนโดยคุณ Seppo ผู้ชายธรรมดาที่ไม่ธรรมดาค่ะ

ตอนนี้บีมอ่านจบไปส่วนนึง (จริง ๆ แล้วอ่านก่อนที่จะตัดสินใจซื้อของเค้ามา) แล้วบีมก็ไม่ผิดหวังค่ะ และบีมคิดว่า เพื่อน ๆ จะได้ประโยชน์มาก ๆ จากข้อมูลตรงนี้ และเราจะเป็นคนควบคุมสิวได้ในที่สุด ไม่ใช่ให้สิวมาควบคุมชีวิตเราอย่างที่ผ่านมาค่ะ

เริ่มเลยนะคะ

คุณ Seppo ได้ทำการค้นคว้าวิจัยหนังสือแนวสุขภาพมาหลายเล่ม และดูความสัมพันธ์ระหว่างสิวกับปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เค้าได้สรุปว่า ตัวการหลัก ๆ ของสิว คือ

ปัญหาของการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในเลือด (Blood Sugar Swing) และ การอักเสบ (Inflammation)

ระดับน้ำตาลในเลือดเกี่ยวข้องกับสิวอย่างไร?

อธิบายได้อย่างนี้ค่ะ โดยปกติ อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตที่เราทานเข้าไปจะมีระดับ GI ต่างกัน ค่า GI มาจากคำว่า Glycamin Index ซึ่งภาษาที่เข้าใจง่ายคือ ค่าที่วัดว่าอาหารคาร์โบไฮเดรตอย่างหนึ่งจะสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นน้ำตาล (กลูโคส) ซึ่งเป็นส่วนที่จะทำให้ร่างกายมีพลังงานทำกิจกรรมต่าง ๆ มากน้อยเท่าใด

อาหารที่มี GI สูง (มันจะมีตารางเปรียบเทียบค่า GI นะคะ บีมเข้าใจว่า ลองไปหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเบาหวานน่าจะเจอค่ะ เพราะในบ้านเรายังไ่ม่มีใครบอกว่า สิวเกิดจากสาเหตุเีดียวกับเบาหวานและโรคเรื้อรังอื่น ๆ ดังนั้นจะหาเอกสารที่เกี่ยวกับ GI และ สิว ยังไ่ม่น่าจะมีค่ะ) พอเข้าสู่ร่างกาย มันจะถูกย่อยและเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติอย่างรวดเร็ว

พอน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป ระบบร่างกายจะเริ่มส่งสัญญาณเตือนกันเองค่ะ (เซลล์เราฉลาดค่ะ เดี๋ยวบีมจะมาอธิบายทีหลังเกี่ยวกับเรื่องการทำงานระดับเซลล์อีกที) น้ำตาลที่สูงนี้จะไปกระตุ้นให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมาจำนวนมาก (อินซูิลินมีหน้าที่นำพาเอาน้ำตาลในเลือดไปใช้ในเซลล์ค่ะ เพราะการมีน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปเป็นอันตรายต่อร่างกาย เค้าจึงมีระบบอัตโนมัติเพื่อควบคุมตรงนี้)

พออินซูลินมาก ก็จะไปจับเอาน้ำตาลออกจากกระแสเลือดมาก ทำให้น้ำตาลในเลือดลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่สำคัญที่เกี่ยวกับสิวคือ ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำจะกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนให้ปล่อยฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ออกมา ซึ่งเราเคยรู้กันมาแล้วว่า เป็นฮอร์โมนเพศชายที่กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะมีหน้าที่ส่งสัญญาณให้กับตับปล่อยน้ำตาลออกมาค่ะ

นอกจากนี้ ยังทำให้เรารู้ึสึก "อยาก" กินของหวาน ๆ น้ำตาลเยอะ ๆ แบบบอกไม่ถูกนั่นเอง (และมักจะบังคับไม่ได้ด้วยค่ะ เพราะมันเป็นระบบอัตโนมัติ ร่างกายต้องการโดยสัญชาตญาณการอยู่รอด เราจะใช้สมองส่วนเหตุผลควบคุมไม่ได้เลย (บีมถึงบอกว่า ถ้าทานสูตร Wai ห้ามปล่อยให้ตัวเองหิวมากเด็ดขาด ไม่งั้นระดับน้ำตาลจะแกว่งมากเช่นกันค่ะ และอาจไม่ได้ผล) และพอเรากินของน้ำตาลมาก ๆ หรือค่า GI สูง ๆ (มักเป็นพวกแป้งขัดขาว ขนมเบเกอรี่ พิซซ่า ไำก่ทอด ฯลฯ)

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าหากนาน ๆ ครั้งจะเกิดขึ้นก็ไม่เป็นไรค่ะ

แต่สังเกตมั้ยคะว่า ชีวิตของเราพัวพันอยู่กับอาหารที่ผ่านกระบวนการมาเกือบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นมาม่า ขนมกรุบกรอบ (บีมขอเสริมนิดนึงนะคะ การที่เค้าเขียนว่าเติมวิตามินลงไป ยิ่งถ้าเป็น วิตามิน C เนี่ย ถ้ามันผลิตนานแล้วและเก็บมานานแล้ว วิตามินนี้ไม่เหลือมาถึงร่างกายเราแล้วค่ะ เพราะมันเป็นวิตามินที่โดนทำลายได้ง่ายที่สุด มันเป็นแผนการตลาดเพื่อให้คนเลือกซื้อเพราะ ผู้บริโภคเข้าใจว่า "เพื่อสุขภาพ" แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ วิตามินที่ดีที่สุดและเราจะได้รับมากที่สุดคือจากของสดเท่านั้น)


ยังไม่พอนะคะ การบริโภคของเราในแต่ละวันทำร้ายร่างกายเราเองตลอด ที่สำคัญคือ ทำให้ร่างกายเกิด "ภาวะดื้ออินซูลิน" (Insulin Resistance) ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินลดต่ำลง ซึ่งหน้าที่ปกติของอินซูลินคือดึงเอาน้ำตาลในเลือดมาใช้ แต่เมื่อประสิทธิภาพต่ำลง หมายความว่า น้ำตาลจะค้างอยู่ในกระแสเลือดมาก พอน้ำตาลในกระแสเลือดมาก ตับอ่อนยิ่งต้องผลิตอินซูลินออกมามากอีก

และยิ่งเราไปทานอาหาร GI สูงอีก ระดับน้ำตาลในเลือดก็แกว่งมากเท่านั้น

อย่าพึ่งถอยไปไหนนะคะ ตรงนี้สำคัญ และควรต้องอ่าน

อินซูลิน จะไม่เคยทำงานคนเดียว จะต้องสัมพันธ์กับฮอร์โมนอื่น ๆ ในร่างกาย และที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิวโดยตรงคือ insulin-like growth factor 1 (IGF 1) และ insulin-like growth factor binding protein 3 (IGFBP-3)

ซึ่งถ้าอินซูลินสูง IGF 1 จะเพิ่มตาม ส่วน IGFBP-3 จะลดลง

IGF 1 มีหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการการผลัดเซลล์ ขจัดเซลล์ที่ตายออกและผลิตเซลล์ใหม่แทน
IGFBP-3 มีหน้าที่แยกเซลล์ออกเป็นเดี่ยว ๆ เมื่อเซลล์นั้นตายลงเพื่อให้พร้อมต่อการขับออกไป

คราวนี้ี้จะอธิบายแล้วค่ะ ว่าการอุดตันเกิดจากภายในไม่ใช่ภายนอก

1. อินซูลิน แอนโดรเจน และ IGF-1 ทำให้มีการผลิตไขมันมากกว่าปกติ

2. IGF-1 เป็นฮอร์โมนเพื่อการเติบโต (Growth Hormone) และถ้าหากมันมีปริมาณเพิ่มขึ้น มันจะเร่งการสร้างเซลล์ใหม่ให้เร็วยิ่งขึ้น และเซลล์ที่มีอยู่ตายเร็วขึ้น พอเซลล์มันยิ่งดันตัวขึ้นมาเร็ว มันก็ขับออกมาทางรูขุมขนจำนวนมาก ถ้าขับไม่ทัน ก็เหมือนกับการจราจรติดแบบคอขวดค่ะ เกิดการจุกและอุดตัน

3. IGFBP-3 โดยปกติเค้าจะแยกเซลล์ที่ตายให้ออกเป็นเซลล์เดี่ยว ๆ แต่เมื่อปริมาณของฮอร์โมนตัวนี้ลดต่ำลง จึงทำให้เซลล์ที่ตายติดกันเป็นลูก ๆ เป็นแผง ๆ ออกมา และยิ่งผสมโรงกับฮอร์โมนตัวที่ 2. มันก็เป็นลูก ๆ ไปอุดตันรูขุมขนค่ะ

กล่าวโดยสรุปนะคะ ว่าการที่เราทานอาหารจำพวกแป้งขัดขาว หรืออาหารขยะมาก ๆ ทุกๆวัน หรือพวกอาหาร GI สูง (ลอง google นะคะ บีมขอเวลาอ่านหนังสือเล่มนี้และเขียนสรุปออกมาให้เพื่อน ๆ จบก่อน แล้วจะไปลงลึกเรื่อง GI ค่ะ) และทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งเหล่านี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และจะทำให้เกิดการแกว่งตัวอย่างมากของระดับน้ำตาลในเลือด

ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของ Wai ค่ะ ว่าเราต้องระวังอย่าให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งมาก โดยรับประทานอาหารสด ผลไม้สุก สลัดผัก ไม่ทานอาหารปรุงแต่ง

เมื่อแกว่งมาก อินซูลินและฮอร์โมน IGF-1 และ IGFBP-3 ก็มีการเพิ่มและลดมากเกินกว่าปกติ

และำทำให้เรา "หน้ามัน" และ "รูขุมขน" อุดตันได้ในที่สุด

เพื่อน ๆ บางคนอาจจะมีคำถามว่า แล้วทำไมบางคนหน้าใสจังทั้งที่กินอะไรเหมือนเราเลย

บีมขอตอบว่า จากผลการศึกษาของคุณ Seppo คือ คนเรามีความแตกต่างกันที่ยีน ขนาดฝาแฝดกันยังไ่ม่เหมือนกัน

แต่รู้มั้ยคะว่า แม้เค้าจะไม่เป็นสิว แต่เค้าจะเป็นอย่างอื่นค่ะ การทานอาหารปรุงแต่งหรือผ่านกระบวนการมาก ไม่เคยทำให้ใครสุขภาพดี

เค้าหน้าใส แต่อาจจะเป็นไมเกรน

เพียงแต่ร่างกายของเรา มันแสดงออกมาในรูปของสิวเท่านั้นเองและเป็นส่วนที่คนมองเห็นค่ะ

อยากให้มองในแง่ดีนะคะ ดีที่เรามองเห็น เราจะได้แก้ไขทัน

บางคนมันอยู่ข้างใน เค้ามองไม่เห็น ก็ชะล่าใจ ก็แก้ไขไม่ทัน

ทั้ง ๆ ที่เบาหวาน ไมเกรน มะเร็ง ฯลฯ มีสาเหตุเดียวกันกับสิวค่ะ

นี่ยังไม่จบนะคะ เป็นเพียงสาเหตุหลัก สาเหตุแรก ครั้งหน้าบีมจะมาลงอีกสาเหตุหนึ่งที่มีชื่อว่า "การอักเสบ" ค่ะ

ขอให้เพื่อน ๆ ตั้งใจอ่านและทำความเข้าใจให้ดี

หลังจากบีมได้อ่านหนังสือเล่มนี้ไปได้่ส่วนหนึ่ง บีมจึงได้เข้าใจว่า สิวไม่ใช่หายกันข้ามคืน เพราะเราสะสม "สาเหตุ" ของมันมาเป็นหลายปี บีมอยากให้เพื่อน ๆ ค่อย ๆ ทาน ใจเย็น ๆ เพราะนี่เป็นทางเดียวที่เราจะเป็นอิสระจากมันค่ะ ติดตามอ่านข้อมูลที่บีมสรุปมาไปเรื่อย ๆและทานผักสด น้ำปั่นผัก น้ำปั่นผลไม้ (ห้ามใส่น้ำตาล แต่บีมใส่น้ำผึ้งแทน) ทานตามสูตร Wai ไม่ไหวก็พัก แต่อยากให้ทำไปเรื่อย ๆ อย่าใจร้อนค่ะ บางคนอาจเร็ว บางคนอาจช้า บีมขอให้อดทน

หายแน่นอนค่ะ และเป็นแค่ทางเดียวเท่านั้นค่ะ จริง ๆ

แล้วมาติดตามกันต่อนะคะ ^^

ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ Clear For Life เขียนโดย Mr.Seppo Puusa หน้า 12-16

ความคิดเห็น

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า
ขอบคุณมากที่ให้ความรู้คะ
InSpring Beam กล่าวว่า
ด้วยความยินดีค่ะและขอขอบคุณที่ให้คอมเมนท์ค่ะ
ornicha กล่าวว่า
ขอบคุณมาก สำหรับบทความค่ะ ติดตามอ่านมาจาก acnethai หนูเพิ่งมาเป็นสิวเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ พอดีก่อนหน้านี้ เรียนหนัก นอนดึก สิวก็เลยเห่อขึ้นมา .. ลองใช้ยาก็แล้ว ไม่หายขาดซักที เลยตัดสินใจว่าจะไปหาหมอ แต่คุณแม่บอกว่า ลองทำตามวิธีสมุนไพรดูสิ หนังสือก็มีเยอะแยะไป .. แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนความคิดเลยซะทีเดียว
แต่ต้องขอบคุณ บทความของพี่บีม(ขอเรียกพี่นะคะ >.,<)มากๆๆๆๆ - มากที่สุด ที่ทำให้หนูเปลี่ยนความคิดได้ และอยากลองทำคามวิธีนี้ดู แล้วจะมารายงานผลนะคะ 555+
InSpring Beam กล่าวว่า
ถ้าหนูไม่เคยเป็นสิว และยังไม่เคยหาหมอ

พี่เชื่อว่า ถ้าปฏิบัติตามแนวทางที่พี่ได้แนะนำไว้ในบล็อกนี้ สิวของหนูน่าจะดีขึ้นค่ะ ^^ และน่าจะกลับไปหน้าใสเหมือนเดิมได้ ^^

เพราะหน้าพี่ที่เคยเสียสภาพอย่างมาก ยังกลับไปได้ค่ะ...

พี่เชื่อว่าทุกคนทำได้ถ้าตั้งใจและพยายาม ^^
difference กล่าวว่า
ชอบมากเลยค่ะ บทความที่ให้ประโยชน์และคนเขียนมีความรู้จริงในเรื่องที่เขียนแบบนี้ ดีใจมาก ๆ เลยที่มีคนศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังและนำมาลงให้อ่านกัน ปกติเวลาอ่านบทความเกี่ยวกับการรักษาสิวก็มีแต่เรื่องเดิม ๆ ลอกกันไปลอกกันมา แต่บล็อกของคุณบีมนั้นมีแต่บทความดี ๆ ทีละเอียดลึกซึ้ง อ่านแล้วทำให้เราเข้าใจสาเหตุของการเกิดสิวที่แท้จริง และทำให้รู้วิธีรักษาที่ถูกต้องด้วย ขอบคุณมากค่ะ ^^
InSpring Beam กล่าวว่า
คุณ difference คะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับ comment ที่ดีค่ะ และบีมดีใจถ้าหากสิ่งที่ได้เผยแพร่จะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ ค่ะ

สิ่งที่เหลือ ก็เหลือแค่รอให้ผู้ที่ได้อ่านทดลองทำค่ะ ซึ่งบีมก็หวังว่าเพื่อน ๆ ที่ได้ทดลองทำ จะเข้าใจกลไกของร่างกายและการเกิดสิวได้ในที่สุดค่ะ ^^