อาหารฤทธิ์ร้อนที่คนเป็นสิว "ควร" หลีกเลี่ยง

กลุ่มคาร์โบไฮเดรต
ข้าวเหนียว ข้าวแดง ข้าวดำ (ข้าวก่ำ ข้าวนิล) ข้าวอาร์ซี ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ เผือก มัน กลอย อาหารหวานจัด ขนมปัง ขนมกรุบกรอบ บะหมี่ซอง

กลุ่มโปรตีน
เนื้อ นม ไข่ เห็ดโคน (เห็ดปลวก) เห็ดก่อ เห็ดไค เห็ดหอม เห็ดหลินจือ ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ถั่วทอดทุกชนิด โปรตีนจากพืชและสัตว์ที่หมักดอง เช่น เต้าเจี้ยว มิโสะ โยเกิร์ต ซีอิ้ว แทมเป้ กะปิ น้ำปลา ปลาร้า เป็นต้น

กลุ่มไขมัน
รำข้าว จมูกข้าว ลูกก่อ งา เนื้อมะพร้า้ว กะทิ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดอัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดกระบก น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์ เป็นต้น

กลุ่มผักฤทธิ์ร้อน
ผักที่มีรสเผ็ด เช่น กระชาย กระเพรา ยี่หร่า โหระพา พริก แมงลัก กุ้ยช่าย (ผักแป้น) ต้นหอม หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียม ผักชี พริกไทย (ร้อนมาก) ขิง ข่า (ข่าแก่จะร้อนมาก) ขมิ้น ไพล ใบมะกรูด ตะไคร้ เครื่องเทศ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีพืชบางชนิดที่ไม่มีรสเผ็ดแต่มีฤทธิ์ร้อน (มีพลังงานความร้อนหรือแคลอรี่ที่มาก) เช่น คะน้า แครอท บีทรูท กะหล่ำปลี ชะอม ถั่วฝักยาว ถั่วพู สะตอ ลูกเนียง กระเฉด ลูกตำลึง ฟักทองแก่ โสมจีน โสมเกาหลี แปะตำปึง (ร้อนเล็กน้อย) ผักกาดเขียวปลี ใบยอ ผักโขม ใบปอ ผักแขยง ยอดเสาวรส หน่อไม้ เม็ดบัว ไข่น้ำ (ผำ) สาหร่่ายทะเล สาหร่ายน้ำจืด(เทา) ไหลบัว รากบัว แพงพวยแดง ใบยอดและเมล็ดกระถิน พืชที่มีกลิ่นฉุน เป็นต้น

กลุ่มผลไม้ฤทธิ์ร้อน
เป็นกลุ่มผลไม้ที่ให้น้ำตาล วิตามินหรือธาตุอาหารที่นำไปสู่ขบวนการเผาผลาญเป็นพลังงานความร้อน (แคลอรี่) ที่มาก เ่ช่น ฝรั่ง ขนุนสุก ลิ้นจี่ เงาะ ลำไย ทุเรียน น้อยหน่า สละ องุ่น ส้มเขียวหวาน กล้วยไข่ (สำหรับกล้วยหอมทองและกล้วยหอมเขียวมีรสหวานจัดจึงมักออกฤทธิ์ตีกลับเป็นร้อน) มะตูม ละมุด กล้วยปิ้ง ลูกลำดวน ลูกยางม่วง ลูกยางเีขียว ลูกยางเหลือง ลองกอง กระทกรก (เสาวรส) มะเฟือง มะปราง สมอพิเภก มะไฟ มะแงว ทับทิมแดง มะม่วงสุก ลูกยอ กระเจี๊ยบแดง ระกำ (ร้อนเล็กน้อย) มะขามสุก (ร้อนเล็กน้อย) เป็นต้น

อาหารที่มีฤทธิ์ร้อนมาก ถ้ากินมากเกินไป จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก
  • อาหารที่ปรุงเค็มจัด มันจัด หวานจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ฝาดจัดและขมจัด
  • อาหารกลุ่มไขมัน เ่ช่น รำข้าว จมูกข้าว ลูกก่อ งา เนื้อมะพร้าว กะทิ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดอัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์
  • เนื้อ นม ไข่ที่มีไขมันมาก รวมถึงสารที่มีสารเร่งสารเคมีมาก
  • พืชผักผลไม้ที่มีการสารเคมีมาก
  • อาหารที่ปรุงผ่านความร้อนนาน ๆ ผ่านความร้อนหลายครั้ง ใช้ไฟแรง หรือใช้คลื่นความร้อนแรง ๆ
  • อาหารใส่สารสังเคราะห์ ใส่สารเคมี
  • อาหารใส่ผงชูรส
  • สมุนไพร หรือยาที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดหรือบำรุงเลือด
  • วิตามิน แร่ธาตุ และอาหารเสริมที่สกัดเป็นน้ำ ผง หรือเม็ด ยกเว้นมีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่าขาดสารดังกล่าว
  • เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คาเฟอีน หรือน้ำตาลที่มากเกินไป เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น
  • อาหารที่มีโซเดียมสูง ได้แก่ อาหารแปรรูปหรือสำเร็จรูปต่าง ๆ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมอม ขนมกรุบกรอบ ขนมปัง อาหารกระป๋อง ไส้กรอก หมูยอ กุนเชียง น้ำหมัก ข้าวหมาก ปลาเค็ม เนื้อเค็ม ไข่เค็ม ของหมักดอง อาหารทะเล (จะมีทั้งไขมันและโซเดียมสูง) เป็นต้น
  • น้ำร้อนจัด เย็นจัด และน้ำแข็ง
โดยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนว่าจะงดหรือลดอะไร แค่ไหนที่ทำให้เกิดสภาพโปร่งโล่งสบาย เบากายและกำลังเต็มที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก ถอดรหัสสุขภาพ เล่ม ๒ "ความลับฟ้า: ถ้าสุขภาพพึ่งตนเกิดไม่ได้ หมอและคนไข้จะพากันป่วยตาย" โดย ใจเพชร มีทรัพย์ (หมอเขียว) หน้า ๗๕ - ๗๘

ความคิดเห็น

Unknown กล่าวว่า
นำไปประยุกต์ กับสูตรปั่นผัก เหมาะมาก ตอนแรกกำลังจะมาบอกคุณบีมว่าแครอทมีแป้ง มันจะกลายเป็นน้ำตาลได้ ตรงกับข้อมูลหยินหยางเลย วันนี้เราไม่ใส่แครอท สิวยุบไม่อักเสบเลย สรุป พืช หรือ ผลไม้ ที่ออกแนวแป้งๆ ก็ห้าม ถ้าอยู่ในช่วงฟื้นฟู หรือ ทานน้อยๆ ตอนนี้เราเอาสูตร คุณ Seppo,คุณ Wai และ หยินหยาง มาผสมกัน คือ ใช้น้ำมันมะกอก ถ้าอยากทานผลไม้หวาน ทานไข่ดิบด้วยถ้ารู้สึกเหนื่อย ทานผักปั่นแบบคุณ seppo ตลอดวัน โดยเลือกแต่ผักตามสูตรหยินหยาง 555 โอเคมากๆค่ะ
InSpring Beam กล่าวว่า
ว้าว ดีใจด้วยนะคะ
เอ หรือว่าต้องอนุโมทนา :-) อิอิ

จับหลักเก่งจังค่ะ

แล้วเดี๋ยวบีมจะเอาสูตรอาหารที่คุณหมอเขียวแนะนำไว้ถอนพิษร้อนมาลงให้อีกนะคะ จะได้ไม่เบื่อ :-)

ฝันดีนะคะ

อ้อ แล้วยังมีของคุณ Seppo เป็นหลักอื่นเพิ่มเติมนอกจากการทานมาอีกค่ะ รอชมเนื้อหาถัด ๆ ไปนะคะ

ขอบคุณมาก ๆ ที่เข้ามาคอมเมนท์ให้เพื่อน ๆ ดูกันค่ะ :-)

ขอให้สวยวันสวยคืนนะคะ